“วิรัช” ชี้ ซักฟอก “ประยุทธ์” เกินเลยต้องรับผิดชอบ เอกสิทธิ์ส.สไม่คุ้มครอง -หน.พรรคร่วมรบ.จ่อหารือแก้รธน. แบ่งเค้กปธ.กมธ.ยึดอาวุโส-ความถนัด โยน บิ๊กพปชร.แจกเก้าอี้ให้พรรคเล็กหรือไม่

เมื่อวันที่ 9 กันยายน ที่รัฐสภา นายวิรัช รัตนเศรษฐ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ถึงความเตรียมพร้อมการอภิปรายทั่วไปกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นำครม.ถวายสัตย์ไม่ครบตามรัฐธรรมนูญในวันที่ 18 กันยายนนี้ ว่า เบื้องต้นพล.อ.ประยุทธ์ และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี จะมาเป็นผู้ชี้แจง เชื่อว่าการอภิปรายจะเป็นไปตามที่ฝ่ายค้านได้ยื่นญัตติม‬า นอกกรอบไม่ได้ ซึ่งในส่วนของเวลา จะเริ่มตั้งแต่ 09.30 น.เห็นว่า มากพอสมควร และไม่ต้องจัดสรรเวลา เพราะฝ่ายค้านยื่น ฝ่ายรัฐบาลจะเปิดโอกาสให้อภิปรายเต็มที่ เราคงไม่ทักท้วงอะไรมากหากอภิปรายอยู่ในกรอบ เชื่อว่า ทุกคนมีวุฒิภาวะ หากพูดกระทบไปถึงสถาบัน บุคคลนั้นจะต้องรับผิดชอบตนเอง ไม่มีเอกสิทธิ์ส.ส.คุ้มครอง ทั้งนี้ การอภิปรายจะเป็นลักษณะเปิดเผย คนพูดต้องปฏิบัติตามกฏหมาย หากก้าวล่วงต้องรับผิดชอบเอง

เมื่อถามว่า หากฝ่ายค้านอภิปรายซ้ำซ้อน วกวน ฝ่ายรัฐบาลจะเสนอปิดการอภิปรายหรือไม่ นายวิรัช กล่าวว่า ถ้าอภิปรายซ้ำซ้อนเล็กน้อยคงไม่เป็นไร แต่ถ้าอภิปรายวกวนก็ต้องพิจารณาหน้างานอีกครั้ง แต่ขอย้ำว่า จะเปิดโอกาสฝ่ายค้านเต็มที่ เพราะไม่เช่นนั้นจะถูกตำหนิได้ว่าวันอภิปรายน้อยแล้ว ยังจะให้เวลาน้อยอีก

‪นายวิรัช กล่าวถึงการเสนอญัตติเพื่อตั้งคณะกรรมาธิการศึกษาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคประชาธิปัตย์ ว่า หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลจะหารือกันอย่างเป็นทางการหลังประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในวันที่ 10 กันยายน ที่ทำเนียบรัฐบาล สำหรับพรรคพลังประชารัฐ ที่ผ่านมาเคยคุยกันไว้ว่าจะต้องเตรียมการเรื่องนี้ไว้อย่างไรบ้าง แต่เนื่องจากขณะนี้ทั้งปชป.และฝ่ายค้านก็ได้ยื่นไปก่อนหน้านี้แล้ว เราก็นำมาดูเพื่อใช้เป็นแนวทางเดียวกันว่า หากจะแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องแก้ไขส่วนใดบ้าง ซึ่งในอนาคตหากได้ข้อสรุปคงต้องเชิญวุฒิสภามาร่วมด้วย โดยในวันที่ประชุมส.ส.ของพปชร.วันที่ 10 กันยายน จะได้หยิบยกเรื่องดังกล่าวมาหารือด้วย ส่วน‬การจัดสรรตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการที่พรรคได้ 8 ตำแหน่งนั้น อยู่ที่นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพปชร. นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพปชร.และนายสุชาติ ชมกลิ่น ประธานส.ส. เป็นผู้จัดสรรให้ โดยยึดหลักอาวุโสเป็นหลัก ควบคู่กับความถนัด ส่วนจะแบ่งโควต้าให้พรรคเล็กหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่ในพรรคจะหารือกัน