วันที่ 23 ก.ค. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรค พร้อมด้วย นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม แถลงภายหลังการประชุมร่วมกันระหว่าง 7 พรรคฝ่ายค้าน เพื่อเตรียมการอภิปรายนโยบายของรัฐบาล

นายอนุสรณ์ กล่าวว่า 1.เท่าที่ได้ดูนโยบายที่รัฐบาลส่งมา ไม่แน่ใจว่าเป็นเอกสารนโยบายรัฐบาลจริงหรือไม่ เพราะเหมือนเป็นโบรชัวร์เลือกตั้งของแต่ละพรรคมาแม็กติดรวมกัน ทำให้เป็นนโยบายที่ย้อนแย้ง สับสน และเห็นรอยต่อชัดเจน เช่น นโยบายเรื่องสินค้าเกษตร ที่ช่วงหนึ่งบอกจะประกันรายได้ อีกตอนหนึ่งบอกจะแบ่งส่วนแบ่งรายได้ หรือนโนบายจัดสรรที่ทำกินให้ผู้มีรายได้น้อย แต่อีกนโยบายบอกจะเพิ่มพื้นที่ป่า ซึ่งไปด้วยกันไม่ได้

นายอนุสรณ์ กล่าวต่อว่า เรามองเวทีแถลงนโยบายเป็นการตรวจสอบสัญญาประชาคมที่ให้ไว้กับพี่น้องประชาชน ครม.นี้มีรัฐมนตรีทั้ 36 คน อย่างน้อย 9 คนเป็นหน้าเดิม มาอยู่ในตำแหน่งในวันที่ไม่มีกฎหมายพิเศษ โดยฝ่ายค้านมีสิทธิที่จะอภิปราย โดยเฉพาะคุณสมบัติของนายกฯ และรัฐมนตรี แม้จะมีการตั้งองครักษ์พิทักษ์นายกฯ ก็ตาม ก็ไม่มีปัญหา

2.กรณีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ นั่งเฮลิคอปเตอร์ไปลงพื้นที่วังน้ำเขียวร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ ท่านจะตอบว่านั่งรถส่วนตัวไปก็สุดแล้วแต่ เพราะมีรายงานข่าวกันครึกโครม แต่คำถามคือท่านไปทำไม ไปในฐานะอะไร เกี่ยวข้องอะไรกับพรรคพลังประชารัฐ เพราะเท่าที่ตรวจดูท่านยังไม่ได้สมัครสมาชิก การมาบอกว่าเป็นครอบครัวเดียวกันและจะอยู่ 4 ปี แบบนี้เข้าข่ายคนภายนอกครอบงำพรรคหรือไม่ เป็นการเฉลยว่าหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐตัวจริงคือใครหรือไม่

3.ที่นายสมศักดิ์ พันธ์เกษม ส.ส.นครราชสีมา พรรคพลังประชารัฐระบุว่า การจัดสัมมนารีสอร์ตที่มีปัญหารุกป่า เพื่อสะท้อนปัญหาเรื่องส.ป.ก.นั้น เราขอตั้งคำถามว่าหากไปดู ส.ป.ก.แล้วต้องไปพักที่ที่มีปัญหา แล้วถ้าไปตรวจปัญหายาเสพติด ไม่ต้องไปเสพก่อนหรือ หรือถ้าไปจับการพนันไม่ต้องเล่นก่อนหรือ ความจริงคือท่านไปตั้งองครักษ์ ไปจัดทัพปกป้องนายกฯ แถมยังไปสนับสนุนธุรกิจมีปัญหาในเรื่องคดีความ ดังนั้นในสภาฯ จะมีการอธิบายความเรื่องนี้ เราทราบถึงขั้นว่าใครเป็นคนประสานงานเลือกโรงแรมนี้

4.ขอเสนอให้รัฐบาลตั้งวอร์รูมแก้ปัญหาภัยแล้งแบบเร่งด่วน ประกาศจังหวัดพื้นที่ภัยพิบัติให้ชัดเจน ชดเชยเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ และต้องบูรณาการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน อย่าไปสาละวนเรื่องการเมืองจนลืมแก้ปัญหาปากท้องและภัยแล้งของพี่น้องประชาชน

“ขนาดบอกใบ้ให้แล้วว่า 3 ป.โดนแน่ แต่แล้วไปจัดสัมมนาบอกให้ตั้งองครักษ์ดูแล 2 ป. ก็ขอเตือนด้วยความห่วงใยว่า อีก ป.หนึ่งก็ต้องระวังให้ดี ใบ้ให้ว่าเป็นเรื่องขยะและรัฐมนตรีจากรัฐบาลชุดที่แล้วที่กลับมาเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้อีก ก็เตรียมตัวไว้ให้ดีๆ” นายอนุสรณ์ กล่าว

ด้านนายสุทิน กล่าวว่า รูปเล่มนโยบายของรัฐบาลมีเนื้อหาขัดรัฐธรรมนูญ ต่อมาคือเรื่องการลงทุนที่ต่างชาติสนใจ แต่รัฐบาลไม่เขียนไว้เลยว่าจะเชิญชวนชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนอย่างไร บางเรื่องควรบรรจุไว้แต่ไม่เขียน บางเรื่องไม่ควรเขียนแต่บรรจุไว้ แต่ขออุบไว้ก่อน ไม่เช่นนั้นจะจืด สำหรับการวางตัวผู้อภิปราย ขณะนี้จัดได้ 80 เปอร์เซ็นต์แล้ว คาดว่ามีประมาณ 55 คน คือ กลุ่มที่ต้องตรวจสอบคุณสมบัติบุคคลและการทุจริตของรัฐบาล

อาทิ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย เป็นต้น ส่วนด้านเศรษฐกิจ ผู้อภิปราย อาทิ นายไชยา พรหมา ส.ส.หนองบัวลำภู นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ประธานที่ปรึกษาพรรคเศรษฐกิจใหม่

การเอื้อประโยชน์กลุ่มนายทุนและความเหลื่อมล้ำ ผู้อภิปรายอาทิ นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ เรื่องการกระจายอำนาจท้องถิ่น ผู้อภิปราย อาทิ นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม ขณะที่นโยบายปฏิรูปประเทศ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ (ปช.) จะเป็นผู้นำอภิปราย

นายสุทิน กล่าวอีกว่า ส่วนที่พรรคพลังประชารัฐไปจัดสัมมนาที่รีสอร์ตรุกป่านั้น ก็ขัดกับนโยบายรัฐบาลที่บอกว่าจะรักษาทรัพยากรป่าไม้ ขณะนี้เจ้าที่กระทรวงทรัพยากรฯ และตำรวจที่เคยไปบุกจับรีสอร์ตแห่งนี้รู้สึกเสียขวัญ และกระทบการทำงานในกระบวนการยุติธรรมอย่างมาก ทั้งหมดเราจะอภิปรายในสภาฯ แน่นอน