อดีตประธานพันธมิตรภาคใต้โพสต์ จวกพรรคการเมืองปลุกผีระบอบทักษิณ เพื่อหวังแต้มทางการเมือง

วันที่ 14 มีนาคม นายสุนทร รักษ์รงค์ ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) อดีตประธานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย 16 จังหวัดภาคใต้ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2562 ผมไปศาลอาญาในฐานะผู้ต้องหาคดีปิดสนามบินของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้เจอ 5 แกนนำและผู้ประสานงานรวมเป็น 6 คน ที่ถูกจำคุกจากคดียึดทำเนียบรัฐบาล ทุกคนมีสุขภาพกายใจที่ดี ยิ้มรับชะตากรรมอย่างมีสติและปัญญา พร้อมต่อสู้ในคดีอื่นต่อไป โดยไม่หนีคดีเหมือนใครบางคน

“พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จุดเทียนเล่มแรกเพื่อต่อสู้กับระบอบทักษิณ และผมเชื่อว่าในอนาคตประชาชนจะลุกขึ้นมาต่อสู้กับระบอบเผด็จการอื่นโดยที่ไม่ต้องมีใครมาชี้นำ หรือตามกระแสเหมือนที่มีใครบางคนหรือบางพรรคการเมืองปลุกผีระบอบทักษิณขึ้นมาเพื่อหวังแต้มทางการเมืองอย่างน่าละอายที่สุด เพราะประชาชน ตื่นรู้ มีปัญญาและรักชาติพอที่จะปกป้องชาติและสถาบันอันเป็นที่รักยิ่งของคนไทย”

ด้านนายบรรจง นะแส อดีตนายกสมาคมรักษ์ทะเลไทย ผู้ต้องหาในคดีเดียวกัน โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ถามกันมาเยอะว่าทำไมนายสุริยะใส กตะศิลา ต้องถูกใส่กุญแจมือตอนมาศาล ผมถามทนายความหลายคนได้ความว่า 1.คดีนี้เป็นคดีอุฉกรรจ์มีโทษสูง (ประหารชีวิต) ตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์ ปกติต้องใส่ตรวน กุญแจมือ 2.เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์มีอำนาจในการใช้ดุลพินิจในการจะใส่หรือไม่ เช่น อายุ/สภาพร่างกายของผู้ต้องหา หรือจำนวนของผู้ต้องหา 3.ยะใสยังเป็นหนุ่มและโทษในคดีก็สูง แต่ก็ใช้ดุลพินิจให้ใส่แค่กุญแจมือไม่ต้องใส่ตรวนที่ขา ก็ถือว่าเจ้าหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ได้ปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่และได้ให้เกียรติแก่ผู้ต้องหาตามดุลพินิจของท่านแล้ว

การมาขึ้นศาลในวันนี้ทำให้มีเวลาได้พูดคุยกับผู้ใหญ่ที่ศาลนำตัวมาฟังคำเบิกความในคดีนี้ร่วมกัน เรียกว่าได้คุยกันจนหายคิดถึงโดยไม่ต้องคุยผ่านกระจกเหมือนไปเยี่ยมที่เรือนจำทุกคนบอกว่าปรับตัวได้แล้ว มีเวลาได้อ่านหนังสือ ฝึกสมาธิ พูดคุยกับเพื่อนร่วมคุกฯลฯ ยะใสป่วยไอเป็นระยะ แต่ยังอารมณ์ดีบอกว่าคงโดนแอร์ของศาลเพราะในคุกไม่มีแอร์

“ผมได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำคือนั่งสมาธิตอนเช้าและก่อนนอน”

“ได้เรียนรู้ชีวิตผู้คนร่วมคุก 400 กว่าชีวิต หลายคนพวกเขายังเข้าไม่ถึงกระบวนการยุติธรรมเช่นเพราะยากจนเลยไม่มีทรัพย์สินมาประกันตัวในระหว่างสู้คดี หลายคนหากมีทนายความช่วยเหลืออย่างจริงจังเขาคงได้รับความเป็นธรรมมากกว่าที่ถูกกักขัง “ตอนนี้ก็เรียนรู้/หาข้อมูลไปเรื่อยๆ กะว่าออกไปจะเขียนหนังสือสัก 2 เล่ม คือจะเขียนในลักษณะงานวิชาการสักเรื่องที่ว่าด้วยการปรับปรุงกระบวนการยุติธรรมและอีกเล่มคงเขียนเรื่องจิปาถะ เช่น เรื่องราวต่างที่พบเห็นในคุก”….เดือนพฤษภาคมคมผมจะทวงต้นฉบับมาตรวจว่าเขียนได้เรื่องหรือไม่

มติชนออนไลน์