เชิงบันไดทำเนียบ : ปิดจ๊อบ ! ‘3ป.พยัคฆ์’ รีเทิร์น ‘ขั้วที่ 3’ แค่แรงเสี้ยม ‘ครม.ตู่1’ ภาคต่อ คสช.

เป็นแค่ศึกชิงไหวชิงพริบตั้งรัฐบาล นับจาก 7 พรรค ฟากฝั่งขั้วต้าน คสช. นำโดย ‘เพื่อไทย’ ประกาศลงสัตยาบันจัดตั้งรัฐบาล ตั้งแต่หลังเลือกตั้งได้ไม่นาน จนทำเอาฟากฝั่ง ‘พลังประชารัฐ’ สะเทือนไม่น้อย แต่เกมนี้เป็นที่เชื่อกันตั้งแต่ต้นแล้วว่าปิดจ๊อบที่ ‘พลังประชารัฐ’ แน่นอน ด้วยเหตุการณ์ทางการเมืองที่ผ่านมา แต่ตัวเลขเก้าอี้ ส.ส. ที่พรรคเพื่อไทยได้ลำดับที่ 1 ก็คือสิ่งค้ำและเป็นแรงต้านพรรคพลังประชารัฐไม่น้อย ในการหาความชอบธรรมมาจัดตั้งรัฐบาล
.
เมื่อเวลาผ่านมา ‘สัตยาบัน’ ที่พรรคขั้วต้าน คสช. ที่ลงนามกันไว้ก็ดูแผ่วลง ชะตากรรมของ ‘ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ’ หน.พรรคอนาคตใหม่ ที่ไม่แน่นอน รวมทั้งกระแสข่าวการเปลี่ยน ‘แม่ทัพพรรค’ ของพรรคเพื่อไทย จาก ‘หญิงหน่อย’คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ มาเป็น ‘ชัยเกษม นิติศิริ’ ที่ต่างเป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรค และไม่ได้เป็น ส.ส.ทั้งคู่ เพราะพรรคเพื่อไทย ไม่ได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ แม้แต่คนเดียว

ล่าสุด ‘ธนาธร’ ออกมาตอกย้ำถึงความ ‘คลุมเครือ’ ในการจัดตั้งรัฐบาล เพราะจะมีรัฐพิธีเปิดประชุมสภาในสัปดาห์หน้าแล้ว จึงประกาศชัดว่า ‘อนาคตใหม่’ จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลและตนขอเสนอตัวเป็น นายกฯ เพื่อเป็น ‘ความหวัง’ ของมวลชนผู้สนับสนุน แต่อีกมุมกถูกมองว่าเป็น ‘วิมานในอากาศ’ จากขั้วหนุนพลังประชารัฐ และมองว่าเป็นแอคชั่นของ ‘ธนาธร’ ที่มีต่อกรณีที่ กกต. ส่งเรื่องให้ศาล รธน. วินิจฉัยคุณสมบัติ ส.ส. เท่านั้น
.
รวมทั้งข้อเสนอ ‘ขั้วที่3’ ที่เกิดขึ้นมา ในการให้ ‘ประชาธิปัตย์-ภูมิใจไทย’ จัดตั้งรัฐบาลแทน แล้วไปจับมือกับพรรคเพื่อไทย-อนาคตใหม่ เพื่อสู้กับพรรคพลังประชารัฐและปิดสวิตช์ 250 ส.ว. ปิดทาง ‘บิ๊กตู่’พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขึ้นเป็น นายกฯ อีกครั้ง ถึงขั้นมีการเสนอให้ ‘เสี่ยหนู’อนุทิน ชาญวีรกูล หน.ภูมิใจไทย ขึ้นเป็น นายกฯ เลยทีเดียว

แต่สุดท้าย ‘เสี่ยหนู’ ระบุว่า ตัวเองเป็นพรรคลำดับที่ 5 ต้องเจียมเนื้อเจียมตัว จะไปนำจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ และขออย่าให้ถึงขั้นมีขั้วที่ 3 เลย ไม่นับรวมกรณีที่ ‘เสี่ยหนู’ โพสต์ข้อความ “ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ประชาชน ไปทางนี้แหละ ไม่มีหลงทาง” ซึ่ง ‘เสี่ยหนู’ เองมีประสบการณ์เคยเป็นนักธุรกิจและทำงานการเมืองมานับสิบปี ย่อมรู้ดีสถานการณ์เช่นนี้ดี ควรตัดสินใจอย่างไร
.
ไม่นับรวมข่าวปล่อย ‘อนุทิน.1’ ที่มีการเขียนโผ ครม. กระจายเก้าอี้ให้ ‘เพื่อไทย-ภูมิใจไทย-ประชาธิปัตย์-ภูมิใจไทย’ ไปบวกกับ 60 ส.ว. ได้เสียง 420 เสียง และตั้ง ‘บิ๊กโอ๋’พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต ขึ้นเป็น รมว.กลาโหม ทั้งที่ถูก สนช. ตัดสิทธิการเมือง 5 ปี เมื่อปี2559 และให้ ‘บัญญัติ บรรทัดฐาน’ นั่ง ปธ.สภา ด้วย แถมมีการออกกำหนดการจะมีการแถลงข่าว แชร์กันว่อนไลน์-เฟซบุ๊ก สุดท้ายไม่มีแถลงข่าว เป็นเพียง ‘ข่าวลือ’ รายวัน หากไล่เลี่ยงหาต้นต่อข่าวลือนี้ ถูกพูดอย่างมากจากขั้วต้าน คสช. ที่ยังคงมีความหวังในการปิดทาง พล.อ.ประยุทธ์
.
แต่ที่เริ่มมีความชัดเจนคืออนาคตของทั้ง 3ป.บูรพาพยัคฆ์ ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ กับ ‘บิ๊กป้อม’พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม และ ‘บิ๊กป๊อก’พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ที่ยังคงมีชื่อมาเป็น ‘รัฐมนตรี’ รัฐบาลชุดใหม่ในตำแหน่งเดิมทั้งหมด โดย พล.อ.ประยุทธ์ เป็นผู้ที่ให้ความชัดเจนในเรื่องนี้ว่า 2 กระทรวงนี้ ควรจะอยู่กับพรรคหลัก และส่วนตัวก็อยากให้ พล.อ.ประวิตร มาช่วยงานต่อ เพราะไว้ใจกันมา หรือที่เรียกว่า ‘แค่มองตาก็รู้ใจ’

