จดหมาย/ฉบับประจำวันที่ 25-31 ตุลาคม 2562

จดหมาย

0 วงเวียนชีวิตที่ขาดตอน

 

ตี3 เตี่ยปั่นจักรยานไปตลาดสด

จัดหาเนื้อหมู ลูกชิ้น เส้นก๋วยเตี๋ยว บะหมี่ ต้นหอม ผักชี และอุปกรณ์ในการปรุง

ตี 5 หอบสัมภาระจากตลาดสด

จัดแยกประเภท เตรียมใส่รถสามล้อแดงปั่น

เมียและลูกชายอีก 2 คนช่วยกันพร้อมหน้า

น้ำต้มซุปลวกเส้นในถังใหญ่ ถูกช่วยกันยกขึ้นรถ เป็นรายการสุดท้าย

7 โมงเช้าเตรียมตัวออกจากบ้าน

โดยมีเตี่ยเป็นสารถี ลูกชาย 2 คนนั่งท้าย

ตามติดไปช่วยเตี่ยเสิร์ฟ และล้างชาม

เร่ไปตามจุดชุมชนที่เคยขายประจำ จนบ่าย จวนเย็น ก็พากันกลับบ้าน

ซึ่งเป็นห้องเช่าเล็กๆ ที่แออัด

ชีวิตจะวนเวียนอยู่แบบนี้ตลอดมา ตั้งแต่ลูกชาย 2 คนยังไม่เกิด

 

แล้ววันหนึ่ง

วงเวียนของชีวิตก็ขาดตอนไป

ขณะที่พ่อและลูกชายคนโตช่วยกันเข็นรถเพื่อจะข้ามสะพานข้างหน้า

โดยมีลูกชายคนเล็กเดินล่วงหน้าไปรอพ่อและพี่อีกฝั่งหนึ่งของสะพาน

รถเมล์ประจำทางที่ขับแข่งกันมาเป็นพายุบุแคม ก็แซงกันบนสะพาน คันที่แซงหักหลบรถที่สวนมา

เบียดเครื่องมือทำมาหากินของ 3 พ่อลูก แหลกยับกลางสะพาน

 

แล้ววงเวียนชีวิตก็ขาดตอนไป

เหลือเพียงลูกชายคนเล็กและเมียที่บ้าน ต้องเผชิญกับชะตากรรมอันโหดร้ายกันต่อไป

ตากล้อง : ปิยพงศ์ (เมืองหละปูน)

โลเกชั่น : สะพานข้ามคลองบางซื่อ บนถนนลาดพร้าวตัดใหม่ ช่วงหน้าแยกลาดพร้าวไปบางกะปิ เมื่อปี 2512

ปิยพงศ์

(เมืองหละปูน)

 

50 ปีผ่านมา ดูภาพแล้ว

ก็ยังเศร้า

สำหรับวงเวียนชีวิตที่ขาดตอน

ไม่ว่าของ “บุคคล” ที่ไม่คาดฝัน

รวมทั้งของครอบครัวเตี่ยขายก๋วยเตี๋ยวนั้น

แต่ที่เศร้ากว่า

วงเวียนชีวิต ประชาธิปไตยของประเทศนี้

ที่ขาดตอนมาหลายครั้ง

และคงจะขาดอีก

ด้วยมีวงจรอุบาทว์

ฉวยจังหวะและโอกาสเข้ามาเชื่อมต่อ

ไม่เคยยอมให้ขาดตอน