‘ธนารักษ์’เล็งทบทวนราคาที่ดิน สั่งประเมินอาคารทุกหลังทั่วปท.

นายอำนวย ปรีมนวงศ์ อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า พ.ร.บ.ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 กรมธนารักษ์ในฐานะผู้ที่จะต้องทำราคาประเมินที่ดิน และราคาประเมินอาคารสิ่งปลูกสร้างบนที่ดิน ซึ่งการประเมินราคาที่ดินรายแปลงจนถึงปัจจุบันประเมินรายแปลงไปแล้ว 20 ล้านแปลง ในปีนี้ยังเหลืออีก 13.4 ล้านแปลง รวมแล้วต้องสำรวจรายแปลง 33.4 ล้านแปลง ก่อนหน้านี้ทำการประเมินไปบ้างแล้วและจะนำมาทบทวนใหม่เท่านั้น ซึ่งราคาประเมินดังกล่าวจะต่ำกว่าราคาตลาดทำให้ภาระภาษีที่เสียไม่มาก

นายอำนวยกล่าวว่า ในส่วนของสิ่งปลูกสร้างเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นจะต้องออกเดินสำรวจบ้านและอาคารทุกหลังในเขตที่แต่ละท้องถิ่นรับผิดชอบ ซึ่งกรมธนารักษ์กำหนดแบบสิ่งปลูกสร้างไว้ 31 แบบจากเดิม 69 แบบ เพื่อให้ง่ายต่อการประเมินและลดการใช้ดุลพินิจ เช่น บ้านเดี่ยว ตึกแถว ทาวน์เฮ้าส์ อาคารสำนักงาน และคอนโดมิเนียม เป็นต้น

“การประเมินราคาสิ่งปลูกสร้างนั้น จะใช้ลักษณะการประเมินโดยวัดความกว้างและความยาวของบ้าน โดยไม่คำนึงว่าบ้านหลังนั้นจะตกแต่งหรือก่อสร้างด้วยอิฐ หรือไม้ แต่จะใช้เป็นราคาเดียวกันหมด เช่น บ้านเดี่ยว คิดราคาประเมินที่ 7,500 บาท/ตารางเมตร เป็นต้น ขณะที่ราคาค่าก่อสร้างจริงในท้องตลาดปัจจุบันจะอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นบาท/ตารางเมตร” นายอำนวยกล่าว

นายอำนวยกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ของแต่ละท้องถิ่นจะต้องสำรวจและประเมินอาคารทุกหลังในพื้นที่ของตนเอง แม้ว่าราคาประเมินที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของบ้านหลังนั้นจะมีราคาไม่เกิน 50 ล้านบาท ซึ่งได้รับการยกเว้นภาษีนี้ก็ตาม แต่เนื่องจากตามกฎหมายที่ดินและสิ่งปลูกสร้างให้บ้านหลังที่สองต้องเสียภาษีตั้งแต่บาทแรกของมูลค่าดินและสิ่งปลูกสร้าง จึงต้องประเมินอาคารทุกหลังในประเทศ

มติชนออนไลน์