วันที่ 11 เมษายน 2562 สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า แหล่งข่าวภายในรัฐบาลและรัฐมนตรีได้ออกมาเปิดเผยว่านายโอมาร์ อัล-บาเชียร์ ประธานาธิบดีได้ประกาศลงจากตำแหน่งประธานาธิบดีและมีการปรึกษาหารือเพื่อตั้งสภาเปลี่ยนผ่านในการบริหารประเทศ

โดยนายอเดล มาร์โจบ ฮุสเซน รัฐมนตรีว่าการทรัพยากรธรรมชาติและเศรษฐกิจประจำภูมิภาคดาร์ฟูเหนือ กล่าวกับสื่อของดูไบว่า ซูดานกำลังมีการหารือเพื่อจัดตั้งสภาเปลี่ยนผ่านที่ประกอบด้วยนายทหารเข้ามาบริหารประเทศหลังนายบาเชียร์ก้าวลงจากตำแหน่ง

ด้านแหล่งข่าวในซูดานยืนยันรายงานดังกล่าวและระบุว่า นายบาเชียร์อยู่ในทำเนียบประธานาธิบดีภายใต้การป้องกันระดับสูง

ส่วนสื่อของทางการซูดานกล่าวว่ากองทัพจะประกาศเรื่องดังกล่าวให้ทราบเร็วๆนี้

ขณะที่สถานการณ์ในกรุงคาร์ทูม ได้มีกำลังกองทัพและเจ้าหน้าที่ ประจำที่รอบกระทรวงกลาโหม เส้นทางสำคัญและสะพานในเมืองหลวง ขณะที่ชาวซูดานหลายพันคนยังคงปักหลักประท้วงต่อต้านรัฐบาลอยู่นอกกระทรวง ผู้ประท้วงได้ตะโกนร้องว่า บาเชียร์พินาศแล้ว เราชนะแล้ว!

สำหรับนายบาเชียร์ อดีตทหารพลร่ม ได้นำกำลังเข้ายึดอำนาจโดยไม่เสียเลือดในปี 2532 ต่อมาซูดานประสบกับความโดดเดี่ยวมาเป็นเวลานานตั้งแต่ปี 2536 เมื่อสหรัฐฯประกาศให้รัฐบาลซูดานอยู่ในรายชื่อผู้สนับสนุนกลุ่มติดอาวุธอิสลามหัวรุนแรง และตามด้วยการประกาศคว่ำบาตรจากรัฐบาลสหรัฐฯในอีก 4 ปี ต่อมา

นายบาเชียร์ถูกฟ้องโดยศาลอาญาระหว่างประเทศจากข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์จากกรณีกวาดล้างชาวซูดานในเขตดาร์ฟู ช่วงเกิดความไม่สงบในประเทศตั้งแต่ปี 2546

ในช่วงปลายอำนาจ วิกฤตในประเทศขยายตัวจากการประท้วงของประชาชนที่ลุกลามหลังรัฐบาลพยายามประกาศขึ้นราคาขนมปัง และวิกฤตเศรษฐกิจในประเทศนำไปสู่ภาวะเชื้อเพลิงและเงินสดขาดแคลน