ยานยนต์ สุดสัปดาห์/สันติ จิรพรพนิต/ท้าพิสูจน์ ‘มาสด้า 3’ ใหม่ ช่วงล่างหนึบ-สาดโค้งสนุก

สันติ จิรพรพนิต

ยานยนต์ สุดสัปดาห์/สันติ จิรพรพนิต [email protected]

ท้าพิสูจน์ ‘มาสด้า 3’ ใหม่

ช่วงล่างหนึบ-สาดโค้งสนุก

 

เป็นอีกหนึ่งความตื่นเต้นของผมกับการทดสอบรถยนต์ “มาสด้า 3” ใหม่

เรื่องของเรื่องเพราะช่วงระหว่างรอคิวยืมรถมาทดสอบนั้น “มาสด้า 3” สร้างกระแสร้อนแรงด้วยการคว้ารางวัล “รถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี” (THAILAND CAR OF THE YEAR) 2019

รางวัลนี้เป็นของสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย ที่มอบให้กับรถยนต์เพียง “รุ่นเดียว” เท่านั้นในแต่ละปี

คณะกรรมการที่ให้คะแนนคัดเลือกจากสื่อมวลชนนักทดสอบรถฝีมือดีกว่า 60 คน ที่เคยทดลองขับรถเกือบทุกรุ่นในประเทศไทยมาแล้ว ช่วยลงคะแนนโดยแบ่งออกเป็นหัวข้อหลักๆ อาทิ

ความโดดเด่นของสมรรถนะการขับขี่ เทคโนโลยีล้ำสมัย ความสวยงาม ความสะดวกสบาย ความปลอดภัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และความคุ้มค่าคุ้มราคา

การคัดเลือกไม่ได้แบ่งแยกเซ็กเมนต์หรือราคาแต่อย่างใด ขอให้เป็นรถที่เปิดตัวในปี 2562 เท่านั้น มีสิทธิ์เข้าชิงรางวัลนี้แล้ว

จึงปฏิเสธไม่ได้ว่ารถรุ่นใดก็ตามที่คว้ารางวัลนี้ไปต้องเหนือชั้นในทุกๆ ด้านอย่างมาก

 

การทดสอบทริปนี้ผมยิงยาวไปชะอำ จ.เพชรบุรี โดยเดินทางในช่วงกลางดึก เรื่องของเรื่องเพราะติดงานในวันที่ต้องเดินทาง กอปรกับเข็ดขยาดกับการขับรถบนถนนพระราม 2 และเพชรเกษม ที่ผ่านมาหลายสิบปีแล้วยังปรับปรุงกันไม่จบไม่สิ้นเสียที

แต่กระนั้นยังมีบางช่วงที่ความเร็วชะลอตัว ทั้งๆ ที่ผมเดินทางออกมาช่วง 5 ทุ่มกว่าแล้ว

ทัศนวิสัยยามค่ำคืนไม่มีปัญหาใดๆ ด้วยความสว่างไสวของไฟหน้าแบบโปรเจ็กเตอร์ LED อัจฉริยะ ALH (Adaptive LED Headlamps) พัฒนาให้ลำแสงละเอียดยิ่งขึ้น

ยิ่งตอนเปิดไฟสูงนี่หายห่วง เห็นแทบทุกมุมสายตา

ส่วนไฟท้ายเป็นแบบ LED มีขนาดเรียวเล็กลง

ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว สวยเต็มซุ้มพอดี แต่อาจกระเป๋าเบาหน่อยหากถึงเวลาเปลี่ยนยาง

กำลังของเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน รุ่นล่าสุด DOHC 4 สูบ 16 วาวล์ ความจุ 1,998 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 165 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 213 นิวตัน-เมตร

หากเทียบกับเครื่องยนต์บล็อกเดิมแทบไม่ต่างกันมากนัก แต่มีความกระชับมากขึ้น และแรงบิดเพิ่มขึ้นนิดหน่อย

เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด สกายแอคทีฟ นุ่มนวลและไม่มีรอยต่อเวลาเปลี่ยนเกียร์ ทำได้ดีกว่ารุ่นเก่า

 

ที่นั่งโอบกระชับสรีระได้ดี เช่นเดียวกับพวงมาลัยคมกว่าเดิม

มาสด้า 3 ใหม่ ใส่ความปลอดภัยและลูกเล่นมาพอสมควร โดยเฉพาะระบบการควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง “G-Vectoring Control Plus” (GVC Plus) ใช้เบรกเพื่อเพิ่มการควบคุมการหันเหของตัวรถ

เพิ่มเสถียรภาพในการควบคุมรถ เมื่อผู้ขับขี่ขับรถออกจากโค้งโดยคืนพวงมาลัยกลับไปที่ตำแหน่งกึ่งกลาง ทำให้ตัวรถมั่นคงมากขึ้น สามารถออกจากโค้งที่แม่นยำ

ความปลอดภัยด้วยเทคโนโลยี “i-ACTIVSENSE” จัดเต็มแน่นอน

ที่เจ๋งๆ ยกให้ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติแบบ Advance หรือ Advanced SBS (Advanced Smart Brake Support)

