วันที่ 16 ตุลาคม 2562 สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า นางแครี่ หล่ำ หัวหน้าบริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ต้องเลิกกลางแถลงนโยบายประจำปีต่อสภานิติบัญญัติในวันนี้ลงแบบกลางคัน หลังจากสภาชิกสภาฝ่ายค้านส่งเสียงโห่ไล่ระหว่างนางหล่ำแถลง นับเป็นการประชุมต่อสภานิติบัญญัติครั้งแรก หลังจากต้องเลื่อนออกไปถึง 2 ครั้งจากการประท้วงของผู้ชุมนุม โดยครั้งนี้ มีการคุ้มกันอย่างเข้มงวดจากตำรวจปราบจลาจล

โดยสมาชิกสภานิติบัญญัติฝ่ายค้านซึ่งมีแนวคิดสนับสนุนประชาธิปไตย ได้ตะโกนแทรกว่า “ทำตามข้อเรียกร้อง 5 ข้อ ห้ามขาดแม้แต่ข้อเดียว” ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องของผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลที่เสนอให้ ถอดถอนร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน หยุดดำเนินคดีและปล่อยตัวผู้ประท้วงที่ถูกจับกุม ยุติการเรียกผู้ชุมนุมว่าเป็นผู้ก่อการจลาจล ตั้งกรรมการอิสระเพื่อสอบสวนตำรวจที่ใช้กำลังเกินกว่าเหตุกับผู้ชุมนุม และจัดการเลือกตั้งที่ผู้นำฮ่องกงต้องได้รับเลือกโดยตรงจากประชาชนฮ่องกงตามหลัก 1 สิทธิ 1 เสียง

ไม่เพียงเท่านี้ สมาชิกสภาฝ่ายค้านบางคน ยังสวมหน้ากากสีจิ้นผิง ประธานประเทศจีน พร้อมกับชูโปสเตอร์เรียกร้องให้ฝ่ายบริหารฮ่องกงทำตามข้อเรียกร้องของผู้ประท้วงทุกข้อ

ด้านบีบีซีไทยรายงานว่า ส.ส.ฝ่ายค้านที่ส่งเสียงตะโกนโห่ไล่ ได้ฉายสโลแกนของกลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยขึ้นบนจอภาพด้านหลังเธอ ทำให้นางแลมต้องหยุดการแถลงไปชั่วขณะ ก่อนจะกลับมาแถลงอีกครั้ง แต่ก็ถูกขัดขวางอีก จนในที่สุดการแถลงนโยบายต้องยกเลิกไป

การขึ้นแถลงนโยบายของนางหล่ำ เกิดขึ้นหลังจากชั่วโมงที่ผ่านมา สภาล่างของสหรัฐฯได้ผ่านกฎหมาย 3 ฉบับ หนึ่งในนั้นคือ รัฐบัญญัติว่าด้วยสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยฮ่องกง นับเป็นการส่งสัญญาณสนับสนุนแนวทางของฝ่ายผู้ประท้วงในฮ่องกง ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับรัฐบาลจีน โดยออกมากล่าวหาส.ส.สหรัฐว่า มีเจตนาชั่วร้ายที่จะบั่นทอนเสถียรภาพของฮ่องกง

สำหรับรัฐบัญญัติสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย ได้ระบุให้รัฐมนตรีต่างประเทศ มีอำนาจหน้าที่ตรวจสอบและรับรองทุกปีว่า ฮ่องกงยังคงไว้ซึ่งหลักการปกครองตนเอง เพื่อให้ได้ซึ่งการรักษาสิทธิพิเศษที่อนุญาตให้เป็นการเฉพาะกับฮ่องกง