อภิญญา ตะวันออก : สุดเสน่หา ณ ขอบเส้นอุดมการณ์

อภิญญา ตะวันออก

ดําดิ่งผจญภัยในหมูบิน! เรื่องราวอันพิสดารของกลุ่มนักบินพาณิชย์กัมพูชาหลังวันเขมรแตก พนมเปญดับ โปเชนตงกลายเป็นสนามบินร้างที่จบลงด้วยเที่ยวบินสุดท้ายจากน่านฟ้ากัมพูชา สู่ราชอาณาจักรไทย

กระนั้น มโนจินตนาการที่ปรารถนาจะเห็น “เหนือเส้นขอบฟ้าสนามบินโปเชนตง” ของฉัน ยังคงคุกรุ่น ความรู้สึกต่อมนุษย์กลุ่มนั้นผู้ไร้ข้อจำกัดในชีวิตผจญภัย สำหรับชาวหมูบิน! ที่ไม่ต่างจากชาวเขมรทั่วไป กล่าวคือ ศิโรราบและดับหายไปกับองค์การเขมรแดงนับแต่เมษายน ค.ศ.1975

ห้วงเวลาที่กีย์สามารถหนีออกจากกัมพูชาไปได้ โปเชนตงในที่นี้ คงไม่มีใครจะบอกเล่าได้ดีกว่าลอเรนซ์ ปิก ภรรยาซวง ซีเกือน นักการทูตและนายล่ามประจำตัวพล พต

ทำไมจึงกล่าวเช่นนั้น ลอเรนซ์ ปิก เกี่ยวข้องอันใดกับกีย์ หมูบิน!? เปล่าเลย ทั้งสองมิได้มีสิ่งใดเกี่ยวข้องต่อกัน นอกจากเกิดในฝรั่งเศสและมีช่วงเวลาถ่ายผ่านอันยากลำบากในกัมพูชาใกล้เคียงกัน โดยนับแต่กีย์ วัลเลต์ ออกจากพนมเปญและต่อมาบันทึกที่โลกไม่รู้จักของเขา ที่ผลิตไล่เลี่ยกับ “เหนือเส้นขอบฟ้า 5 ปีในระบอบเขมรแดง” (Au del? du ciel : Cinq ans chez les Khmer Rouges) ของลอเรนซ์ ปิก (1984) จากปักกิ่งถึงกรุงพนมเปญ (*)

ฉากอันรันทด (ที่น่าจดจำ) อีกจินตนาการและความฝันที่เธอมีให้ในงานปฏิวัติ หลังคณะกัมพูชาประชาธิปไตยเปลี่ยนประเทศเป็นระบอบคอมมิวนิสต์

สำหรับเธอ-ลอเรนซ์ ปิก ที่นอกจากในฐานะปัญญาชนฝ่ายซ้ายที่ใช้ชีวิตกันในฝรั่งเศส และความจงรักภักดีต่อพรรคคอมมิวนิสต์กัมพูชา เธอและสามีเคยชูธงร่วมอุดมการณ์ในฐานะตัวแทนพรรคคอมนิสต์เขมรที่เข้าร่วมสัมมนาในกลุ่มประเทศสังคมนิยม ละตินอเมริกา และรัสเซีย

การหวนคืนประเทศมาตุภูมิของสามี ชัยชนะยิ่งใหญ่ในขบวนการปฏิวัติกัมพูชา คือฉากกึ่งฝันที่ลอเรนซ์ ปิก กระซิบบอกตนเอง ขณะเครื่องบินกำลังบินรอบกรุงพนมเปญ เมืองหลวงแห่งความกะทัดรัดที่เธอตกหลุมรักในทันทีที่เห็นภาพสะท้อนแสงตะวันพระราชวังเขมรินทร์ที่เมลืองมลังอยู่เบื้องล่าง สร้างความปีติชื่นชมต่อประเทศที่เธอหลงใหลในอารยธรรม

แน่นอน นี่ไม่ใช่ปารีสที่เธอพบรักกับสามี และจุดไฟปฏิวัติร่วมอุดมการณ์ที่คุโชน ในหมู่หนุ่มสาวนักศึกษาทั่วโลกเวลานั้น

และบัดนี้ กัมพูชาก็ประสบกับชัยชนะแห่งอุดมการณ์ที่เธอและสามีได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่ง โดยเฉพาะซวง ซีเกือน ซึ่งจากครอบครัวไปทำงานในเวียดนาม ซึ่งลอเรนซ์ ปิก กับลูกสาวทั้งสองตามไปสมทบ

