ท่ามกลางการจัดตั้งรัฐบาลยังไม่เสร็จสิ้น กระแสข่าวลือต่างๆก็ตามมา การจัดขั้วรัฐบาลที่ยังตกลงกันไม่ได้ระหว่างพรรคพลังประชารัฐและพรรคร่วมรัฐบาลในบางเก้าอี้รัฐมนตรี มีทั้งกระแสข่าวการ ‘ล้มกระดาน’ การเลือกตั้ง โดยการให้กองทัพออกมา ทั้งการปล่อยข่าว ‘ปฏิวัติซ้ำ-รัฐประหารซ้อน’ ขึ้น ภายหลังจาก ‘บิ๊กแดง’พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.-เลขาธิการ คสช. ได้เข้าพบ ‘บิ๊กตู่’พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. เมื่อ29พ.ค.ที่ผ่านมา แม้จะเป็นเพียงระยะเวลาสั้นๆเพียง 10 นาทีเท่านั้น
.
อีกทั้งมีการนำภาพการขนย้ายกำลังพลและยุทโธปกรณ์ของ ทบ. ภายหลังการฝึกหน่วยรบเคลื่อนที่เร็ว RDF ในพื้นที่ ทภ.3 บ้านด่านลานหอย จ.สุโขทัย กลับที่ตั้งหน่วยในจังหวัดต่างๆทั้ง กรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ฯ จ.ลพบุรี กองพันทหารม้าที่ 27 กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ จ.สระบุรี , หน่วยทหารในกทม. ได้แก่ กองพันทหารช่างที่ 1 กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ กองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 5 และกองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 7 กรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 1 ชุดควบคุมการส่งกำลังและซ่อมบำรุง กองพลาธิการ และ กองสรรพาวุธเบา กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ รวมทั้ง กองพันข่าวกรองทางทหาร ค่ายกำแพงเพชรอัครโยธิน จ.สมุทรสาคร และ กองบัญชาการช่วยรบที่ 1 อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี
.
ซึ่งทาง ทบ. ก็ได้ออกมาชี้แจงถึงกำหนดการนี้ที่จะมีการฝึกช่วง 23-30 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งในระยะที่ผ่านมา การขนย้ายยุทโธปกรณ์สร้างความตื่นตระหนกกับผู้พบเห็น ทำให้ทาง ทบ. ต้องชี้แจงเส้นทางและภารกิจต่างๆทุกครั้ง เพื่อให้มีความชัดเจนถึงที่มาและที่ไป รวมทั้งติดป้าย ‘เพื่อการฝึก’ ไว้ด้วย

ด้าน ‘บิ๊กป้อม’พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม ถึงกับร้องโอ้ยเมื่อถูกถาม โดยยืนยันว่า “ไม่มีหรอก” ถึงกระแสข่าวรัฐประหารซ้อนที่ออกมา ซึ่งช่วงเช้า 31พ.ค.ที่ผ่านมา ผบ.เหล่าทัพ ก็ได้เข้าพบ พล.อ.ประวิตร ที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดฯ ใน ร.1 รอ. ตามปกติทุกเช้าวันศุกร์ เพื่อทานอาหารเช้าและพุดคุยกัน ก่อนที่ พล.อ.ประวิตร จะมาขึ้นเครื่องบินที่ ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง เพื่อเดินทางไปร่วมประชุมความมั่นคงของภูมิภาค IISS Shangri – La Dialogue ที่สิงคโปร์ 31 พ.ค. – 2 มิ.ย.นี้
.
ส่วน พล.อ.อภิรัชต์ ยังคงปฏิบัติภารกิจตามปกติ โดยช่วงค่ำ 30พ.ค.ที่ผ่านมา ก็ได้พาครอบครัวคงสมพงษ์ไปเคารพศพ ‘ป๋าเปรม’พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตปธ.องคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่วัดเบญจมบพิตรฯ รวมทั้งยังคงใช้เวลาหลังเสร็จจากภารกิจต่างๆ ออกกำลังกายที่ ‘Army Gym’ ที่ บก.ทบ. ตามปกติ กับบุตรสาว ‘หมอเพลิน’ร้อยเอกหญิง แพทย์หญิง อมรัชต์ คงสมพงษ์ ด้วย
.
อีกทั้งช่วงเช้า 31พ.ค.ที่ผ่านมา พล.อ.อภิรัชต์ ได้สวมชุดทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ พร้อม ‘บิ๊กกบ’พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผบ.ทหารสูงสุด ต้อนรับ พล.อ.อาวุโส มิน ออง ไลง์ เข้าเคารพศพ พล.อ.เปรม ในฐานะบุตรบุญธรรมด้วย และ พล.อ.อภิรัชต์ ยังได้เป็น ปธ.พิธีประดับเครื่องหมายยศนายทหารสัญญาบัตรผู้สำเร็จการศึกษา วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้าและวิทยาลัยพยาบาลกองทัพบกด้วย จึงทำให้สยบกระแสข่าวทั้งหมดไป
.
อย่างไรก็ตามหากจะมีการทำ ‘รัฐประหารซ้อน-ปฏิวัติซ้ำ’ ขึ้นจริง เหตุใด พล.อ.อภิรัชต์ จึงต้องไปพบ พล.อ.ประยุทธ์ ถึงที่ทำเนียบฯ เมื่อ 29พ.ค.ที่ผ่านมา อย่างชัดเจน จนเป็นข่าวขึ้นมา ซึ่งทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.อภิรัชต์ สามารถสายตรงกันได้อยู่แล้ว ด้วยความสัมพันธ์ที่มีมายาวนาน จน พล.อ.อภิรัชต์ ชื่อว่าเป็น ‘น้องรักต่างสาย’ เป็นที่ไว้วางใจและเชื่อมั่นในฝีมือของ พล.อ.ประยุทธ์

