เผยแพร่ |
---|
สภาพที่บรรดาลุงๆป้าๆทั้งหลาย ไม่ว่าในแวดวงการทหาร ไม่ว่าในแวดวงการเมือง ไม่ว่าในแวดวงดารา กำลังบังเกิดความหงุด หงิดอันเนื่องแต่พรรคอนาคตใหม่
ไม่ใช่เป็นเรื่องของ “เฟคนิวส์” อย่างที่ลุงๆป้าๆออกมาโวย ออกมากระฟัดกระเฟียด
หากแต่เป็นเรื่อง “การต่อสู้”ในทาง”ความคิด”
ความคิดตั้งแต่เรื่องพื้นฐานอย่างที่สุดในแบบ “อนาคตเรากำ หนดเอง” และความคิดในเชิงโครงสร้างที่สรุปออกมาเป็น”รัฐราช การรวมศูนย์”นั่นแหละ คืออาวุธอันทรงพลังไม่ต่างไปจากแสงเฮ้ากวงที่พรรคอนาคตใหม่ปล่อยออกมาจากภายในตึกไทยซัมมิท
ผ่านคนอย่าง”พี่ทิม” ผ่านคนอย่าง”พี่ไหม”
เพราะมัวแต่คิดเรื่อง”เฟคนิวส์”ลุงๆป้าๆบางคนจึงเพียรพยายามในการตัดต่อคลิปออกมาเป็นเสียง “ลุงทักษิณ” สนทนาต้าอวยกับ”พ่อของฟ้า”
ปล่อยออกมาเพียง 1 นาที บรรดาคนรุ่นใหม่ที่เฝ้าอยู่หน้าจอก็จำแนกแยกแยะออกมากระจุยกระจาย
ทั้งนี้ แทบไม่ต้องพูดถึงการแยกร่าง เปลี่ยนมุม เหมือนอย่างที่หน้าเพจของพรรคพลังประชารัฐพยายามจะเพิ่มปริมาณของประชาชนที่เข้าร่วมฟังการปราศรัย
กระบวนท่า”เฟคนิวส์”แบบนั้นเชยอย่างยิ่ง
เชยเหมือนๆกับที่ลุงๆป้าๆทำมาแล้วกับเสียงของ”ลุงทักษิณ”และ”พ่อของฟ้า” เชยเหมือนๆกับที่ลุงๆป้าๆทำมาแล้วกับการเพิ่มยอดคนเข้าร่วมฟังปราศรัย
ตรงกันข้าม การเสนอความคิดไม่ว่าเรื่องรัฐราชการรวมศูนย์ ไม่ว่าเรื่องรัฐสวัสดิการ ไม่ว่าเรื่องอนาคตเรากำหนดเองต่างหาก
ที่ทะลวงเข้าไปในรูป”จิตสำนึก”อย่างลึ้กซึ้ง
หากจะเป็นการริเริ่มก็ต้องถือว่า พรรคอนาคตใหม่นำเอาการต่อสู้ในทางความคิดมาเป็นอาวุธและเครื่องมือสำคัญในการขยายงาน ทางการเมือง
คำถามอยู่ที่ว่าการเสนอความคิดเหล่านี้เข้าตาหรือไม่
หากเข้าตาก็ย่อมมีคนรุ่นใหม่มาห้อมล้อม ลงคะแนนเสียงสนับสนุนให้เข้าไปมีบทบาทในสภาเหมือนที่เลือกพรรคอนาคตใหม่เข้าไปมากถึง 6.3 ล้านเสียง
หากไม่เข้าตาก็ย่อมจะปฏิเสธและหันไปหาพรรคอื่น