เผยแพร่ |
---|
มุมมองต่อท่วงทำนองของพรรคอนาคตใหม่ ไม่ว่าต่อกรณีเสียงโทรศัพท์จากพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าต่อกรณีการกู้เงินจาก นาย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ คือภาพสะท้อนทัศนคติทางการเมือง
บางมุมมองว่าเป็นความไร้เดียงสา บางมุมมองว่าเป็นความ จริงใจ
ที่ว่าไร้เดียงสาเพราะแทบไม่มีความจำเป็นอะไรที่พรรคอนา คตใหม่จะต้องทำสัญญากู้ยืมเงินระหว่างพรรคกับ นายธนาธร จึง รุ่งเรืองกิจ
ที่ว่าเป็นความจริงใจเพราะว่าพรรคอนาคตใหม่ก็ไม่ได้ทำให้กลายเป็นความลี้ลับ มีอะไรเกิดขึ้นในพรรคก็นำออกมาเปิดเผยต่อสาธารณะตรงไปตรงมา
ความซื่อตรงจึงกลายเป็น”ไร้เดียงสา”ในทางการเมือง
จะทำความเข้าใจต่อท่วงทีและลีลาของพรรคอนาคตใหม่จำเป็น ต้องย้อนกลับไปศึกษาภาพและความเป็นจริงของพรรคการเมือง และนักการเมืองโดยทั่วไป
ภาพของนักการเมืองเป็นภาพของความเขี้ยว ความมากด้วยเหลี่ยมเล่ห์ เพทุบาย
คนซื่อๆใสๆ ปากตรงกับใจยากจะมีที่ยืนบนเวทีการเมือง
ในเบื้องต้นอาจจะซื่อๆใสๆ ตรงไปตรงมา แต่เมื่ออยู่ไปนานเข้าก็มีความจำเป็นต้องเพิ่มเหลี่ยมเล่ห์เพทุบายให้กลายเป็นความเขี้ยวความคม
เพราะหากไม่รู้เท่าทันก็มีโอกาสที่จะถูกบดขยี้ทำลายตั้งแต่เหยียบก้าวที่ 1 เข้ามา
พรรคอนาคตใหม่ต้องการนำเอาการเมืองซึ่งเป็นเรื่องลี้ลับออกมาแผ่แบอยู่ ณ เบื้องหน้าประชาชน ภายในพรรครู้อย่างไรในหมู่ประชาชนก็รู้เท่านั้น
การแสดงออกอย่างจริงใจ ตรงไปตรงมา เช่นนี้จึงกลายเป็นความไร้เดียงสาไปโดยอัตโนมัติ
พลันที่ประสบเข้ากับกรณีการกู้เงินจาก นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ มาเพื่อเป็นทุนในการเลือกตั้ง ก็ปรากฏโจทย์จำนวนมากมาย ทั้งที่เข้าไปฟ้องร้องในกกต.และที่วิพากษ์วิจารณ์อยู่วงนอก
พรรคอนาคตใหม่จึงกลายเป็นตำบลกระสุนตกทางการเมือง
ไม่ว่าในที่สุดแล้วอนาคตใหม่จะกลายเป็นอนาคตไหม้ อนาคตหมด
แต่ทั้งหมดคือความเป็นจริงที่มาจากพรรคอนาคตใหม่