มติเอกฉันท์! คกก.วัตถุอันตรายแบน 3 เคมีอันตราย มีผลบังคับใช้ 1 ธ.ค.นี้เป็นต้นไป

เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2562 ที่ กระทรวงอุตสาหกรรม นายภาณุวัฒน์ ตริยางกูรศรี รักษาการรองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย ครั้งที่ 41-9/2562 ว่า การประชุมคณะกรรมการวัตอันตรายในวันนี้ (22 ตุลาคม 2562) ได้มีการพิจารณาเรื่องที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอให้มีการพิจารณาปรับวัตถุอันตราย พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต ในความรับผิดชอบของกรมวิชาการเกษตร จากวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ให้เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2562 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ คณะกรรมการฯได้มีการพิจารณาข้อมูลประกอบด้วยผลการดำเนินการของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ได้นำบัญชาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไปดำเนินการโดยมีการตั้งคณะทำงานพิจารณาและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รายงานว่าได้มีการพิจารณาข้อมูลวิธีการและสารทางเลือกในการจัดการวัชพืชตันทุนของวิธีการและสารทางเลือก ข้อมูลสารทดแทนสารคลอร์ไพริฟอส ปริมาณสารที่คงเหลือ ณ ปัจจุบันซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เห็นว่าสามารถบริหาร จัดการเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการปฏิบัติดักยกเลิก การใช้วัตถุอันตรายทั้ง 3 รายการและผู้แทนหน่วยงานของ กระทรวงสาธารณสุขได้นำเสนอข้อมูลความเป็นอันตราย และข้อมูลการตรวจสอบเฝ้าระวังสารตกค้างในสินค้า เกษตรในท้องตลาด นอกจากนี้คณะกรมการฯยังได้นำข้อมูลและข้อเสนอที่ได้รับจาภาคส่วนต่างๆ ซึ่งมีทั้งส่วนที่ต้องการให้ยกเลิกการใช้ และส่วนที่ไม่เห็นด้วยหากจะยกเลิกการใช้มาพิจารณาในที่ประชุมด้วย

อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการฯ ได้มีการลงมติแบบเปิดเผยเช่นเดียวกับทุกครั้งที่มีการลงมติ ผลการลงมติคือ พาราควอต ยกเลิกการใช้ภายในวันที่ 1 ธันวาคม 2562  จำนวน 20 คน ยกเลิกการใช้ในวันที่ 1 ธันวาคม 2562 จำนวน 1 คน จำกัดการใช้ จำนวน 5 คน ไกลโฟเซต ยกเลิกการใช้ จำนวน 19 คน จำกัดการใช้ จำนวน 7 คน และคลอร์ไพริฟอส ยกเลิกการใช้ จำนวน 22 คน จำกัดการใช้ จำนวน 4 คน

นอกจากนี้ มติที่ประชุมเห็นชอบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอให้ปรับวัตถุอันตายพาราควอต คลอร์ไพริฟอสและไกลโฟเซต ที่อยู่ในความรับผิดขอบของกรมวิชาการเกษตร จากวัตอันตรายชนิดที่ 3 ให้เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2562 โดยมอบหมายให้กรมวิชาการเกษตรไปดำเนินการยกร่างประกาศกระทรวง ว่าด้วยบัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นแล้วเสนอคณะกรมการฯ เพื่อพิจารณาให้ความเห็นในการประชุมครั้งต่อไป ทั้งนี้ได้ขอให้กรมวิชาการเกษตรไปพิจารณาระยะเวลาความเหมาะสมในการบริหารจัดการวัตถุอันตรายที่ยังคงเหลือยู่หลักจากประกาศมีผลบังคับใช้ โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อผู้เกี่ยวข้องเช่น เกษตรกร หรือร้านจำหน่าย เป็นตัน โดยให้รับรองมติในที่ประชุม