ธอส. พร้อมเดินหน้า สู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 ด้วยนวัตกรรมธนาคารดิจิทัล Fin Fin with FINTECH

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งการเรียนรู้ภายในองค์กรจัดงาน“KM Day 2016” พร้อมจัดเสวนาในหัวข้อ “Fin Fin with FINTECH –นวัตกรรมธนาคารดิจิทัล”เตรียมความพร้อมเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลและการเข้ามาของเทคโนโลยีทางการเงิน หรือ ฟินเทคกระตุ้นให้เกิดการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ต่อยอดพัฒนาองค์กรให้เท่าทันผลักดันให้เกิดการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสร้างโอกาสใหม่ในการดำเนินธุรกิจเพื่อให้คนไทยมีบ้านและก้าวสู่ธนาคารที่ดีที่สุดสาหรับการมีบ้าน

นายสุรชัย ดนัยตั้งตระกูล ประธานกรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งการเรียนรู้ภายในองค์กรโดยเปิดโอกาสให้ผู้บริหาร พนักงาน สามารถเข้าถึงองค์ความรู้ใหม่ๆเพื่อนาไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานให้เกิดประสิทธิภาพยิ่งขึ้นซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางในการจัดการความรู้ หรือ Knowledge Management (KM) จึงได้จัดงาน “KM Day 2016” โดยการจัดงานในครั้งนี้ยังกำหนดให้มีการจัดการเสวนาในหัวข้อ “Fin Fin with FINTECH – นวัตกรรมธนาคารดิจิทัล”

ธอส. ได้ตระหนักถึงความจำเป็นในการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลในยุคที่โลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วรวมถึงการเข้ามาของเทคโนโลยีทางการเงิน หรือ Financial Technology (Fintech) ซึ่งกำลังได้รับความนิยมแพร่หลายไปทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยที่ฟินเทคได้มีบทบาทในชีวิตของคนไทยมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะปัจจุบันผู้บริโภคต้องการเข้าถึงบริการทางการเงินที่มีความสะดวกรวดเร็วในทุกที่ทุกเวลา ทำให้เกิดการพัฒนาบริการทางการเงินและผลิตภัณฑ์รูปใหม่จากผู้ประกอบการที่มิใช่เพียงแต่สถาบันการเงินเท่านั้นจึงถือเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายต่อธุรกิจสถาบันการเงินที่แม้จะเป็นผู้มีความเชี่ยวชาญเพราะประกอบธุรกิจมายาวนานมีความมั่นคงด้านเงินทุนและผู้บริโภคอาจมีความมั่นใจในด้านความปลอดภัยในการใช้บริการได้มากกว่า แต่หากสถาบันการเงินไม่ให้ความสำคัญหรือไม่ส่งเสริมให้เกิดความรู้ความเข้าใจและคิดค้นนวัตกรรมใหม่มาต่อยอดเพื่อพัฒนาองค์กรให้เท่าทันฟินเทค ก็อาจมีความเป็นไปได้ที่จะได้รับผลกระทบหรือเสียส่วนแบ่งทางการตลาดจากการเข้ามาของฟินเทคได้เช่นกันพร้อมเร่งผลักดันให้เกิดการพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อรองรับการก้าวเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลพร้อมให้ความรู้ทางด้านการเงินแก่ประชาชน

ด้านนายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธอส. กล่าวว่า “ธนาคารได้กำหนดให้ปี 2560เป็นปีแห่งการวางรากฐานระบบงานที่สำคัญใช้นวัตกรรมนาองค์กรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ไทยแลนด์ 4.0 ซึ่งเป็นโมเดลพัฒนาเศรษฐกิจใหม่ของประเทศปัจจุบันธนาคารได้เริ่มนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการบริหารจัดการภายในพัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริการใหม่ๆรองรับการเข้ามาของเทคโนโลยีทางการเงินหรือฟินเทค อาทิ โมบายแอพพลิเคชั่นGH Bank Smart Receipt บริการใบเสร็จรับชำระเงินกู้แบบอิเล็กทรอนิกส์แทนใบเสร็จรูปแบบเดิมที่จัดพิมพ์เป็นกระดาษและจัดส่งทางไปรษณีย์ให้กับกลุ่มลูกค้าถือเป็นบริการที่เพิ่มความสะดวก ทันสมัย ง่ายตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัลเพราะลูกค้าสามารถใช้งานได้ผ่านเครื่องโทรศัพท์มือถือ หรือแท็บเล็ตและสามารถดาวน์โหลดได้ทั้ง App Store และ Play Storeตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา การพัฒนาสาขาเป็น สาขาสมาร์ท : GH Bank Smart Branch ซึ่งเป็นสาขาที่จะให้บริการด้วยอุปกรณ์และเทคโนโลยีทันสมัยโดยสามารถให้บริการธุรกรรมทางการเงินอย่างครบวงจรทั้งสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย บริการรับฝาก-ถอนเงิน เปิดบัญชีใหม่ รับชำระหนี้เงินกู้ และรับชำระค่าสาธารณูปโภค และในอนาคตสาขาสมาร์ท ยังสามารถจองคิวใช้บริการล่วงหน้าผ่านโมบายแอพพลิเคชั่นนอกจากนี้เจ้าหน้าที่ธนาคารยังสามารถให้บริการลูกค้าผ่านแท็บเล็ตได้ทุกที่ภายในสาขา โดยไม่จำเป็นต้องนั่งหน้าเคาน์เตอร์บริการเท่านั้น โดยปัจจุบันสาขาสมาร์ทเปิดให้บริการแล้ว 2 แห่ง คือ สาขาสมาร์ทสานักงานใหญ่ และสาขาเมกา บางนา การพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์หลักของธนาคารหรือ Core Banking System (CBS) ทดแทนระบบเดิมที่ใช้มา 10 ปีเพื่อให้มีความสามารถรองรับธุรกรรมทางการเงินในยุคดิจิทัลและยังถือเป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ(National e-Payment Master Plan) อีกด้วย”

“ธอส.เชื่อมั่นว่าการเข้ามาของของฟินเทคจะเป็นอีกหนึ่งโอกาสในการเพิ่มช่องทางเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีของธนาคารให้แก่ลูกค้าประชาชนได้เช่นกันโดยสามารถพลิกโฉมรูปแบบการให้บริการให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้วยการจัดทำความร่วมมือในการให้บริการกับผู้ประกอบการฟินเทคที่จะช่วยให้ ธอส.สามารถบรรลุ พันธกิจ ทำให้คนไทยมีบ้านได้อีกทางหนึ่ง”