วันที่ 2 เมษายน 2562 สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า สิงคโปร์ได้ผ่านร่างกฎหมายจัดการข่าวปลอมเข้าสู่รัฐสภาเมื่อวานนี้ ทำให้เกิดความกังวลขึ้นทั้งจากบริษัทผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตจนถึงองค์กรสิทธิมนุษยชนว่า กฎหมายดังกล่าวอาจให้อำนาจรัฐบาลมากเกินไปและใช้ในการลิดรอนสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น

ความเคลื่อนไหวดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อ 2 วันก่อน นายมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊กได้ออกมากล่าวว่ารัฐบาลควรแสดงบทบาทเชิงรุกในการควบคุมแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น แต่สำหรับนายไซมอน มิลเนอร์ ผอ.ด้านนโยบายสาธารณะภูมิภาคเอเชียของเฟซบุ๊ก กล่าวหลังร่างกฎหมายเข้าสู่สภาว่า บริษัทมีความกังวลต่อองค์ประกอบของกฎหมายได้ให้อำนาจกว้างขึ้นกับหน่วยงานของรัฐบาลสิงคโปร์เพื่อบังคับให้บริษัทต้องลบเนื้อหาที่เล็งเห็นว่าบิดเบือนและผลักดันการเตือนของรัฐบาลไปยังผู้ใช้

“ในฐานะกฎหมายที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในเวลานี้ ด้วยระดับที่สูงเกินจะส่งผลเสี่ยงอย่างสำคัญต่อเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการพูด และอาจส่งผลกระทบที่รุนแรงทั้งกับสิงคโปร์และทั่วโลก” เจฟฟ์ เพนน์ ผู้จัดการทั่วไปของพันธมิตรอินเตอร์เน็ตเอเชีย

ด้านนายเค.ชานมุกัม รัฐมนตรีกฎหมายของสิงคโปร์กล่าวว่า กฎหมายใหม่นี้จะไม่ลิดรอนเสรีภาพในการพูด โดยระบุว่า กฎหมายจะจัดการกับข้อเท็จจริงที่เป็นเท็จ ไม่ใช่เอาไว้จัดการกับความเห็นหรือทัศนะ

แม้จะเป็นประเทศที่ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติเข้ามาทำธุรกิจ แต่ด้วยสิงคโปร์ที่อยู่อันดับที่ 151 จาก 180 อันดับของดัชนีเสรีภาพสื่อโลกโดยกลุ่มสื่อไร้พรมแดน ต่ำกว่าประเทศอื่นอย่างรัสเซียและพม่า อีกทั้งกฎหมายนี้ถูกหยิบยกในช่วงที่สิงคโปร์จะมีการเลือกตั้งในปีนี้ แต่นายชานมุกัมก็ปฏิเสธให้ความเห็นกับเรื่องดังกล่าว

ขณะที่นายฟิลล์ โรเบิร์ตสัน รองผู้อำนวยการฝ่ายภูมิภาคเอเชียของฮิวแมนไรท์ วอทช์ กล่าวว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวจะเป็นภัยพิบัติของสิทธิมนุษยชนในสิงคโปร์โดยเฉพาะเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและเสรีภาพสื่อ เพราะการตีความเนื้อหาของกฎหมายนี้กว้างมากและนิยามไม่ชัดเจน และการปล่อยให้ว่าสิ่งนี้ “ทำให้เข้าใจผิด” หรือเป็น “เท็จ” อยู่กับดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่