หนุ่มเมืองจันท์ | เรโทร “การเมือง”

หนุ่มเมืองจันท์facebook.com/boycitychanFC

วันก่อน มีน้องที่ไปดู “คาสเซ็ท เฟสติวัล คอนเสิร์ต” ไลน์เข้ามาในกรุ๊ปว่า “สนุกมาก ร้องได้ทุกเพลงเลย”

คอนเสิร์ตนี้เป็นการรวมศิลปินในยุค 90

สมัยที่ยังเป็น “เทปคาสเส็ต” อยู่

จากนั้นเพื่อนๆ ที่ไปด้วยก็เริ่มไลน์ข่มเพื่อนๆ ว่าคอนเสิร์ตย้อนยุคนั้นสนุกแค่ไหน

แกล้งให้เสียดาย

จนเพื่อนคนหนึ่งทนไม่ไหว

“เอ็งดูประชุมสภาหรือเปล่า”

น้องเริ่มงง

“สนุกกว่า” เพื่อนไลน์ต่อ

“และย้อนยุคกว่าเยอะ”

ผมหัวเราะก๊ากเลยครับ

เพราะผมก็ดู

ติดตามอย่างต่อเนื่อง 2 วันเลย

เป็นการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อเลือกตั้งประธานสภาที่ย้อนยุคมาก

เราร้างราจากการดูประชุมสภาไปนานถึง 5 ปี

นานทีเดียว

นานจนตื่นเต้นที่เห็นการประชุมสภา

บรรยากาศแตกต่างไปนิดนึง เพราะไม่ได้ประชุมสภาที่เก่า แต่เปลี่ยนเป็นที่ประชุมชั่วคราวที่ทีโอที

สถานที่และอุปกรณ์ไม่พร้อม

ขลุกขลักมาก

ถ้าจำได้ ห้องประชุมสภาเดิมจะทันสมัย

มีไมโครโฟนทุกที่นั่ง

ส.ส.คนไหนจะประท้วงหรือพูด ก็ยกมือให้ประธานอนุญาตก่อนจึงจะกดไมค์พูดได้

ประธานมีปุ่มตัดไมค์ของ ส.ส.ด้วย

แต่ครั้งนี้ใครนึกจะพูดก็พูดได้เลย

ระบบไมโครโฟนไม่เอื้ออำนวย

การลงคะแนนลับก็โบราณสุดๆ

จน ส.ส.บางคนบ่นว่า “อายการเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้าน”

หรือระบบการนับคะแนนแบบเปิดเผย

ห้องประชุมเดิมมีเครื่องนับคะแนน

แค่สอดบัตรประจำตัวของ ส.ส.แล้วกดแสดงความเห็น

แป๊บเดียวคะแนนก็ขึ้นบนจอ

ใครลงคะแนนอย่างไรก็สามารถตรวจสอบได้

แต่ครั้งนี้ต้องใช้วิธีการที่ย้อนอดีตไปเกือบ 20 ปี คือ อ่านชื่อทีละคนแล้ว

กว่าจะเสร็จเป็นชั่วโมง

แค่ประชุมวันเดียวก็เห็นแล้วว่า “เทคโนโลยี” มีความสำคัญอย่างไร

ดูแล้วเสียดายงบฯ เลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภามากเลย

1,300 ล้านบาท

เอามาเช่าห้องประชุมดีๆ

และซื้อเครื่องนับคะแนนดีกว่า

คนที่ขึ้นเป็น “ประธานสภาชั่วคราว” เพื่อเลือกประธานสภาตัวจริงคือ ลุงชัย ชิดชอบ

เขาเลือกจาก ส.ส.ที่มีอายุมากที่สุด

ลุงชัยอายุ 91 ปีครับ

ผมบอกเพื่อนว่า “คาสเซ็ท เฟสติวัล คอนเสิร์ต” ย้อนยุคไปแค่ 30 ปี

แต่ประชุมสภาครั้งนี้ย้อนไปไกลกว่า

น่าจะประมาณ 50 ปี

เป็นการย้อนไปสู่ละครโทรทัศน์ช่อง 4 บางขุนพรหม ที่ตัวละครไม่ต้องท่องจำบท

เพราะมีการบอกบทระหว่างการแสดง

จนบางครั้งเสียงก็แว่วเข้ามาในจอ

คนดูจะรู้ว่าตัวละครจะพูดว่าอะไรก่อนพูดจริง

การประชุมสภาครั้งนี้เป็นแบบนั้นเลยครับ

“ลุงชัย” แม้จะเคยเป็นประประธานสภามาก่อน แต่ด้วยวัยอาจทำให้จำขั้นตอนในสภาไม่ได้ทั้งหมด