ไม่แปลกที่เธอจะเพ้อฝันว่ากำลังมีครรลองของครอบครัวและอุดมการณ์อันเป็นหนึ่ง ซึ่งยากจะพบพาน แต่มันเป็นความจริง สำหรับอนาคตใหม่ในกัมพูชา แผ่นดินที่อีกไม่กี่นาที เธอจะเหยียบย่างและหวังจะเริ่มต้นชีวิตที่เต็มไปด้วยประโยชน์สุขแห่งอุดมการณ์ ด้วยจิตใจที่กว้างขวาง ที่สำคัญคือการได้อยู่ร่วมกันฉันครอบครัวพ่อ-แม่-ลูก

ไม่ช้า เสียงล้อเครื่องบินที่ดับลงเมื่อเครื่องบินลงจอด ตามมาด้วยความเงียบงัน พลันสัญชาตญาณก็บอกต่อลอเรนซ์ ปิก ถึงความผิดปกติบางอย่าง

เธอพร้อมกับสหายคนหนึ่งและลูกๆ รีบตรงไปยังประตูทางออก ก่อนสุญญากาศแห่งความนิ่งงันจะตามมาท่วมท้นอีกครั้ง ลอเรนซ์ ปิก มองหาผู้เป็นสามี ทว่าไม่มีใครเลยที่เคลื่อนไหวอยู่บนพื้นลานสนามบิน นอกจากซากปรักหักพังอันยับเยินของเครื่องบิน

ประหนึ่งภาพต่อสู้ก่อนพนมเปญจะล่มสลายที่ถูกบันทึกโดยนักข่าวต่างประเทศ ทว่าบัดนี้ราวกับเวลาได้แช่แข็งภาพดังกล่าวไว้

และอานุภาพเสมือนจริงของมันได้ติดตรึงความรู้สึกของใครก็ตามที่ประสบพบเห็น

 

อย่างเงียบๆ คณะของเธอพากันเดินเข้าไปในห้องโถงของอาคารที่ว่างเปล่า ราวกับลมแล้งแห่งทะเลทรายที่โชยมากระทบ ปิกถึงกับกลั้นหายใจ รู้สึกไม่ต่างจากยานสำรวจที่ถูกส่งมาจากโลกหนึ่ง แล้วตอนนี้มันก็กำลังลงจอดบนดาวเคราะห์แคระที่แล้งไร้จิตวิญญาณและสิ่งมีชีวิต

ความสงสัยงุนงงที่มาปะทะเป็นความรู้สึกอ้างว้าง แต่ทว่าเมื่อเห็นรอยยิ้มของคณะตัวแทนรัฐบาลจีน ก็ทำให้เธอเกิดความมั่นใจ โดยไม่ทันสังเกตว่ามีชายเขมรคนหนึ่งกำลังเดินตรงเข้ามา

ทันที ปิกก็จำได้ว่า เขานี่คือสิริน สหายของสามีคนหนึ่งซึ่งเธอรู้จักเขาดี เธอยิ้มให้ และตรงรี่จะเข้าไปทักทาย ทว่าสิรินแสดงท่าทีไม่รู้จัก ไม่แม้แต่จะแสดงการทักทายด้วยซ้ำ ตลอดเวลาที่เธอและลูกๆ เดินไปยังรถบัสบุโรทั่งนอกอาคาร

เธอและลูกๆ นั่งตัวสั่นในรถ เด็กๆ เริ่มร้องกระจองอแงร้องหาพ่อ เธอได้แต่ปลอบขวัญไปพลางว่าสามีกำลังรอพวกเขาอยู่ กระนั้นก็รู้สึกถึงความโดดเดี่ยว มันคือการจากพราก ความสันโดษ และความรู้สึกประหนึ่งว่า หน่วยเหนือขององค์การพยายามเหนี่ยวรั้งสามีของเธอไว้ และผลักไสเธอไปในทางอื่น จนไม่เหลือพื้นที่ให้เธอและสามีมีปฏิสัมพันธ์ฉันครอบครัว

ตลอดเวลาโดยสารเข้าเมือง ปิกตั้งใจที่จะสอบถามข่าวคราวสามีจากสิริน แต่ดูเหมือนเขาไม่ปริปากจะพูดคุยกับเธอเลย

 

ความรู้สึกคับข้องใจที่ทบทวีทุกขณะ บนถนนที่มีแต่ซากรถยนต์จอดทิ้ง บ้านช่องสองข้างทางเขตชานเมืองหลวงที่ว่างเปล่าไร้ผู้คน บานหน้าต่างและประตูบ้านที่ถูกเปิดทิ้งในสภาพราวกับเจ้าของออกจากเคหสถานอย่างรีบเร่ง จากความคิดว่าจะกลับมาบ้านในอีกไม่กี่วัน ร่องรอยวัสดุสิ่งของปรักหักพังที่ถูกทิ้งไว้ตามทางเดิน ตั้งแต่เครื่องถ้วยชาม หม้อไห เครื่องเฟอร์นิเจอร์ ตู้เย็นและสารพัดวัตถุในชีวิตประจำวันซึ่งถูกทิ้งตามถนนหนทาง ไม่ต่างจากการปล้นสะดมทรัพย์สิน