สามารถตรวจจับรถคันหน้า จักรยาน รวมถึงคนเดินถนน

ระบบควบคุมความเร็วและพวงมาลัยตามรถคันหน้า ซึ่งสามารถตั้งระยะห่างจากรถคันหน้าได้ตามความต้องการ

ระบบช่วยหยุดรถเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง SBS-RC (Smart Brake Support-Reverse Crossing)

ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)

ระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง (360 View Monitor)

ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LAS (Lane Keep Assist System)

ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน LDWS (Lane Departure Warning System) ฯลฯ

 

ช่วงล่างของมาสด้า 3 ใหม่ ด้านหน้าแบบแม็กเฟอร์สันสตรัต พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังกึ่งอิสระทอร์ชั่นบีม

ช่วงล่างด้านหลังเป็นที่น่าสังเกตว่าเหมือนย้อนยุคนิดๆ เพราะก่อนหน้านี้ใช้แบบมัลติลิงก์ ที่ทันสมัยกว่า

ผมจำได้รางๆ เมื่อครั้งที่ได้รับเชิญไปญี่ปุ่นกับมาสด้า ช่วงก่อนเปิดตัวมาสด้า 3 เจเนอเรชั่นล่าสุดนี้ เพราะการกลับมาใช้ช่วงล่างทอร์ชั่นบีม เป็นที่สงสัยของกลุ่มผู้สื่อข่าวไทยที่เดินทางไปในทริปนั้น

วิศวกรมาสด้าระบุว่า ช่วงล่างกึ่งอิสระทอร์ชั่นบีมไม่ได้เป็นของเก่าทั้งหมดแต่พัฒนาไปอีกขั้น ซึ่งเหมาะกับมาสด้า 3 ใหม่มากกว่า

จากการทดสอบของผมต้องถือว่าไม่ผิดหวังกับระบบรองรับของรถรุ่นนี้

ทั้งหนึบแน่นสร้างความมั่นใจอย่างมากกับการเข้า-ออกโค้งแรงๆ บวกกับความแข็งนิดๆ ให้อารมณ์สปอร์ตและสนุกมากขึ้น

ยิ่งหากปรับโหมดเป็น “สปอร์ต” เครื่องยนต์ทำงานกระชับมากขึ้น ลากรอบมากขึ้น เชื่อว่าวัยรุ่นน่าจะชอบบุคลิกของเครื่องยนต์และช่วงล่างแบบนี้

อัตราเร่งตีนต้น-กลาง-ปลายหายห่วงครับ เพียงแต่การเพิ่มความเร็วเพื่อเร่งแซงรอรอบนิดๆ แต่ถ้าจับจังหวะได้คุ้นชินไม่ถือว่ามีปัญหาอะไร

ถ้ากันพลาดแนะนำปรับมาโหมดสปอร์ต หากต้องขับบนถนนแบบ 2 เลนสวน

แต่ข้อเสียเครื่องยนต์มีอาการกระชากนิดๆ หากขับเพียงลำพังอาจไม่มีปัญหาอะไร กลายเป็นสนุกด้วยซ้ำ แต่ถ้ามีผู้โดยสารต้องเบาเท้าลงนิดหนึ่ง

 

ภายในออกแบบได้เรียบหรู ตัดปุ่มต่างๆ ที่ไม่จำเป็นออก พวงมาลัย 3 ก้านขนาดกระชับมือ พร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่น แผงหน้าปัดและมาตรวัดดิจิตอลแบบ TFT LCD แยกเป็น 3 วงกลม

ตรงกลางเป็นมาตรวัดความเร็วขนาดใหญ่แบบดิจิตอล สามารถปรับเปลี่ยนหน้าจอได้ตามความต้องการ ขณะเดียวกันมีอัตราความเร็วรถแสดงที่กระจกหน้าให้ด้วย

ความบันเทิงสั่งงานผ่านหน้าจอสี Center Display แบบ Widescreen ขนาด 8.8 นิ้ว ควบคุมด้วยปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander บริเวณคอนโซลกลาง เชื่อมต่อ Mazda Connect ที่มาพร้อม Apple CarPlay

ที่เหนือความคาดหมาย ผมยกให้ลำโพงแบรนด์หรู “Bose” รอบทิศทาง 12 ตำแหน่ง ไม่ต้องไปปรับเปลี่ยนอะไรแล้ว

ระบบแอร์อัตโนมัติ เย็นฉ่ำสุดๆ

ส่วนเรื่องรูปร่างหน้าตาขอผ่านนะครับ เพราะเคยนำเสนอไปแล้ว

บทสรุปของการทดสอบขับ “มาสด้า 3” ใหม่ ในทริปนี้ ประทับใจกับอัตราเร่งและช่วงล่าง

สมกับตำหน่ง “รถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี” จริงๆ

มาสด้า 3 ใหม่มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย ที่นำมาทดสอบเป็นรุ่นท็อป 2.0 SP ราคา 1,198,000 บาท

ส่วนอีก 2 รุ่นที่เหลือคือ 2.0 S ราคา 1,069,000 บาท

และรุ่นล่าสุด 2.0 C ราคา 969,000 บาท

โดยราคาทั้งแบบ 4 และ 5 ประตูเท่ากันในทุกรุ่นย่อย