เขาเลยจัดเจ้าหน้าที่หญิงคนหนึ่งคอยคุกเข่าบอกขั้นตอนต่างๆ ให้กับ “ลุงชัย”

กล้องจับไปที่ “ลุงชัย” เมื่อไรก็ต้องเห็นเจ้าหน้าที่หญิงท่านนั้น

เราจึงเห็นและได้ยินเสียงการคุยกันตลอด

บอกทุกขั้นตอน

ละครช่อง 4 บางขุนพรหมเราไม่เห็น “คนบอกบท”

แต่ประชุมสภาเหนือกว่า

เราเห็นคนบอกบทอยู่ในเฟรมด้วย

และบางครั้งลุงชัยก็ไม่พูดตามบท

เช่น ตอนที่ฉีกบัตรที่เหลือ 3 ใบทิ้ง

ลุงชัยก็บอกว่า “บัตรเกิน”

เจ้าหน้าที่ก็แย้งว่า “ไม่ได้เกิน”

เขาพิมพ์มาครบตามจำนวน ส.ส. 500 ใบ

แต่มี ส.ส.เข้าประชุม 497 คน

3 ใบ คือบัตรที่เหลือ

ลุงชัยไม่ยอมพูดแก้ให้

เจ้าหน้าที่ก็พยายามบอกซ้ำ

ลุงชัยไม่แก้

สุดท้ายก็เลยตามเลย

…ขำมาก

ถ้าเป็นฟุตบอล การประชุมครั้งนี้ผมยกให้ “ชัย ชิดชอบ” เป็น “แมน ออฟ เดอะ แมตช์” ครับ

เก๋าเกมจริงๆ

ลีลาการดึงเกมรอพรรคพลังประชารัฐให้พร้อม หรือการตัดบทปิดประชุมก็เหนือชั้น

ที่พูดช้าๆ ผมไม่แน่ใจว่าตามปกติช้าระดับนี้

หรือเป็นเพิ่มน้ำหนักความช้าให้ช้ายิ่งขึ้น

เหมือนนักบอลถ่วงเวลาตอนท้ายเกม

ที่สำคัญ เมื่อเห็นตัวเลขอายุ

91 ปี

ผมไม่นึกว่าคนอายุ 91 จะเก่งขนาดนี้

อายุเท่านี้แค่พูดรู้เรื่อง ลูกหลานก็ดีใจแล้ว

แต่คนอายุ 91 ต้องมาเป็นประธานสภาควบคุมการประชุมของ ส.ส.

นึกถึงบรรยากาศในสภาที่มีการถกเถียงกันสิครับ

เดี๋ยวก็มีคนยกมือประท้วง หรือพูดพร้อมๆ กันหลายประเด็น

แต่ลุงชัยเอาอยู่

จับประเด็นได้ ระเบียบการประชุมอาจมีผิดบ้าง แต่น้อยมาก

มีลูกล่อลูกชน แทรกอารมณ์ขันเป็นระยะ

ช็อตเด็ดสุดคือตอนที่ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐที่แกล้งลงคะแนนผิดตอนญัตติให้เลื่อนการประชุมออกไป

ส.ส.กลุ่มนี้จะขอแก้คะแนนใหม่อ้างว่าเข้าใจผิด

ลุงชัยถามสั้นๆ

“ไปเข้าห้องน้ำมาเหรอ”

ประโยคเดียวตายไปเลย

เพราะการเข้า “ห้องน้ำ” ของ ส.ส.นั้นมี 2 นัยยะ

ไปเข้าห้องน้ำจริงๆ

หรือไปรับ “แรงจูงใจ” ในห้องน้ำ

เปรี้ยงเดียว

รับรางวัล “ช็อตเด็ด 7 สี” ไปเลย