บทวิเคราะห์ : ทิศทางอสังหาฯของไทยบนปัจจัยกำลังซื้อจากจีน

มีรายงานข่าวว่า นักท่องเที่ยวจีนเริ่มกลับมาเที่ยวประเทศไทยเพิ่มขึ้นในช่วงตรุษจีนที่ผ่านมา หลังจากที่หดหายลงไปมากเมื่อปีที่แล้ว แม้จะไม่มีใครคาดหวังว่านักท่องเที่ยวจีนจะกลับมามากเหมือนเดิม เพราะจีนเองก็ประสบปัญหาสงครามการค้ากับสหรัฐอเมริกา แต่เมื่อเพิ่มกลับมาบ้าง ยังไงก็ดีกว่าไม่มาเลย

มาดูทางด้านนักลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ชาวจีนในไทยบ้างว่ามีทิศทางอย่างไร

มีโอกาสแลกเปลี่ยนข้อมูลและความคิดเห็นกับเอเย่นต์อสังหาฯ จีนในไทยรายใหญ่รายหนึ่ง ที่เพิ่งกลับจากไปฉลองตรุษจีนที่ประเทศจีน ทำให้ทราบว่า

กำลังซื้อห้องชุดในโครงการคอนโดมิเนียมต่างๆ ในกรุงเทพฯ ของชาวจีนลดลงไปมาก เพราะรัฐบาลจีนควบคุมการนำเงินออกต่างประเทศมาก ทำให้การนำเงินมาซื้อคอนโดฯ ที่กรุงเทพฯ ทำได้ไม่ง่าย ขณะเดียวกันคนจีนก็เจอภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว เนื่องจากมีปัญหาเรื่องการส่งออกไปตลาดสหรัฐ

กำลังซื้อของนักลงทุนอสังหาฯ จีนที่ลดลงดังกล่าว ทำให้นายหน้าอสังหาฯ ชาวจีนที่เป็นนายหน้าอิสระทำคนเดียวบ้าง หรือรวมกลุ่มกันทำ 2-3 คนบ้าง ซึ่งมีจำนวนรวมๆ กว่า 100 ราย ส่วนหนึ่งกลับเยี่ยมบ้านตรุษจีนปีนี้แล้วไม่กลับมาที่กรุงเทพฯ อีก เพราะตลาดซบเซา

ส่วนเอเย่นต์อสังหาฯ จีนที่เป็นบริษัทรายใหญ่ซึ่งมี 10 กว่ารายนั้น ยังมั่นใจดำเนินธุรกิจต่อไป เพราะเชื่อว่า ภาวะขึ้นลงของเศรษฐกิจเป็นเรื่องปกติ มีขึ้นแล้วก็มีลง

ในระหว่างการปรับตัวขาลงนี้ เอเย่นต์อสังหาฯ จีนรายใหญ่ มีการร่วมมือกับบริษัทอสังหาฯ รายใหญ่ของไทยมากขึ้น เพื่อสร้างช่องทางการขายคอนโดฯ ไทยไปสู่ตลาดจีนแบบยั่งยืน

สรุปว่า กำลังซื้ออสังหาฯ จากประเทศจีนยังไม่กระเตื้อง แต่ยังมีความหวังว่าจะกลับมา แม้จะไม่ใช่เร็วๆ นี้ก็ตาม

 

กลับมาที่กำลังซื้อคนไทยเราเอง กับแคมเปญร้อนๆ ห้องชุด ที่เปิดฉากแคมเปญดุมาต้นปี ตั้งแต่ปลายเดือนมกราคมเลยนั้น

พอถึงช่วงกลางๆ กุมภาพันธ์ กลับแผ่วลงไปหน่อยหนึ่ง

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะหลบกระแสแรงวันสมัครรับเลือกตั้งวันสุดท้ายพร้อมกับส่งรายชื่อผู้ที่จะเข้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หรือเป็นเพราะทดลองยิงแคมเปญแรงๆ ออกไปแล้ว แต่การตอบรับไม่ดี จึงหยุดรอดูทิศทางก่อน

ไม่ว่าสาเหตุจะเป็นเพราะอะไรก็ตาม

แต่ที่เคยหวังว่าเมื่อเริ่มรณรงค์เลือกตั้งบรรยากาศเปิด มีการใช้จ่ายรณรงค์หาเสียง จนกระทั่งผลเลือกตั้งออกมา บรรยากาศจะดีขึ้น และอารมณ์ซื้อก็จะดีขึ้น ไม่จริงเสียแล้ว

เกมชิงอำนาจยังคงดุเดือดซับซ้อน คนไทยจำนวนมากยังอ่อนไหวและกระเหี้ยนกระหือรือกับความเห็นต่าง เวลาที่ผ่านมาหลายปี หลายเหตุการณ์ยังไม่ช่วยให้ได้รับบทเรียนเพียงพอที่จะทำให้คนจำนวนมากหันมารอมชอม

หรืออย่างน้อยก็ยอมรับกติกากลางอันเดียวกัน แม้จะมีความเห็นแตกต่าง

ดูแล้วคงต้องใช้เวลาอีกยาวนาน คงต้องปะทะสังสรรค์กันอีกหลายระลอก

สูดหายใจลึกๆ ทำใจให้สงบ แล้วทำงานต่อไป

555