ลือสะพัด! กมธ.สหรัฐฯเคาะปรับ “เฟซบุ๊ก” 1.5 แสนล้าน แลกคดีล้วงข้อมูลผู้ใช้งาน

เมื่อวานนี้ (13 กรกฎาคม 2562) บีบีซี รายงานจากแหล่งข่าววงใน คณะกรรมาธิการการค้าส่วนกลางของสหรัฐอเมริกา (เอฟทีซี) ว่ามีมติตกลงปรับ เฟซบุ๊ก เครือข่ายโลกออนไลน์ยักษ์ใหญ่ เป็นเงิน 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 154,000 ล้านบาท

 เพื่อไกล่เกลี่ยคดีที่ บริษัทเคมบริดจ์ อนาไลติกา พัวพันกับการลักลอบเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานเฟซบุ๊กกว่า 87 ล้านคน และนำไปใช้หาประโยชน์ในช่วงการเลือกตั้งผู้นำสหรัฐสุดฉาวเมื่อปี 2560 ซึ่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ คว้าชัยชนะไปได้

 หากข้อมูลดังกล่าวเป็นความจริง จะเป็นมูลค่าเงินไกล่เกลี่ยที่เอฟทีซีเรียกปรับสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ อย่างไรก็ตาม ทั้งเอฟทีซีและเฟซบุ๊กปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นต่อข่าวนี้

 รายงานจากวอลล์สตรีทเจอร์นัลระบุว่า คณะกรรมาธิการเอฟทีซีลงมติ 3 ต่อ 2 เสียง เห็นชอบให้ยอมความและปรับเฟซบุ๊กจากกรณีเคมบริดจ์ อนาไลติกา ซึ่งเปิดการสอบสวนเมื่อเดือนมี.ค.2561 เพื่อพิจารณาว่าเฟซบุ๊กละเมิดข้อตกลงเมื่อปี 2554 ที่ระบุว่าต้องแจ้งและได้รับความยินยอมจากผู้ใช้เว็บไซต์ก่อนเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวให้บุคคลที่สาม

 ความเคลื่อนไหวดังกล่าวก่อให้เกิดกระแสวิจารณ์อย่างหนัก โดยหลายฝ่ายกล่าวว่าเฟซบุ๊กละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานหลายครั้ง จึงสมควรได้รับโทษที่เด็ดขาดกว่านี้