ทว่าไร้ซึ่งมนุษย์และผู้คน สุนัขและสัตว์อื่นๆ โรงงาน โกดัง ถูกทำลายทิ้งร้าง ประหนึ่งราวกับว่าชีวิตและผู้คนได้ถูกทำลายจากแรงขับเคลื่อนอันรุนแรงจากลมหายใจ ที่โหดร้ายของภัยพิบัติอันเหนือธรรมชาติ

โลกเบื้องหน้า บัดนี้สะกดอารมณ์ของเธอให้เริ่มต้นกับฝันร้าย เริ่มจากเสียงกรีดร้องของสตรีจีน-เขมรคนหนึ่งที่กำลังช็อกกับภาพเบื้องหน้าซึ่งอาจเป็นวิลล่าของเธอเอง และตอนนี้เธอก็ยืนขึ้น ทำท่าเหมือนจะเรียกใครสักคน…ก่อนจะทรุดตัวด้วยสีหน้าที่ตกตะลึง

รถบัสยังตะบึงไปข้างหน้าอย่างเชื่องช้า ราวกับจะจงใจให้ลอเรนซ์ ปิก ได้เปิดดวงตาสำรวจ

 

คฤหาสน์หลังงามย่านในเมือง แสดงถึงความมั่งคั่งร่ำรวยในผู้เป็นเจ้าของ ทว่า ความหม่นมัวของอาคารจากการถูกทิ้งร้างยังคงปรากฏให้เห็นอยู่ในความโอฬารตระการตา และแสดงให้เห็นว่ามีความโกลาหลบางอย่างเกิดขึ้นที่นั่น จนวัตถุทรัพย์สินต่างๆ ถูกทิ้งร้างและปล่อยให้วัชพืชปกคลุม

ลอเรนซ์ ปิก เบี่ยงเบนความสนใจเบื้องหน้า ดูเหมือนเธอกำลังต่อสู้กับความคิดที่มีต่อแนวคิดแบบสังคมนิยมที่เธอทุ่มเทศึกษา อย่างไรก็ตาม ระเบียบว่าด้วยการเมืองการปกครองแบบคอมมิวนิสต์มีข้อห้ามอย่างชัดเจน นั่นคือ ห้ามวิพากษ์วิจารณ์ ห้ามสงสัย และห้ามจินตนาการในสิ่งที่มีอำนาจเหนือวิถีชนบท

โดยผลลัพธ์นั้น เธอไม่อาจทราบว่า มันทำให้เธอมองเห็นอะไรบ้าง?

ลอเรนซ์ ปิก พยายามปลุกปลอบตัวเองว่า เธอยังพอมีเวลาที่จะทำความเข้าใจ หรือจนกว่าอาหารมื้อเย็น ถึงตอนนั้น สามีของเธอคงจะกลับมา และจากนั้น ความสงบสุขภายในครอบครัวที่ล้อมรอบด้วยสามีและลูกๆ ก็คงจะทำให้เธอลืมเรื่องร้ายไปได้บ้าง

ทันที รถบัสก็หยุดลงตรงหน้าอาคารทำเนียบรัฐบาลสมัยลอน นอล ทุกคนทยอยลงไปยืนกันเงียบๆ กระทั่งประตูรถปิดและเคลื่อนที่ออกไป

พลันความรู้สึกเสมือนถูกทิ้งไว้บนดาวเคราะห์แคระแห่งนั้นก็กลับเข้ามารบกวนจิตใจ

 

ชีวิตใหม่ในระบอบกัมพูชาประชาธิปไตย แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ข้อได้เปรียบหนึ่งที่เธอได้รับมากกว่าคนอื่นๆ การอบรมสัมมนา และการกลับมาต่อสู้ร่วมกับประชาชนที่องค์การมอบให้ คือสิ่งที่เธอและสามีต้องจงรักภักดีและตอบแทนต่อองค์กร

ดังเช่น เพื่อแสดงเป็นหนึ่งในอุดมคติแบบสังคมนิยม ลอเรนซ์ ปิก จำเป็นต้องลดขนาดพื้นที่กระเป๋าเดินทางให้เหลือเพียงปัจจัยจำเป็นพื้นฐาน 3 ประการ ในทันทีที่มาถึงกัมพูชา

ส่วนที่เหลือทั้งหมด จะถูกมัดรวมและส่งมอบต่อองค์กร

เช่นเดียวกับชีวิต 5 ปีในระบอบเขมรแดงของลอเรนซ์ ปิก แต่นั้นมา

—————————————————————————————————-
(*) บทคัดย่อวารสาร : จากสวรรค์ถึงนรก-พลเมืองบารังในกัมพูชา (Des Francais au Cambodge) เล่มที่ 2