หนุ่มสาวในไทย ร่วม “Friday For Future” พร้อมกับทั่วโลก แสดงพลังเร่งแก้ไขปัญหาโลกร้อน

วันที่ 20 กันยายน 2562 หนุ่มสาวหลายพันคนจากหลายเมืองทั่วโลก ได้จัดชุมนุมแสดงพลังภายใต้แคมเปญ “Friday for Future” ซึ่งจุดเริ่มต้นมาจาก เกรธ่า ธุนเบิร์ก นักเรียนสาวชาวสวีเดนวัย 16 ที่ไม่เข้าโรงเรียนและทำกิจกรรมรณรงค์แก้ไขปัญหาโลกร้อนกับเพื่อนนักเรียน จนจุดกระแสความใส่ใจต่อปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ และปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยเกรธ่าได้ประกาศเชิญชวนคนหนุ่มสาวจากทั่วโลก ร่วมทำกิจกรรมเพื่อกระตุ้นสำนึกถึงรัฐบาลหลายประเทศให้เร่งแก้ไขปัญหาโลกร้อน ก่อนที่อนาคตจะไม่มีที่สำหรับมวลมนุษยชาติรุ่นต่อไป

โดยกิจกรรม Friday for Future เกรธาซึ่งอยู่ระหว่างร่วมกิจกรรมและพบปะกับเหล่าสมาชิกวุฒิสภาที่สภาคองเกรสที่ประเทศสหรัฐฯ เมื่อวานนี้ ได้ประกาศกิจกรรมโดยจะจัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 20 และวันศุกร์ที่ 27 กันยายน โดยกิจกรรมในวันนี้ คนรุ่นใหม่หลายเมืองทั่วโลก ร่วมแคมเปญก่อนจะมีการประชุมสามัญประจำปีของสมัชชาใหญ่องค์การสหประชาชาติ ครั้งที่ 74 ซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันพรุ่งนี้ หนึ่งในวาระสำคัญคือ การประชุมระดับผู้นำว่าด้วยการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ (UN Climate Action Summit) ซึ่งเป็นวาระสำคัญของโลกที่ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกัน

สำหรับประเทศไทยในวันนี้ คนหนุ่มสาวกว่า 200 ชีวิตซึ่งส่วนใหญ่มาจากโรงเรียนนานาชาติ ได้ร่วมกิจกรรมเดินขบวนไปยังกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ย่านอารีย์ พร้อมทำแฟลชม็อบและแอ็คชั่นเพื่อแสดงสัญลักษณ์เป็นข้อเรียกร้องถึงรัฐบาลไทยให้แก้ไขปัญหาโลกร้อน โดยทุกคนต่างตะโกน “ปกป้องโลกของเรา” ขณะก้าวเท้าไปยังกระทรวงฯ

อีกทั้ง ระหว่างเดินขบวนผู้ประท้วงถือป้ายรณรงค์ข้อความต่างๆ แต่งตัวหลากสีสัน  ร้องเพลงและเล่นดนตรี นอกจากนั้นยังมีการแสดงแกล้งตาย ที่ผู้เดินขบวนนอนบนพื้นและทำท่าแกล้งตาย ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของผลกระทบร้ายแรงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อม

น.ส.นันทิชา โอเจริญชัย ผู้ประสานงานกลุ่ม Climate Strike Thailand กล่าวถึงแอ็คชั่นนอนแกล้งตายเรียงรายหน้ากระทรวงฯนี้ว่า นี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นหากเราไม่ลงมือจัดการปัญหาโลกร้อนที่เกิดขึ้นในขณะนี้ วันนี้เราเรียกร้องให้รัฐบาลไทยประกาศภาวะฉุกเฉินทางสภาพภูมิอากาศและหยุดใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล

น.ส.นันทิชา ยังเผยว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความเสี่ยงอย่างยิ่งต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก ซึ่งเราได้เห็นผลกระทบรายวันในเหตุการณ์อุทกภัยและภัยแล้งร้ายแรงเมื่อเร็วๆ นี้ และมีแนวโน้มที่จะเกิดการขาดแคลนน้ำและอาหารขึ้น

“การเดินขบวนครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดการลงมือปฎิบัติการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างเร่งด่วน ขณะที่ผู้ปล่อยมลพิษต้องมีความรับผิดชอบต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนและสิทธิของเยาวชนในอนาคต”

ทั้งนี้ เยาวชนทั่วโลกจะเดินขบวนประท้วงระหว่างวันที่ 20-27 กันยายนนี้ รวมทั้งการเดินขบวนที่เชียงใหม่วันที่ 27 กันยายน เพื่อกดดันภาคเอกชนและรัฐบาลให้ลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างรวดเร็วและทันทีทันใดตามข้อตกลงปารีส ซึ่งมีเป้าหมายที่จะคงอุณหภูมิโลกให้สูงขึ้นต่ำกว่า 1.5 องศาเซลเซียสเพื่อหลีกเลี่ยงหายนะภัยที่มิอาจหวนกลับคืนสภาพเดิมได้ จากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากการกระทําของมนุษย์

การเดินขบวนเพื่อปกป้องสภาพภูมิอากาศได้รับแรงบันดาลใจจากเกรต้า ธันเบิร์ก เยาวชนนักเคลื่อนไหวด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่เพิ่งได้รับรางวัล Ambassador of Conscience Award ประจำปี 2562 จากแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นโดยผู้นำเยาวชนในระดับท้องถิ่นกว่า 100 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งชุมชนพื้นเมืองและกระบวนการเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน สำหรับประเทศไทยมีการจัดกิจกรรม Climate Strike Thailand มาแล้วสองครั้ง คือเมื่อเดือนมีนาคมและพฤษภาคมที่ผ่านมา

ด้านนายอดิศร นุชดำรงค์ รองปลัดกระทรวงทรัพย์ฯ ซึ่งเป็นผู้แทนกระทรวงฯออกมารับหนังสือข้อเรียกร้อง กล่าวว่า นี่เป็นสิ่งที่คนหนุ่มสาวได้แสดงความกังวล ซึ่งเราถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีและไม่ถือเป็นการก่อความรำคาญ

ที่มาภาพ / เฟซบุ๊กแฟนเพจ Climate Strike Thailand