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้แนะนำหนังสือ Animal Farm ให้อ่านด้วย โดยให้ ‘เสธ.โหน่ง’พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกรัฐบาล ได้ชี้แจงว่าไม่เกี่ยวกับการเมือง พร้อมระบุว่า แม้คนเราจะอยากได้ทุกสิ่งที่ดีกว่า แต่ก็ไม่ใช่จะสมหวังทุกอย่าง และไม่มีใครทำให้คนอื่นพอใจได้ทั้งหมด ทำให้มีการโยงไปถึงการจัดเก้าอี้ ‘ครม.ตู่รีเทิร์น’ นั่นเอง ซึ่งช่วงหลายวันที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ ก็ไม่ได้พบกับสื่อ และปฏิบัติภารกิจตามปกติที่ทำเนียบฯเท่านั้น
.
จึงทำให้มีการมองว่าเป็นกระบวนการ ‘ปราม’ ฝ่ายการเมืองหรือไม่
.
อย่าลืมว่า ‘ปลัดกลาโหม-ผบ.เหล่าทัพ’ ยังคงเป็น ‘สมาชิกคสช.’ เว้นแต่ พล.อ.อภิรัชต์ ที่เป็นเลขาธิการ คสช. โดยตำแหน่ง อีกทั้งยังเป็น สมาชิก ส.ว. โดยตำแหน่งด้วย ในเวลานี้ พล.อ.ประวิตร ก็ยังคงเต็งหนึ่งกลับมาเป็น รองนายกฯฝ่ายความมั่นคงและรมว.กลาโหมอีกครั้ง เพื่อช่วยงาน พล.อ.ประยุทธ์ รวมทั้ง ‘บิ๊กป๊อก’พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ที่ก็เต็งหนึ่งรีเทิร์น มท.1 แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือจะต้องเจอกับศึกการเมืองในอนาคตที่ฝ่ายการเมืองพร้อมท้าทายทุกเมื่อ จึงไม่สามารถคุมให้อยู่ในแถวได้เช่นในยุค คสช.

ทั้งนี้มีการมองว่าการปล่อยข่าว ‘รัฐประหารซ้อน-ปฏิวัติซ้ำ’ ฝ่ายใดได้ประโยชน์จากข่าวปล่อยนี้ อีกทั้งการ ‘ล้มกระดาน’ ขั้วใดจะได้ประโยชน์มากที่สุด หลังภาพการจับขั้วรัฐบาลใกล้เสร็จสิ้น เพราะมีกำหนดการวันโหวตเลือกนายกฯของทั้ง 2 สภา คือ 5มิ.ย.นี้ แต่สถานการณ์หลังได้รัฐบาลในสภาวะ ‘สภาปริ่มน้ำ’ ที่ส่งผลต่อ ‘เสถียรภาพรัฐบาล’ ที่หวั่นว่าอายุรัฐบาลจะสั้น และมีการมองข้ามช็อตไปว่าอาจทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องถอยก็ได้ในอนาคต เพื่อไปสู่บทบาทที่สำคัญอย่างอื่นแทน และจะนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่สำคัญอีกครั้ง
.
สถานการณ์แกว่ง อะไรก็เกิดขึ้นได้ !!