พรรคประชาชาติลงพื้นที่ยโสธร ชวน ปชช.สั่งสอนเผด็จการ 24 มี.ค.

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 21 กุมภาพันธ์ ที่สำนักงานตัวแทนพรรคประชาชาติ หมู่ 1 ต.สวาท อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ พร้อมด้วย ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย รองหัวหน้าพรรคประชาชาติ ลงพื้นที่ จ.ยโสธร เพื่อพบปะสมาชิกพรรค และขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงใหญ่ช่วยนายเชิดศักดิ์ แสงโซติ ผู้สมัคร ส.ส.ยโสธร เขต 3 พรรคประชาชาติ โดยมีประชาชนเข้าร่วมรับฟัง 500 คน

เมื่อ พ.ต.อ.ทวี และ ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิธณัฐ เดินทางมาถึง ได้เดินทักทายสวัสดีพี่น้องประชาชน โดยมีประชาชนนำพวงมาลัยดอกดาวเรืองมาคล้องคอให้ และมีผ้าขาวม้ามาผูกเอวจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ก่อนขึ้นปราศรัย นายเชิดศักดิ์ ผู้สมัคร ส.ส.ยโสธร เขต 3 พรรคประชาชาติ ได้จัดพิธีบายศรีสู่ขวัญเพื่อต้อนรับแขกผู้ใหญ่ที่มาเยือนในครั้งนี้

พ.ต.อ.ทวี กล่าวในการปราศรัยว่า พรรคประชาชาติเป็นพรรคการเมืองที่เกิดขึ้นเพื่อจะสร้างอนาคต วันนี้พรรคมีนโยบาย คงหนีไม่พ้นการปกครองของประเทศในขณะนี้ จะเห็นว่าไม่เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย เป็นอำนาจเผด็จการของคนๆ เดียว ที่ไม่สามารถแก้ปัญหาของประชาชนได้ เราเชื่อมั่นว่าการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่อำนาจอธิปไตย หรืออำนาจการปกครองเป็นของปวงชนที่แท้จริง และผู้บริหารมาจากระบบการเลือกตั้ง ซึ่งจะเป็นวิธีการแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้อย่างถูกต้อง วันนี้การเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตการปกครองในระบอบประชาธิปไตย เราต้องร่วมกันต่อสู้ ในวันที่ 24 มีนาคมนี้ นำไปสู่การเปลี่ยนแปลง พี่น้องเชื่อหรือไม่ว่าชนชั้นใดเป็นผู้เขียนกฎหมาย ชนชั้นใดเป็นผู้ปกครอง ก็จะปกครอง และเอื้อประโยชน์ให้คนชั้นนั้น กฎหมายที่เกิดโดยชนชั้นใด หรือกลุ่มใด ก็เพื่อชนชั้นนั้น

พ.ต.อ.ทวีกล่าวอีกว่า ยกตัวอย่างรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่นำมาสู่การเลือกตั้ง วันนี้ระบอบประชาธิปไตยคือเสียงข้างมาก จะได้รับสิทธิในการปกครอง พี่น้องเชื่อหรือไม่ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มีเขตการเลือกตั้ง 350 เขตทั่วประเทศ การเขียนรัฐธรรมนูญเพื่อจะสืบทอดอำนาจ ปรากฏว่ามีบัตรเลือกตั้งใบเดียวใน 350 เขต โดยปกติระบอบประชาธิปไตยไม่มีแบบนี้ แต่วันนี้สมมุติให้เต็ม 100% เลย ก็ยังไม่สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้ พี่น้องเห็นหรือไม่ว่าแบบนี้เป็นประชาธิปไตยได้อย่างไร พรรคไหนก็ตามที่ชนะ 100% หรือส่งผู้สมัครครบทั้ง 350 เขต หากชนะทั้งหมดไม่มีแพ้สักเขต ก็ยังไม่สามารถเป็นนายกฯ ได้ เพราะพรรคที่แพ้กลับไปได้คะแนนปาร์ตี้ลิสต์อีก 150 ส.ส.พอไปรวมกับ ส.ว.ที่แต่งตั้งโดยหัวหน้าคณะปฏิวัติอีก 250 คน รวมเป็น 400 คน ซึ่งคนแพ้ได้ 400 คน คนส่วนพรรคชนะได้ 350 ส.ส.เขากำลังดูถูกประชาชน พรรคที่ชนะการเลือกตั้ง 100% ไม่มีสิทธิที่จะเป็นนายกฯ

“ดังนั้น พี่น้องจะเห็นว่าพรรคการเมืองจำนวนมากที่รักประชาธิปไตย กลุ่มคนกลุ่มนี้มีความมั่นคงว่าจะต่อสู้กับเผด็จการ จึงมีพรรคการเมืองจำนวนมากที่อาสาเข้ามา เพื่อเป็นกลุ่มพรรคที่แพ้การเลือกตั้งแต่ไม่เอาเผด็จการ เพราะรัฐธรรมนูญมาตรา 272 เขียนว่าการแต่งตั้งนายกฯ ให้มาจากรัฐสภา คำว่ารัฐสภาคือสภาผู้แทนราษฎรกับ ส.ว.ที่ถูกแต่งตั้งโดยหัวหน้า คสช.ดังนั้น ใน 150 ส.ส.ที่ได้ปาร์ตี้ลิสต์ กล่าวคือรัฐธรรมนูญเขียนให้พรรคที่แพ้การเลือกตั้ง เอาคะแนนไปรวมกันเพื่อจะได้อีก 150 ส.ส.ดังนั้น วันนี้จะไม่มีพรรคการเมืองพรรคใดเป็นรัฐบาลได้โดยพรรคเดียว ต้องเป็นพรรคการเมืองที่รวมกันเพื่อให้ได้ 276 ส.ส.ขึ้นไป อยากจะบอกพี่น้องว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่ดูถูกประชาชน ไม่เครารพสิทธิเสรีภาพของประชาชน ด้วยความเหิมเกริม คนที่เป็นคณะปฏิวัติจะสืบทอดอำนาจ ตั้งพรรคตัวเองขึ้นมาเพื่อชิงคะแนน เพื่อให้ได้อีก 125 ส.ส.แล้วรวมกับ ส.ว.อีก 250 เสียง เพื่อส่งผลให้ตัวเองเป็นนายกฯ มีบางพรรคการเมืองบอกว่าตัวเองเป็นประชาธิปไตย แต่แฝงตัวเอาทหารมายืนอยู่ ดังนั้น วันที่ 24 มีนาคม จึงเป็นวันที่ประชาชนได้สั่งสอนเผด็จการ” พ.ต.อ.ทวี กล่าว

พ.ต.อ.ทวีกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ขอเสนอนโยบายของพรรคประชาชาติ “5 อ.” และไม่เอา “1 อ.” ประกอบด้วย 1.อาหาร ทุกคนต้องเข้าถึงปัจจัย 4 อันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน 2.อาชีพ ทุกคนมีกรรมสิทธิในที่ทำกิน และอยู่อาศัย 3.อนามัย ให้ประชาชนทุกพื้นที่มีโรงพยาบาล และหมอคุณภาพ 4.โอกาส โดยเฉพาะการศึกษา และปกครองตัวเอง หรือกระจายอำนาจ ซึ่งกรุงเทพฯ ต้องมีการเลือกตั้งผู้อำนวยการเขต และ 5.อัตลักษณ์ คือเคารพความแตกต่าง และที่ไม่เอา 1 อ.คือ ความอยุติธรรม พร้อมจะผลักดันเบี้ยผู้สูงอายุคนละ 3,000 บาทต่อเดือน

มติชนออนไลน์