ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 1 - 7 พฤศจิกายน 2562 |
---|---|
คอลัมน์ | ธุรกิจพอดีคำ |
เผยแพร่ |
“จีน-เมริกา”
ปี2016
วันที่ “โดนัลด์ ทรัมป์” ได้รับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา
มีโทรศัพท์สายหนึ่ง
ต่อสายถึงท่านประธานาธิบดีคนใหม่
คู่สายนั้นมาจากอีกฟากโลก
ประธานาธิบดีของประเทศ “ไต้หวัน”
โทร.มาเพื่อแสดงความยินดีแก่โดนัลด์ ทรัมป์
ทีมงานถามเขาว่า
“จะรับสายโทรศัพท์มั้ย”
คำตอบของโดนัลด์ ทรัมป์
นำมาสู่ความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยรอยร้าว
ของสองยักษ์ใหญ่
อินทรีและมังกร
จีน-เมริกา
ชั่วโมงนี้
ใครก็ตามที่ติดตามความเป็นไปของโลก
จะต้องอ่านหนังสือเล่มหนึ่งจบแล้วแน่ๆ
หนังสือเล่มใหม่ของ ดร.อาร์ม ตั้งนิรันดร
อาจารย์คณะนิติศาสตร์จากจุฬาฯ
ที่คร่ำหวอดในวงการกฎหมายของจีนและอเมริกา
หนังสือมีชื่อว่า “จีน-เมริกา”
เล่มบางๆ อ่านง่าย ไม่นานก็จบ
แต่เนื้อหานั้น แน่นหนา ได้ความรู้
ดร.อาร์มพูดถึงปัญหาข้อพิพาทระหว่าง จีนและอเมริกาในวันนี้
เปรียบได้กับ “หมูสามชั้น” ครับ
ชั้นแรก “ปัญหาทางการค้า”
ตอนนี้อเมริกาเริ่มจะสร้างสงครามการค้ากับจีน
โดยการขึ้น “กำแพงภาษี”
หมายความว่า สินค้าที่มาจากจีน จะเอามาขายในอเมริกา
จะโดนภาษีนำเข้าพิเศษ
ทำให้สินค้าของจีนที่วางขายในประเทศอเมริกานั้น
มีราคาแพงกว่าปกติ
เมื่อสินค้ามีราคาแพง ก็ทำให้ผู้บริโภคในอเมริกาซื้อหาได้ยากขึ้น
สินค้าในอเมริกาที่ทำแข่งขันกับจีนก็มีโอกาสขายได้มากขึ้น
กลายเป็นสินค้าจีนขายไม่ได้
สร้างปัญหากับพ่อค้า-แม่ค้าชาวจีน
ที่ยังพึ่งพาตลาดของอเมริกาอยู่
และเช่นเดียวกัน
เมื่ออเมริกาทำกับจีนเยี่ยงนี้
มีหรือจีนจะอยู่เฉย
แกกีดกันฉัน
ฉันก็จะกีดกันแกเช่นกัน
สินค้าเกษตรมากมาย โดยเฉพาะ “ถั่วเหลือง” จากเกษตรกรชาวอเมริกัน
ปกติก็จะนำมาขายในประเทศจีน
ตลาดใหญ่อันดับสองของโลก
พี่จีนเล่นขู่จะเลิกนำเข้าถั่วเหลืองทั้งหมด
เล่นเอาเกษตรกรในอเมริการะส่ำระสาย
ไม่แพ้โดนัลด์ ทรัมป์
จีนเลือกจะโจมตีสินค้าเกษตรของอเมริกา
ก็เพราะว่า “เกษตรกร” นั้นคือฐานเสียงหลักของโดนัลด์ ทรัมป์
ถ้าคนกลุ่มนี้ไม่มีความสุข ไม่อยู่ดีกินดี
ก็อาจจะมีผลกับฐานเสียงของทรัมป์ในการเลือกตั้งครั้งถัดไป
ที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี 2020 ก็เป็นได้
แต่นี่ “สงคราม” เพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น
เปรียบกับภูเขาน้ำแข็งในทะเล
ก็เหมือนกับแค่ยอดที่โผล่พ้นน้ำให้พวกเราชาวโลกเห็น
ชั้นที่สองของหมูตัวนี้
คือการแข่งขันอย่างรุนแรงของเรื่องเทคโนโลยี
อเมริกากีดกันบริษัท “หัวเว่ย” จากจีน
ไม่ให้ใช้เทคโนโลยี 5 G ในประเทศของตน
แถมหาเรื่องมากล่าวหาสารพัด
อเมริกาเป็นมหาอำนาจทางเทคโนโลยีมายาวนาน
จีนนั้นก็มีชื่อเสียงเรื่องการ “ลอก” เทคโนโลยีเช่นกัน
จนวันนี้ จีนอาจจะมีบางอย่างก้าวล้ำอเมริกาไปแล้ว
เป็นเรื่องที่อเมริกาต้องออกมากีดกันเทคโนโลยีจากจีน
ไม่ให้ได้รับการ “พัฒนา” ต่อในประเทศอเมริกา
แถมชวนเพื่อนๆ แถบยุโรปมาร่วม “กีดกัน” ด้วย
ส่วนจีนนั้นทำมานานแล้ว
กูเกิล เฟซบุ๊ก อเมซอน
บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่เหล่านี้
ไม่สามารถโตได้ในจีน เนื่องจากจีนสนับสนุนบริษัทจีนด้วยกัน
ไบดู เทนเซ็นต์ อาลีบาบา
การกีดกันทางเทคโนโลยีจึงเป็นเครื่องมือที่ทั้งสองประเทศใช้มายาวนาน
ซึ่งเชื่อมโยงกับหมูชั้นที่สาม
นั่นคือ “เรื่องความมั่นคง”
เทคโนโลยี 5 G ของหัวเว่ยนั้น
มีการพูดคุยกันว่า สามารถที่จะประมวลผลข้อมูลได้เร็วขึ้นกว่าเดิมหลายร้อยเท่า
และข้อมูลต่างๆ ก็อาจจะรั่วไหลได้
เรื่องข้อมูลความมั่นคงต่างๆ เป็นเรื่องที่อเมริกากลัวมาก
การกีดกันทางเทคโนโลยีอย่าง 5 G ไม่ให้สามารถนำมาใช้ในอเมริกา
อีกนัยก็เป็นการป้องกันความมั่นคงอีกทาง
ยุคนี้เขาเลิกสู้กันด้วยรถถัง-เครื่องบินแล้ว
แต่สู้กันด้วยข้อมูลที่เหนือกว่า
อย่างที่ซุนวูบอกไว้
“รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง”
จะรู้เขาได้ ก็ต้องขโมยข้อมูลกันละ
โดนัลด์ ทรัมป์ ตัดสินใจรับโทรศัพท์แสดงความยินดีจากไต้หวัน
ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีประธานาธิบดีคนไหนในอเมริกาทำมากว่า 40 ปี
ไต้หวันนั้นเป็นส่วนหนึ่งของประเทศจีน
การรับโทรศัพท์จากไต้หวัน
เป็นการยอมรับโดยนัยว่า ไต้หวันคืออีกประเทศหนึ่ง
คือการไม่ให้เกียรติจีนอย่างรุนแรง
ทรัมป์นี่แสบจริงๆ เลย..ใช่มั้ยครับ