เผดิมชัย พี่ใหญ่”สะสมทรัพย์” เปิดใจครั้งแรก สรุปบทเรียนหลังเลือกตั้ง 24 มี.ค. มองกกต.กับงานครั้งแรก มีพลาดบ้าง เป็นธรรมดา ชี้ เด็กรุ่นใหม่ 7ล้านเสียง ต้องฟังเขา 

เมื่อวันที่ 19 เม.ย. ที่สโมสรฟุตบอลนครปฐม ยูไนเต็ด ต.ห้วยจรเข้ อ.เมือง จ.นครปฐม ภายหลังเป็นประธานเปิดศูนย์ฝึกทักษะกีฬาฟุตบอลระดับเยาวชน THE KING TIGER ACADEMY นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ ผู้สมัครเขต 5 นครปฐม พรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ “มติชน” ถึงกระบวนการการเลือกตั้งที่ผ่านมา ว่า เป็นเรื่องปกติของคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ชุดนี้ เพราะเป็นการเลือกตั้งครั้งแรก ทำงานก็ย่อมมีผิดพลาด ในความคิดส่วนตัวผม เพราะมันเป็นงานใหญ่ กกต.แต่ละคนไม่ได้ซ้อมเหมือนฟุตบอล ก็ต้องมีการซ้อมก่อน วอร์มก่อน แต่คราวนี้ถึงเวลาก็เอาจริงเลย ถ้าดูด้วยเหตุด้วยผล และความยุติธรรม ผิดก็ขอให้ว่ากันไปตามผิดจริงๆ ถ้าผิดพลาดก็ขอให้เป็นเรื่องที่ผิดพลาดกันจริงๆ เพราะทุกคนย่อมผิดพลาดได้ และแก้ไขด้วยความยุติธรรม และนี่จะเป็นความยุติธรรมที่ทุกคนยอมรับได้

“การเลือกตั้งเป็นของประชาชนหลาย 10 ล้านเสียงเป็นเรื่องที่ต้องยอมรับ ผลออกมาก็เหมือนกีฬา มันสูสีสุดประมาณก็ต้องยอมรับกัน ตรงนี้ต้องให้เกียรติกกต. การจะพูดอะไรที่ยังไม่สมบูรณ์ พูดไปล่วงหน้าไม่ได้ แต่ที่เห็นออกมาความใกล้เคียงมันเกิดขึ้นแน่ แต่ในความใกล้เคียงนั้นก็ขอให้มันเป็นความใกล้เคียงที่บริสุทธิยุติธรรมว่า ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจะใกล้เคียงในรูปแบบไหน เป็นสิ่งที่ประชาชนมาลงคะแนน เพราะทุกคนมี 1 คะแนนเท่ากันก็ขอให้รับสิ่งที่ถูกต้องตรงนั้น” นายเผดิมชัย กล่าว

นายเผดิมชัย กล่าวถึงความผิดพลาดสนามเลือกตั้งเขต 5 นครปฐม ว่า ทางการเมืองเป็นเรื่องที่ตอบกันไม่ได้ ตนเป็นนักการเมืองมานาน แต่ก็ยอมรับว่า กติกาที่อาจจะเป็นความนิยม หรือกระแสจากลูกๆหลานๆของเรา ที่ปัจจัยการเลือกตั้งเกิดขึ้นช้า 8 ปี เด็กอายุ 18 กว่าจะได้เลือกตั้งวันนี้ก็อายุ 25 ปีแล้ว ทำให้ทุกคนอยากจะออกมาใช้สิทธิกันเยอะมาก เป็นไปได้ว่า อาจรู้สึกเบื่อหน่ายทางการเมือง เพราะมันยาวนานมาก และเราก็มีปัญหาทางการเมืองหมักหมมมีการชุมนุม มีการปฎิวัติรัฐประหาร จะไปโทษทุกคนไม่ได้ ต้องโทษว่า เหตุการที่เกิดขึ้น มันสร้างกระแสความนิยมของคนรุ่นใหม่ถึง 7 ล้านเสียงที่เราต้องฟัง ว่าเขาคิดหาหนทางจะแก้ไขในรูปแบบไหน 7 ล้านเสียงนี่เป็นเรื่องสำคัญ เขามีความคิดของเขา เพราะอายุ 18 ปี เราอนุญาติให้เขามาเลือกตั้งได้ก็ต้องฟังเขา

ทั้งนี้ นายเผดิมชัยพ่ายแพ้เลือกตั้งในเขต 5 นครปฐม โดย นางจุมพิตา จันทรขจร ผู้สมัครจากพรรคอนาคตใหม่ได้รับคะแนนสูงสุด ขณะที่นายอนุชา สะสมทรัพย์ แพ้ในเขต 4 นครปฐมให้กับนายปฐมพงศ์ สูญจันทร์ ผู้สมัครจากพรรคพลังประชารัฐ โดยตระกูลสะสมทรัพย์ มีเพียงนายพาณุวัฒณ์ สะสมทรัพย์ หรือ “เสี่ยโหน่ง” บุตรชายนายไชยา สะสมทรัพย์ เท่านั้นที่ชนะเลือกตั้งครั้งนี้