จุรินทร์ คุย กก.บห.ปชป. เข้มเรื่ององค์ประชุมสภา จากนี้งบ’63 จะเข้า ซีกรบ.ห้ามแพ้ฝ่ายค้าน

ปชป.ถก กก.บห. ”องอาจ”ลั่นพร้อมรบ.สนามกทม.“จุรินทร์”กำชับ กม.งบฯระวังอย่าเเพ้ฝ่ายค้าน จะเกิดผลกระทบต่อการทำงาน

เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคประชาธิปัตย์ ว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ร่วมกับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคฯ ร่วมประชุมกับคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ใช้เวลาประมาน5 ชั่วโมง ตั้งเเต่เวลา13.00 น.-18.00 น. เพื่อทบทวนและกำหนดทิศทางยุทธศาสตร์ของพรรค เบื้องต้นได้กำหนดว่า ต่อไปจะให้มีการประชุมกรรมการบริหารเดือนละครั้ง นอกจากนี้หัวหน้าภาคแต่ละภาคได้รายงานและเเจ้งเรื่องที่ดำเนินการไปแล้วต่อที่ประชุมว่ามีอะไรบ้าง

ทั้งนี้ เรื่องที่น่าสนใจคือในส่วนของภาคกทม. นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค ที่ดูแลงานภาค กทม.ได้เเจ้งที่ประชุมถึงการเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งท้องถิ่น และรายงานความคืบหน้าการคัดตัวผู้สมัครผู้ว่ากทม.ในนามพรรคประชาธิปัตย์ ว่า ขณะนี้มีรายชื่อที่อยู่ในข่าย 4-5 คนที่มีความพร้อมโดยกำลังคัดเลือกหาบุคคลที่เหมาะสมที่สุด ส่วนความพร้อมในการเลือกตั้ง สมาชิกสภาเขต(สข.) ดำเนินการคืบหน้ากว่า80เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ นายองอาจ ยังเเจ้งที่ประชุมว่า เชื่อว่า การเลือกตั้ง ผู้ว่ากทม. การเลือกตั้ง สก.และสข.จะเกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกันทั้ง3เวที เนื่องจากพรรคประชาธิปัตย์ได้เสนอร่างกฎหมายแก้ไขพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกทม.ให้สามารถกลับมามีการเลือกตั้งสข.ได้เหมือนเดิม ขณะนี้กระบวนการการแก้ไขกฎหมายได้ผ่านฝ่ายกฎหมายของสภาผู้เเทนฯแล้วจากนั้นจะถูกส่งให้นายกรัฐมนตรีลงนามรับรองเพราะเป็นกฎหมายเกี่ยวกับการเงิน ดังนั้น ในการเลือกตั้งท้องถิ่นของกทม.ประชาธิปัตย์พร้อมทันทีที่มีการเปิดสนามทั้ง3เวที

รายงานข่าวแจ้งว่า นอกจากนี้ในเรื่องการทำงานในสภาฯ ที่เกิดเหตุสภาฯล่มซ้ำ 2 ครั้ง รวมถึงเสียงวิจารณ์เรื่องรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำนั้น นายจุรินทร์ ในฐานะหัวหน้าพรรค ได้ย้ำในที่ประชุมว่า ควรระมัดระวังองค์ประชุมของรัฐบาล และส.ส.ของพรรคในสภาฯองค์ประชุมต้องมีความพร้อมตลอดเวลาเพื่อไม่ให้ติดขัดสำหรับรัฐบาลในการผ่านกฎหมายหรือญัตติต่างๆ โดยเฉพาะหลังจากนี้กฎหมายงบประมาณจะเข้าสู่สภาฯก็ควรระมัดระวัง ไม่ให้เกิดองค์ประชุมไม่ครบ หรือลงคะเเนนเเพ้ฝ่ายค้านเหมือนที่ผ่านมา ก็จะเกิดผลกระทบต่อการทำงานได้