“อภิสิทธิ์” เชื่อเลือกตั้งซ่อม ส.ส.นครปฐมมีซื้อเสียง วอน “กกต.” ดูแลให้เกิดความเที่ยงธรรม

เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คุณหญิงกัลยา โสภณพานิช พร้อมคณะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคประชาธิ   ปัตย์ เดินทางไปช่วยนายสุรชุย อนุตธโต ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.นครปฐม เขตเลือกตั้งที่ 5 พรรคประชาธิปัตย์ หมายเลข 3 รณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ส.ส.เขต 5 นครปฐม ที่วัดทรงคนอง อ.สามพราน จ.นครปฐม ท่ามกลางประชาชนที่มาตักบาตรเทโวในวันออกพรรษา

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มั่นใจว่านายสุรชัยมีเสียงที่ดีมากในช่วงโค้งสุดท้ายนี้ และมีข่าวว่าในพื้นที่นี้มีกลุ่มอิทธิพลออกล่ารายชื่อเพื่อซื้อเสียงบ้างแล้ว

“วันนี้มาในฐานะที่เป็นสมาชิกพรรคปชป. และเมื่อมีการเลือกตั้งซ่อม ทางผู้บริหารพรรค ปชป. ผู้อำนวยการเลือกตั้งพรรค ปชป.ท่านแจ้งผมว่า มาช่วยได้ไหม เพราะคุณสุรชัยเขาตั้งใจที่จะเป็นผู้แทนมาตั้งแต่การเลือกตั้งครั้งที่แล้ว ก็มาช่วยหาเสียงให้ เราก็สนับสนุนกระบวนการประชาธิปไตย การมาลงพื้นที่คราวนี้ ก็อย่างที่บอกมาในนามสมาชิกพรรค ที่มาก็อยากให้พี่น้องตื่นตัว เพราะว่าเราต้องการให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิกันมากๆ จะได้มีคะแนนที่สุจริตในการที่จะตัดสินการเลือกตั้ง ในส่วนของวันเลือกตั้งเป็นวันหยุดกลางสัปดาห์นั้น ก็อยากให้ทุกส่วนให้ความร่วมมือให้พี่น้องประชาชนออกไปใช้สิทธิ และสำหรับเรื่องของข่าวว่ามีกลุ่มอิทธิพลเข้ามาซื้อสิทธิขายเสียงในพื้นที่นั้น ก็ได้ข่าวมาแล้วเหมือนกัน ก็อยากให้เจ้าหน้าที่ และ กกต.เข้ามาดูแลเพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม ขอฝากให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งกันให้มากๆ และให้ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบดูแลให้เป็นการเลือกตั้งที่เป็นธรรม สุจริต และส่งเสริมกระบวนการเลือกตั้ง อยากให้ กกต.ได้ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพราะการเลือกตั้งก็เป็นส่วนสำคัญเป็นหัวใจของระบอบประชาธิปไตย เพราะหากการเลือกตั้งไม่สุจริต ไม่เที่ยงธรรม ก็จะนำมาซึ่งปัญหาต่างๆ ดังนั้น กกต.ต้องเข้มงวดกวดขันพร้อมรับคำวิจารณ์ และส่วนตัวมาวันนี้ไม่กังวลกับคำครหา เพราะวันนี้มาทำหน้าที่สมาชิกพรรค” นายอภิสิทธิ์ กล่าวและว่า เรื่องรัฐธรรมนูญนั้น อยากให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน และเห็นปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้นจากรัฐธรรมนูญ แต่ว่าก็ต้องมาดูให้ชัดเจนกันเสียก่อนว่าเป้าหมายของการแก้ไขต้องการให้รัฐธรรมนูญเป็นประชาธิปไตยมากขึ้นส่งเสริมสิทธิ เสรีภาพของประชาชนอะไรบ้าง ซึ่งไม่มีเหตุผลที่จะต้องแก้ไข หยิบเรื่องเหล่านั้นขึ้นมาแล้วเกิดความขัดแจ้งก็สมควรที่จะหลีกเลี่ยง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอภิสิทธิ์หลีกเลี่ยงที่จะไม่ตอบเรื่องของการเมืองมากไปกว่านี้ และปฎิเสธที่จะตอบเรื่องของการจะลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

ด้านนายสุรชัย กล่าวถึงกระแสการซื้อสิทธิขายเสียงว่า มีประชาชนคอยช่วยสอดส่องให้ในเรื่องของการซื้อสิทธิขายเสียง ด้วยการส่งข้อมูลเข้ามาให้มากมาย

“มีทั้งรายชื่อผู้ที่จด และจะแจกเงิน มีหมดและได้รวบรวมไว้หมดแล้ว” นายสุรชัย กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า การแข่งขันที่ดุเดือดคราวนี้มีความมั่นใจแค่ไหน นายสุรชัย กล่าวว่า รอบนี้มั่นใจมาก เพราะไม่ได้มาแข่งขันตรงนี้กับใคร แต่แข่งขันกับตัวเอง เพราะทำงานกับพื้นที่มานานเป็นสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) มา 10 กว่าปี คลุกคลีปัญหาต่างๆ มากมาย เชื่อมั่นว่าชาวสามพรานในการตัดสินใจครั้งนี้ และจะตัดสินใจเลือกคนที่รู้ปัญหา เพราะฉะนั้นมั่นใจมาก

เมื่อถามว่า ระหว่างพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) กับพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) พรรคใดเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวที่สุด นายสุรชัย กล่าวว่า เป็นคู่แข่งทั้งหมดทุกพรรคที่ลงสมัคร แต่คิดว่าคู่แข่งที่น่ากลัวที่สุด คือ ประชาชน ประชาชนคือคนที่ต้องดึงมาเป็นมิตรให้มากที่สุด พรรค อนค. พรรค ชทพ.และพรรคอื่นๆ ก็มีนโยบายของเขาแต่ตนมั่นใจพรรค ปชป.ืั้ยืนอยู่กับประชาชนมาตลอด ทำเพื่อประชาชนมาตลอด ครั้งนี้ ขอแข่งขันกับตัวเอง เพื่อเอาชนะใจประชาชนคนสามพราน และมาทำงานให้ชาวสามพราน ซึ่งโค้งสุดท้ายจะออกพบประชาชนเป็นปกติ พูดกับปราชนให้มากที่สุด