วันที่ 30 ตุลาคม 2562 นี้ ดาวพฤหัส (๕) จรจะย้ายจากราศีพิจิก เข้าไปสู่ราศีธนู ซึ่งเป็นเรือนศุภะของดวงเมือง

ดาวพฤหัส (๕) เป็นดาวพระเคราะห์หลัก ราศีธนูเป็นเรือนศุภะของดวงเมือง เรือนศุภะหมายถึงความสุข ความสงบของบ้านเมือง

เมื่อช่วงต้นปี ดาวพฤหัส (๕) จรโคจรถอยหลังหรือพักร์กลับเข้าเรือนมรณะ หรือราศีพิจิกระหว่างวันที่ 25 พฤษภาคม 2562 จนถึงวันที่ 30 ตุลาคม 2562 ดวงเมืองดวงตก เศรษฐกิจตกต่ำอย่างมาก

แต่เมื่อดาวพฤหัส (๕) จรโคจรย้ายราศีกลับเข้ามาในเรือนศุภะ เรื่องเศรษฐกิจมีแนวโน้มว่าจะดีขึ้น ดีกว่าเมื่อดาวพฤหัส (๕) อยู่ในเรือนมรณะ

อย่างไรก็ตาม ดาวพฤหัส (๕) โคจรย้อนกลับมาพบกับดาวเสาร์ (๗) ซึ่งเป็นดาวพระเคราะห์หลักของดาวบาปเคราะห์ ดาวทั้งสองดวงนี้ไม่ถูกกัน เป็นคนละพวกกัน

จากสถิติที่เคยปรากฏมาแล้ว บรรยากาศของบ้านเมืองจะเหมือนก่อสร้างเมืองกรุงเทพฯ หรือสมัยปลายกรุงธนบุรี ซึ่งบ้านเมืองแตกแยกกันเป็นก๊กเป็นเหล่า

เมื่อไรก็ตามที่ดาวพฤหัส (๕) โคจรเข้าไปอยู่ร่วมราศีเดียวกันกับดาวศุกร์ (๗) จะเป็นสัญลักษณ์ให้ทำนายเหตุการณ์ล่วงหน้าได้ว่า เสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกัน ก็ต้องกัดกัน ทำให้เกิดความสับสนวุ่นวายหรือโกลาหล

สัญลักษณ์ของความสับสน โกลาหล และแตกแยกจะรุนแรงขึ้นในช่วงเวลา 6 เดือนข้างหน้านี้ ระหว่างวันที่ 30 ตุลาคม 2562 ถึง 13 มีนาคม 2563

ปีใดก็ตามดาวคู่นี้อยู่ร่วมกัน มักมีความยุ่งยากแก่โลก เป็นโกลาหลต่างๆ เหตุการณ์ร้ายๆ ที่เกิดขึ้นมาแล้ว ในระหว่าง พ.ศ.2503-2504 ซึ่งเคยเกิดมาแล้วมีดังต่อไปนี้

24 พฤษภาคม 2503 ดาวพฤหัส (๕) กุมดาวเสาร์ (๗) ณ ราศีธนู แผ่นดินไหวในญี่ปุ่นตายนับพันคน

13 มิถุนายน 2503 เมืองกาญจนบุรี แผ่นดินถล่มลึกลงไปเป็น 3 บ่อใหญ่ๆ

4 สิงหาคม 2503 ในประเทศลาว ร้อยเอกกองแล ยึดอำนาจทำการปฏิวัติ

14 เมษายน 2504 เกิดอุบัติเหตุเครื่องบินตก พลอากาศเอกเฉลิมเกียรติ วัฒนางกูล แม่ทัพอากาศ เครื่องบินตกที่ไทเป เสียชีวิตพร้อมกับนายทหารอากาศของไทยอีกหลายคนตายทั้งลำ

16 พฤษภาคม 2504 เกาหลีใต้ปฏิวัติ ภายใต้การนำของ นายพลจางโดยุง เป็นผู้นำโค่นอำนาจของซิงมังรี

ความแตกแยกจะเกิดขึ้นโดยทั่วไป ในทุกพรรคการเมือง ทุกองค์กร หรือทุกหน่วยงานของรัฐก็ว่าได้

โหราศาสตร์เปรียบเสมือนอุตุนิยมวิทยา หรือเป็นการคาดการณ์อนาคต ด้วยการนำเอาเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว มาทำนายอนาคตล่วงหน้าเรื่องบรรยากาศของบ้านเมือง

เมื่อเศรษฐกิจดีขึ้น นักการเมืองก็จะแบ่งพวกแบ่งฝ่าย แล้วก็หันมาทะเลาะกันเอง จะมีความขัดแย้งโกลาหลเกิดขึ้นในทุกพรรค ทุกวงการ

บรรยากาศจะคล้ายกับปลายสมัยกรุงธนบุรี ที่บ้านเมืองต้องแตกกันเป็นก๊ก เป็นเหล่าก็จะเกิดขึ้น

ดวงเมืองกรุงเทพฯ ได้เกิดขึ้นในระหว่างความขัดแย้งนั่นคือ ดาวพฤหัส (๕) ร่วมกับดาวเสาร์ (๗) ในเรือนศุภะ คนไทยจึงมีสัญลักษณ์ของความแตกสามัคคีเป็นพื้นนิสัย

อนึ่ง ดวงเมืองยังคงดวงตกมากยิ่งขึ้น ระหว่างวันที่ดาวอาทิตย์ (๑) จร โคจรเข้าไปในเรือนอริ ระหว่างวันที่ 18 กันยายน ถึง 16 ตุลาคมของทุกปี และในเรือนมรณะ ระหว่างวันที่ 17 พฤศจิกายน ถึง 16 ธันวาคม และสุดท้าย ดาวอาทิตย์ (๑) จรโคจรเข้าไปในเรือนวินาส ระหว่างวันที่ 14 มีนาคม ถึง 13 เมษายน 2563 ทั้ง 3 ช่วงเวลาดังกล่าวเป็นเหมือนหลุมที่บ้านเมืองจะต้องประสบเคราะห์กรรมไม่มากก็น้อย

ทั้งนี้เมื่อดาวอาทิตย์ (๑) จรโคจรผ่านเข้าเรือนชะตาที่เสียของดวงเมืองใน 3 ช่วงเวลาดังกล่าวของทุกปี บ้านเมืองก็มักจะมีอาการดวงตกรุนแรงยิ่งขึ้น

ดังที่ผู้เขียนเรียกว่า หลุ 3 หลุมของดวงเมือง

ผู้เขียนขอกล่าวถึงสถิติเกี่ยวกับบรรยากาศของ “กาลเวลา” ที่ดาวพฤหัส (๕) จร โคจรเข้าไปร่วมกับดาวเสาร์ (๗) ในราศีธนู หรือเรือนศุภะของดวงเมืองเอาไว้เพียงเท่านี้

เพื่อให้ผู้อ่านที่สนใจวิชาโหราศาสตร์ได้ติดตามบรรยากาศของบ้านเมืองในระหว่าง 6 เดือนข้างหน้านี้ หลังจากวันที่ 30 ตุลาคม 2562 ถึง 13 มีนาคม 2563 ต่อไป