เมื่อวันที่ 24 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานจากโรงเรียนเทพศิรินทร์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ซึ่งเป็น
หน่วยเลือกตั้งที่ 4 ของเขตเลือกตั้งที่ 1 กทม. นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)เดินทางมาใช้สิทธิยังหน่วยเลือกตั้งดังกล่าว

นายสุพันธุ์ กล่าวภายหลังการลงคะแนนเลือกตั้ง ส.ส.ว่า วันนี้ถือว่าเป็นวันดีของประเทศไทย อยากให้
พี่น้องประชาชนชาวไทยทุกคนออกมาใช้สิทธิ เพราะจะเป็นประโยชน์และช่วยขับเคลื่อนปนะเทศชาติให้
ดำเนินต่อไป วันนี้นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี อย่างน้อยประชาชนจะได้ใช้สิทธิและเสียงส่วนใหญ่ร่วมกันผลัก
ดันให้ประเทศไปในทิศทางใด ต้องการให้พรรคการเมืองใดเข้ามาบริหารประเทศชาติ ส่วนการประเมินทิศทาง
เศรษฐกิจหลังการการเลือกตั้ง หากทุกพรรคยอมรับกติการและผลของการเลือกตั้ง ก็สามารถนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาล ทั้งนี้ขอให้นำนโยบายที่ดีของแต่ละพรรคมาผลักดันให้เกิดเป็นรูปธรรม ส่วนพรรคที่ไม่ได้รับเลือกตั้งเสียงข้างมาก ขอให้ทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านที่ดี

“เชื่อมั่นว่าถ้าทุกคนรักษากติกาและกฏหมายรัฐธรรมนูญที่ตั้งไว้ จะเป็นประโยชน์ต่อความเชื่อมั่นทาง
ด้านเศรษฐกิจ ผมเชื่อว่าทุกพรรคพยายามคัดสรรนโยบายที่ดี โดยจากที่เห็นก็เกิดความมั่นใจ พร้อมเชื่อว่า
โครงการที่มีอยู่เดิมจะได้รับการสานต่อ อาทิ ด้านนโยบายเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม อย่างนโยบายเขตพัฒนา
พิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) การใช้กฎหมายในการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการ โดยที่ผ่านมามีหลายพรรคการเมืองมีความตั้งใจในการมุ่งมั่นพัฒนาด้านอุตสาหกรรมไทย รวมถึงด้านการพัฒนาการเกษตร การยกระดับและพัฒนาคุณภาพสินค้าการเกษตร ซึ่งทุกพรรคต่างมุ่งเน้นนโยบายดังกล่าว หากสามารถทำได้จะเป็นรากฐานที่ดีในการพัฒนาประเทศด้านอุตสาหกรรมและการเกษตร เนื่องจากปัจจุบันประชาชนฐานรากมีจำนวนมากเช่นเดียวกับไทยที่เป็นประเทศเกษตรกรรม”นายสุพันธุ์กล่าว

นายสุพันธุ์ กล่าวว่า สำหรับภาพรวมของการเติบโตเศรษฐกิจไทย(จีดีพี)ประเทศไทย ในส่วนของเงินอัตราดอกเบี้ยและเงินเฟ้อตัวเลขไม่สูงมากเท่ากับปีก่อน เช่นเดียวกับตัวเลขการส่งออกที่น่าจะน้อยลงกว่าปีที่แล้ว แต่ถ้านโยบายพรรคการเมืองดีและการเมืองมีความเข้มแข็ง จะทำให้ตัวเลขส่งออกสูงมากกว่าทุกปี นอกจากนี้จะช่วยสร้างความมั่นใจของนักลงทุนกลับเข้ามาอย่างแน่นอน และหากมีการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากยิ่งขึ้น เชื่อว่าคุณภาพชีวิตของประชาชนจะดียิ่งขึ้น

“ช่วงรอยต่อเศรษฐกิจระหว่างรัฐบาลเดิมและรัฐบาลใหม่ ถ้าเป็นพรรคเดิมก็จะสามารถสานต่อนโยบายได้รวดเร็ว
กว่าพรรคอื่น อย่างไรก็ตาม หากเป็นรัฐบาลชุดใหม่ก็เชื่อมั่นจะสามารถสานต่อนโยบายที่มีอยู่เดิมได้ ซึ่งขึ้นอยู่
กับการบริหารด้านเศรษฐกิจของแต่ละพรรค โดยขณะนี้ประชาชนและสังคมกำลังจับตาดูพรรคการเมืองที่
กำลังเข้ามาว่าจะทำตามนโยบายที่ป่าวประกาศหรือไม่ แต่สิ่งสำคัญคือเรื่องการคอร์รัปชั่น หากการเมืองใหม่ที่
เข้ามาปราศจากการคอร์รัปชั่นจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศอย่างแท้จริง”นายสุพันธุ์กล่าว

มติชนออนไลน์