แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่กระทรวงการคลังเตรียมไว้ คาดว่าจะเสนอเข้าครม.ภายใน 1 -2 สัปดาห์ มีวงเงินประมาณ 5 หมื่นล้านบาท เน้นในกลุ่มคนจน และสูงอายุ โดยมีแนวคิดแจกเงินให้คนละ 1 พันบาทผ่านบัตรสวัสดิการ คาดว่าใช้เงินประมาณ 2 หมื่นล้านบาท เพื่อให้กลุ่มคนเหล่านั้นนำเงินไปใช้จ่ายบรรเทาผลกระทบจากเศรษฐกิจ และเงินดังกล่าวไหลลงสู่ระบบเศรษฐกิจฐานรากทันที

นอกจากนี้รัฐบาลอยากเห็นยาแรง ดังนั้นมีแนวคิดที่จะนำมาตการแจกเงินท่องเที่ยว 1,500 บาทต่อ โดยเป็นการใช้จ่ายระบบอีเพย์เมนต์ยังร้านค้า โรงแรม หรือที่ท่องเที่ยวที่กำหนดไว้ เพื่อให้เงินถูกนำไปใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวจริงๆ และคาดว่ามาตการนี้จะกระตุ้นให้คนใช้จ่ายมากกว่าเงินที่แจก 1,500 บาทต่อคน ประเมินว่าจะมีเงินสะพัดจากการท่องเที่ยวครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 2 -3 หมื่นล้านบาท

แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า นอกจากนี้มีมาตรการดูแลช่วยเหลือการเกษตร และเอสเอ็มอี โดยให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐสนับสนุนด้านดอกเบี้ย โดยให้แต่ละสถาบันการเงินรับภาระดอกเบี้ยที่จะลดให้เอสเอ็มอี และ เกษตรกร ซึ่งกระทรวงการคลังจะบวกกลับเป็นผลงานของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ และรวมถึงการให้นำส่งเงินเข้าคลังน้อยลง

ทั้งนี้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังจะออกมา เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยพยุงเศรษฐกิจให้สามารถขยายตัวได้ใกล้ 3.5 % ซึ่งขณะที่หลายสำนักพยากรณ์เศรษฐกิจ มองเศรษฐกิจไทยในปีนี้ว่าจะสามารถขยายตัวในระดับ 3 % เท่านั้น