พท.ขานรับ แนววินิจฉัยปธ.ศาลอุทธรณ์ รับพิจารณาฟ้องกกต. ชี้ รธน.คือต้นเหตุ ต้องรื้อทิ้ง

ที่ปรึกษาพท. ขานรับ แนววินิจฉัยปธ.ศาลอุทธรณ์ รับพิจารณาฟ้องกกต. ปิดช่องใช้ดุลพินิจจากช่องว่างของรธน. เสธ.แมว หนุน สร้างมติมหาชนรื้อทิ้งฉบับ ชี้ ต้นเหตุทำการเมืองวุ่นวาย

เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร ที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงคำวินิจฉัยของประธานศาลอุทธรณ์ที่รับรองการใช้สิทธิของผู้เสียหายสามารถฟ้องกกต.ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบได้โดยตรง ว่า กรณีดังกล่าวจะส่งผลให้เกิดความเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรม พร้อมๆการใช้ดุลยพินิจในการปฏิบัติหน้าที่ของกกต.จะต้องระมัดระวังขึ้น เพราะที่ผ่านมา การใช้ดุลยพินิจของกกต.ต่อการยืนหลักจำนวนส.ส.พึงมีและการใช้สูตรคำนวณที่ไม่เสถียรมาคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อตั้งแต่เริ่มแรกนั้น มันเป็นแนวทางที่ขัดกับการคำนวณของบรรดาราชบัณฑิตทางคณิตศาสตร์ นักกฎหมายชั้นนำ และอดีตกกต.หลายคน และขณะนี้ได้ส่งผลอลเวงมาถึงการเลือกตั้งซ่อมส.ส.ที่เพิ่งผ่านพ้นไป และน่าจะลามไปถึงในอนาคตอีกด้วยอย่าง การเลือกตั้งซ่อมที่จ.นครปฐม แม้พรรคอนาคตใหม่แพ้ แต่ได้หยิบยกประเด็นขึ้นมาว่า พรรคของตนเหลือส.ส.น้อยกว่าส.ส.พึงมีอยู่ 1 คน จึงควรได้รับสิทธิที่จะเลื่อนส.ส.ในบัญชีรายชื่อขึ้นมาได้อีก 1 คน หากเป็นเช่นนั้นจริงก็จะส่งผลกระทบถึงพรรคอื่นที่มีจำนวนส.ส.เกินส.ส.พึงมี จะต้องหายไป 1 คน

“นี่จะทำให้ปัญหาเกิดขึ้น เพราะคงไม่มีใครยอม จนเลยเถิดไปฟ้องร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้ได้ข้อยุติ สิ่งที่น่ากังวลกว่านั้นคือเรื่องนี้ อาจจะเป็นเหตุให้มีการฟ้องร้องกกต.ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่และประพฤติมิชอบ กระทำการทุจริตเพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่บางพรรคเข้าไปอีกหรือไม่ ดีไม่ดีเรื่องเก่าๆ จะถูกขุดกลับมาฟ้องร้องตามหลอกหลอนกกต.ซ้ำเข้าไปอีก มันจะเกิดเป็นบรรยากาศที่ไม่สร้างความน่าเชื่อถือในกระบวนการเลือกตั้งของประเทศขึ้นมาอีกจนได้“ พล.ท.ภราดร กล่าว และว่า อย่างไรก็ดี เหตุที่มันวุ่นวายกันไม่รู้จบเช่นนี้ เพราะมีเหตุมาจากรัฐธรรมนูญฉบับสืบทอดอำนาจที่เขียนกันมาแบบไม่สุดครบถ้วนกระบวนความ จึงเกิดช่องว่างให้มีการใช้ดุลพินิจเฮงซวยเกิดขึ้น จนสร้างปัญหาให้กับประเทศชาติ ดังนั้น จึงจำเป็นที่จะต้องมาร่วมกันรณรงค์ให้ผู้รักประชาธิปไตยได้มาร่วมกันสร้างมติมหาชนเพื่อนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ให้จงได้