E-DUANG : เงาสะท้อน กรรมออนไลน์ ระทึก ระทึก ตุลาการ ศาลรัฐธรรมนูญ

คำว่า “กรรมติดจรวด” ในยุคหนึ่งอาจกำลังล้าสมัยเมื่อมาถึงยุคแห่งการเสียบบัตรแทนกัน

สำนวน”กรรมออนไลน์”กำลังเข้ามาแทนที่

ไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไม่ว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ล้วนหน้าดำคร่ำเครียด

เพราะว่ากรณีการเสียบบัตรแทนกันต่อร่างพรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 กำลังย้อนดึงเอากรณีคล้าย กันนี้ในอดีตตามมาหลอกหลอน

เพียงแต่อดีตในกรณีพรบ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทเป็น ส.ส.เพียง 1 คนจากพรรคเพื่อไทย ขณะที่กรณีร่างพรบ.งบประมาณ มีมากกว่า 1 คนที่เสียบบัตรแทนเพื่อน

      ทุกอย่างเห็นกันผ่าน”ออนไลน์” ไม่ว่าอดีต ไม่ว่าปัจจุบัน

 

ขอให้ย้อนไปศึกษากระบวนการตรวจสอบของ นายนิพิฎฐ์ อินทรสม บัติ ต่อกรณีของ นายฉลอง เทอดวีระพงษ์ ต่อกรณีของ นางนาที รัชกิจ ประการ

จุดผิดสังเกตอย่างสำคัญและกลายมาเป็นพยานหลักฐานคือการ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ค

วันและเวลาแจ้งชัดว่าดำเนินไปอย่างไร

ยิ่งกรณีที่ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐเสียบบัตร”ช่วยเพื่อน”ยิ่งเห็นกันจะจะ ผ่านคลิป ปฏิบัติการด้วยความคล่องแคล่ว ปราดเปรียว ไม่ว่า ส.ส.หญิง ไม่ว่า ส.ส.ชาย

หรือเมื่อมีการย้อนไปยังคำวินิจฉัยที่ 3-4/2557 ของศาลรัฐธรรมนูญก็ดึงออกมาได้จากอินเตอร์เน็ต บันทึกเอาไว้ครบถ้วนและสมบูรณ์

นี่มิได้เป็นกรรมติดจรวด หากแต่เป็น”กรรมออนไลน์”

 

พลันที่ข้อร้องเรียนไม่ว่าจะจากส.ส.พรรครัฐบาล ไม่ว่าจะจากส.ส.พรรคฝ่ายค้านส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญ

สปอตไลต์ย่อมตามไปฉายจับด้วยความตื่นเต้นระทึกใจ

ระทึกใจว่าคำวินิจฉัยในปี 2563 กับคำวินิจฉัยในปี 2557 จะมีความสัมพันธ์ ยึดโยง อยู่ด้วยกันหรือไม่

และหากไม่เหมือนกันจะมีเหตุผลอย่างไรในการอธิบาย

อย่าว่าแต่รัฐบาลจะตื่นเต้น อย่าว่าแต่ฝ่ายค้านจะตื่นเต้น แม้กระทั่งประชาชนทั่วไปก็ตื่นเต้น

ตื่นเต้นว่า”กรรม”จากอดีตจะเดินทางมากับ”ออนไลน์”อย่างไร