บทวิเคราะห์ : ความเชื่อมั่นสั่นคลอนเมื่อการเมืองยังคงไม่แน่นอน

ตลาดอสังหาริมทรัพย์ บ้าน คอนโดฯ เป็นตลาดที่ได้รับผลกระทบจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคมากที่สุดตลาดหนึ่ง

เพราะคนจะซื้อบ้านหรือคอนโดฯ นั้นคือคนที่กำลังต้องการจะมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองและกำลังมีความฝันว่าจะมีที่รโหฐานส่วนตัว ฝันจะมีครอบครัวกับคนรัก ฝันจะมีลูก เป็นต้น

และสินค้า “ที่อยู่อาศัย” เป็นสินค้าที่มีราคาแพงมากที่สุดในบรรดาสินค้าส่วนบุคคล ซึ่งทำให้เกือบทั้งหมดต้องกู้เงินจากสถาบันการเงินเพื่อซื้อ แล้วต้องผ่อนชำระเป็นเวลานาน 10-20 ปี

ดังนั้น หากมีเหตุการณ์อะไรที่มากระทบความเชื่อมั่น หรือมาทำลายความฝัน ผู้บริโภคมักจะชะลอการตัดสินใจการซื้อที่อยู่อาศัยออกไปก่อน

เหมือนที่กำลังเกิดขึ้นเวลานี้

 

เดิมเชื่อกันว่า การเลือกตั้งที่จะมีขึ้น 24 มีนาคม 2562 นี้จะเป็นผลดีกับตลาดที่อยู่อาศัย แม้ก่อนนี้จะมีความไม่แน่นอนว่าจะมีเลือกตั้งหรือไม่ จะมีการเลื่อนวันเลือกตั้งออกไปหรือเปล่า แต่ท้ายที่สุดเมื่อประกาศวันเลือกตั้งอย่างเป็นทางการแล้ว ทุกอย่างก็น่าจะเข้าร่องเข้ารอยปกติ และเกิดผลดีกับธุรกิจอสังหาฯ

อย่างน้อยการเลือกตั้ง ซึ่งมีการรณรงค์หาเสียงด้วยกิจกรรมต่างๆ มากมาย ทำให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย เกิดเงินหมุนเวียนในระบบมากขึ้นเป็นพิเศษ

และที่สำคัญที่สุดคือ จะทำให้เกิดความเชื่อมั่น เกิดความหวังกลับมาใหม่ ซึ่งมีความสำคัญมากๆ กับทุกธุรกิจ โดยเฉพาะอสังหาริมทรัพย์

ความเชื่อมั่นและความหวังของระบบเศรษฐกิจ ทำให้สถาบันการเงินกล้าเปิดเครดิตกล้าปล่อยสินเชื่อ ผู้บริโภคก็กล้าตัดสินใจซื้อเพราะเชื่อว่าอนาคตจะดีกว่าปัจจุบัน

 

แต่เมื่อเริ่มเข้าสู่โหมดการเลือกตั้งจริงๆ ตั้งแต่วันสุดท้ายของการสมัคร ส.ส. และส่งชื่อผู้ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็มีเหตุการณ์ใหญ่ดุจแผ่นดินไหวภูเขาไฟระเบิดที่คนไทยไม่กล้าพูดกับคนแปลกหน้า

ต่อมาก็ตามด้วยเรื่องข่าวการยื่นยุบพรรคการเมืองพรรคหนึ่งต่อศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมด้วยความเห็นที่แตกต่างกันแบบตรงกันข้ามเกี่ยวกับเรื่องนี้ในสังคม

ล่าสุดตามมาด้วยเหตุ ผบ.ทบ.ซึ่งเป็นข้าราชการระดับสูงที่คุมกำลังกองทัพที่มีอาวุธ ออกมาปรามพรรคการเมืองที่หาเสียงด้วยนโยบายลดงบประมาณกลาโหม และยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ด้วยการเปิดเพลง “หนักแผ่นดิน”

เป็นการส่งนัยยะกระตุ้นความทรงจำสังคมให้ย้อนกลับไปอดีตเมื่อ 6 ตุลาคม 2519 หรือเมื่อ 42 ปีที่แล้ว ซึ่งเพลง “หนักแผ่นดิน” เสมือนเป็นเพลงโหมโรงของขบวนการ “ขวาพิฆาตซ้าย” ที่จบลงด้วยการล้อมปราบนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ด้วยกำลังอาวุธ จบลงด้วยการเข่นฆ่า จับกุมคุมขัง และหนีเข้าป่า

ทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่า มีความคิดจะทำแบบนั้นอีกหรือไม่

 

มาถึงขั้นนี้แล้ว จะเชื่อได้มากน้อยแค่ไหนว่า การเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ จะเป็นการให้ประชาชนเป็นผู้เลือกได้อย่างเสรี จะเชื่อได้มากน้อยเพียงไรว่า จะมีองค์กรอิสระและข้าราชการที่เป็นกลางเป็นกรรมการในการดำเนินการเลือกตั้ง

มันเป็นคำถามใหญ่ที่สะท้อนถึงความไม่มั่นใจในเสถียรภาพของระบบ

ดังนั้น เรื่องความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ย่อมถูกสั่นคลอนไปด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย เมื่อความเชื่อมั่นลด กำลังซื้อก็ต้องลด และการตัดสินใจซื้อก็ต้องลดลงไปด้วย

วันเวลาผ่านไปหลายทศวรรษ เหตุการณ์บางอย่างคล้ายเดิม

แต่มันไม่ใช่จุดเดิมหรอก มันเป็นเพียงมุมองศาเดิม แต่เป็นจุดใหม่

ประวัติศาสตร์กำลังทำงานทำหน้าที่ของประวัติศาสตร์ เท่านั้นเอง