คนของโลก : อดัม ชิฟฟ์ ประธานไต่สวนคดีถอดถอนทรัมป์

อดัม ชิฟฟ์ เพิ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานคณะกรรมาธิการยุติธรรมสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ไต่สวนในคดีที่เป็นที่จับตามากที่สุดในสหรัฐอเมริกาในเวลานี้ นั่นก็คือ “การถอดถอนประธานาธิบดี”

ชิฟฟ์ ผู้เชี่ยวชาญกฎหมายสมาชิกพรรคเดโมแครต จะทำหน้าที่ประธานองค์คณะไต่สวนว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ละเมิดต่อคำสัตย์ปฏิญาณรับตำแหน่งด้วยการขอความช่วยเหลือจากประธานาธิบดียูเครนเพื่อประโยชน์ของตนในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2020 ที่กำลังจะมาถึงหรือไม่

ก่อนหน้านี้น้อยคนนักที่จะเลือกชิฟฟ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรวัย 59 ปีมาดนิ่ง เป็นแนวหน้าของเดโมแครตในการโจมตีเข้าใส่ประธานาธิบดีสหรัฐที่ต้องต่อสู้ดิ้นรนกับสารพัดปัญหาทุกวิถีทางเพื่อยึดเก้าอี้ประธานาธิบดีเอาไว้

การที่ ส.ส.ผู้มีบุคลิกเหมือนกับ “บาทหลวง” หรือไม่ก็ “ครูใหญ่” ที่น้อยมากที่จะแสดงความคิดเห็นทางการเมือง กลับออกมาโจมตีโดนัลด์ ทรัมป์ ในกรณีต่อสายคุยกับประธานาธิบดียูเครนเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมานั้น ทำให้ความเห็นดังกล่าวดูมีน้ำหนักอย่างยิ่ง

ชิฟฟ์ระบุว่า การร้องขอความ “อนุเคราะห์” จากประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนของทรัมป์ในครั้งนั้นสะท้อนให้เห็น “การข่มขู่ผู้นำต่างชาติในลักษณะของมาเฟียแบบดั้งเดิม”

“นี่คือวิธีการพูดของหัวโจกมาเฟียว่า “คุณทำอะไรให้เราบ้าง?””

 

ความเห็นซึ่งทรัมป์ตอบโต้อย่างรุนแรงว่าชิฟฟ์บิดเบือนคำพูดของตน พร้อมทั้งโจมตีชิฟฟ์ว่าเป็น “นักการเมืองทุจริต”

“นายชิฟฟ์นี่เป็นนักการเมืองทุจริตสุดๆ” ทรัมป์ระบุเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พร้อมกับโจมตีการดำเนินกระบวนการถอดถอนตนว่าเป็น “แผนการร้าย” และเป็นการ “ล่าแม่มด”

ส.ส.ตัวแทนจากรัฐแคลิฟอร์เนีย ในพื้นที่ “ฮอลลีวู้ด-เบอร์แบงก์” ย่านอุตสาหกรรมบันเทิงของประเทศ เป็นคนบุคลิกสุภาพ เคยพิสูจน์ผลงานมาแล้วว่าเป็นกรรมาธิการสืบสวนที่แน่วแน่ และยากที่จะต่อกรด้วย

ชิฟฟ์นั้นมี “ตรรกะ ตรงไปตรงมา รอบคอบ และหนักแน่น” แนนซี่ เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเดโมแครตระบุ

นักการเมือง นักปั่นจักรยานที่ผ่านสนามไตรกีฬามาแล้วถึง 50 ครั้ง ชนะใจเพโลซี ที่เลือกให้เป็นชิฟฟ์เป็นประธานคณะกรรมาธิการยุติธรรมในการไต่สวนคดีถอดถอนทรัมป์ เหนือตัวเต็งส่วนหนึ่งเพราะผลงานที่เคยสร้างไว้ในยุคทศวรรษที่ 80 ในการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่เอฟบีไอรายแรกและรายเดียวในประวัติศาสตร์ ที่ถูกจำคุกในข้อหา “เป็นสายลับให้รัฐบาลรัสเซีย”

“ผมเรียนรู้มามากเกี่ยวกับการเจรจาต่อรองของรัสเซีย ไม่ว่าจะเป็นวิธีปฏิบัติการ เป้าหมาย หรือใครที่เป็นจุดอ่อนที่พวกเขาหาอยู่” ชิฟฟ์ระบุเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา

ประสบการณ์ดังกล่าวนั้นทำให้ชิฟฟ์ได้นั่งเป็นสมาชิก “คณะกรรมาธิการข่าวกรองของสภาผู้แทนราษฎร” ก่อนหน้านี้ คณะทำงานที่สอบสวนเกี่ยวกับการแทรกแซงของรัสเซียในการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่ทรัมป์ได้รับชัยชนะเมื่อปี 2016 ที่ผ่านมา

ชิฟฟ์เอาจริงเอาจังเกี่ยวกับการสอบสวนกรณีการถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์ และตอบโต้สมาชิกพรรครีพับลิกันที่พยายามเชื่อมโยงกระบวนการดังกล่าวเป็นเรื่องการเมือง

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บันทึกการไต่สวนของคณะกรรมาธิการเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ชิฟฟ์จัดการกับสมาชิกพรรครีพับลิกันที่พยายามดิสเครดิตพยาน และเปลี่ยนประเด็นที่ให้ความสนใจอย่างอยู่หมัด

 

ชิฟฟ์เองยืนยันว่าหลักฐานนั้นหนักแน่นมากกว่าเพียงแค่บันทึกบทสนทนาทางโทรศัพท์ที่ทรัมป์ขอความ “อนุเคราะห์” จากประธานาธิบดียูเครนเสียอีก

ชิฟฟ์เขียนบทความใน “ยูเอสเอทูเดย์” เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ระบุว่าในการไต่สวนนั้นจะได้ยินคำให้การโดยตรงจากข้าราชการที่ทุ่มเทและรักชาติ ว่าพวกเขาได้รู้เรื่องราวการใช้ประโยชน์จากนโยบายต่างประเทศสหรัฐแบบผิดๆ เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวทางการเมืองของประธานาธิบดีอย่างไร

“ผมหวังว่าสมาชิกสภาคองเกรสและประชาชนจะมุ่งเน้นไปที่ข้อเท็จจริงและเนื้อหาสาระของการไต่สวน ไม่ใช่เรื่องทางการเมืองหรือการแบ่งพรรคแบ่งพวก” ชิฟฟ์ระบุ