“ก็ควรจะอยู่กับฝ่ายความมั่นคงและพรรคหลักหรือไม่ เพื่อดูแลให้เดินหน้าไปได้ ขอย้ำว่าผมไม่หวงผลประโยชน์ ผมไม่เคยมีผลประโยชน์” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
“ถ้าพูดถึงอยาก ก็โอเค อยาก เพราะไว้ใจกันมา แต่ก็ขึ้นอยู่กับตัวท่านเองด้วยว่าจะรับแค่ไหนอย่างไร รวมถึงเรื่องสุขภาพด้วย ผมเป็นห่วงกังวลตรงนี้ เรื่องอย่างนี้ไม่ต้องชวน ถึงเวลาก็คุยกัน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
.
ส่วนกับ พล.อ.อนุพงษ์ นั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเพียงว่า “ก็แล้วแต่ท่าน เพราะวันนี้ไม่ใช่แค่ผมเพียงคนเดียว” แต่ในรั้วมหาดไทยก็เป็นเสียงเดียวกันมานานแล้วว่า มท.1 คนต่อไป ยังคงเป็น พล.อ.อนุพงษ์ เช่นเดิม โดยตำแหน่ง รมช.มหาดไทย จะเป็นของพรรคร่วมรัฐบาล อีกทั้งมีสัญญาณว่า รมช.มหาดไทย อีกคนที่จะมาเป็น มท.3 คือ ‘ปลัดฉิ่น’ฉัตรชัย พรมหมเลิศ ปลัดมหาดไทย คนปัจจุบันด้วย
.
ส่วนตำแหน่ง รมช.กลาโหม ต้องมาดูกันว่าจะเป็นใคร แต่เชื่อกันว่า พล.อ.ประวิตร จะเป็นผู้เลือกตำแหน่งนี้ตนเองเพื่อให้สามารถประสานงานกันได้ แม้ก็มีกระแสข่าวว่าจะมาจากพรรคร่วมรัฐบาล แต่ รมช.กลาโหม จะต้องมีบทบาทไม่น้อยในการช่วยงาน พล.อ.ประวิตร ที่รัฐบาลปกติจะมีงานมากขึ้น และข้อจำกัดทางสุขภาพของ พล.อ.ประวิตร เอง

ไม่ว่าจะอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ ก็ได้ ‘ขุนศึกข้างกาย’ มาไว้เรียบร้อยแล้ว ภาพ ครม.ชุดหน้า แนวนโยบายเริ่มเห็นความชัดเจนมากขึ้น พล.อ.ประวิตร ที่เป็น ‘ตำบลกระสุนตก’ จะต้องระวังตัวเองมากขึ้น ในยุครัฐบาลปกติที่ไม่ได้มีอำนาจเช่นยุค คสช. แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะเกินรับมือเพราะ พล.อ.ประวิตร ก็เคยเป็น รมว.กลาโหม ยุครัฐบาลอภิสิทธิ์มาแล้ว อีกทั้งมี ‘คอนเนคชั่น’ กับสายการเมืองไม่น้อย จนถูกมองว่าเป็น ‘ผู้จัดการรัฐบาล’ ครั้งนี้ แม้ พล.อ.ประวิตร จะปฏิเสธเสมอมาว่าไม่ได้ไปเกี่ยวข้องกับการจัดตั้งรัฐบาลก็ตาม
.
ทั้งหมดนี้มีการมองว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะลบปมในใจได้หรือไม่ จากที่เคยเป็น นายกฯรัฐประหาร แล้ววันนี้ได้เป็น นายกฯเลือกตั้ง ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ก็ย้ำว่า “ผมถือว่าไม่มีปม ใครจะคิดอย่างไรก็คิดไป เพราะผมไม่มีปม ที่เข้ามาก็เพราะด้วยความจำเป็นทางการเมือง แต่วันนี้ไม่ว่าจะเข้ามาอย่างไร ก็มีความเป็นตัวของตัวเอง” แต่ที่แน่ๆ พล.อ.ประยุทธ์ อุ่นใจไม่น้อย ที่ได้ ‘พี่ป้อม-พี่ป๊อก’ มาอยู่เคียงข้าง เพราะภารกิจของทั้ง ‘3ป.บูรพาพยัคฆ์’ ยังไม่จบเท่านี้
.