วางบิล/เรืองชัย ทรัพย์นิรันดร์/ หมู่ขัน อารมณ์ดี ประชัน นายหนุนยัน ก่อนปฏิวัติ

วางบิล/เรืองชัย ทรัพย์นิรันดร์

หมู่ขัน อารมณ์ดี ประชัน นายหนุนยัน ก่อนปฏิวัติ

 

เหตุการณ์ทางการเมืองเริ่มมีเค้าแห่งการเปลี่ยนแปลง หนังสือพิมพ์เข็มทิศเริ่มเสนอข่าวที่เกี่ยวกับการเมืองเพิ่มขึ้นจากข่าวเศรษฐกิจธุรกิจและวงการนักธุรกิจ ตั้งแต่ข่าวจำเลยคดี 6 ตุลา 19 ต้องขึ้นศาลทหาร ข่าวความเคลื่อนไหวของนักการเมืองบางคน

หนึ่งในความเป็น “เข็มทิศ” คือข้อเขียนของหมู่ขัน อารมณ์ดี ต้นเดือนตุลาคม 2520 ฉบับ 15-18 ตุลาคม 2520 เรื่อง เรื่อยๆ มาเรียงๆ ท้ายคอลัมน์เขียนว่า

บรรดาผู้รับผิดชอบก่อการบริหารประเทศชาติทั้งหลายเอ๋ย เธอกำลังทำอะไรกันอยู่ กำลังเล่นอะไรกันอยู่ เธอกำลังสู้กับอะไร

ภารกิจหลักอันแท้จริงของพวกเธอ ขึ้นอยู่กับการต่อสู้เพื่อตำแหน่งบนเก้าอี้เท่านั้นหรือ

เธอมิได้มีหน้าที่การงานนอกเหนือจากนี้ละหรือ

– จุ๊จุ๊ หมู่เบาหน่อย ทำยังกะไปโกรธใครมา

– โกรธสิวะ ใครจะมาทำให้บ้านนี้เมืองนี้ฉิบหายเป็นโกรธทั้งนั้น

– ถ้างั้นให้ต่อยกับใครตัวต่อตัวเอาไหมเล่า

– ใคร ใคร ยืนเรียงลงมาเลยตั้งแต่หัวแถวถึงท้ายแถว อย่าว่าแต่ต่อยกันเลย แจ้งความตามโรงพักแข่งกันก็ยังได้ ดูซิว่าใครจะแจ้งเก่งกว่าใคร หนอย เอะอะอะไรก็เดี๋ยวปิด เดี๋ยวแจ้ง เดี๋ยวแจ้ง เดี๋ยวปิด งานว่างนักหนาหรือไง

– ใจเย็นหมู่

– บ๊ะ ไอ้นี่ พูดยังกะเสธ.อุทัยเชียว เจอะหน้าเป็นต้องบอกว่าใจเย็นๆ ใครจะไปเย็นไหว นั่งกินไอติมในห้องแอร์ยังเหงื่อแตกพลั่กนี่หว่า น้ำมนต์กี่วัดๆ ก็ร้อนเหลือประมาณ ร้อนจนสุดแสนจะทนทานทีเดียวว่ะ

– ฟังเพลงดีกว่าน่ะหมู่

– เพลงอะไร

– ลาแล้วแก้วตาพี่ อยู่จงดี อยู่จงดี ฮึ้ม ฮึม ฮึม หึ่ม…

 

เข็มทิศฉบับต่อมา วันที่ 19-21 ตุลาคม 2520 นายหนุนยัน ในคอลัมน์ สนับสนุนเต็มขั้น

“วันเบาๆ”  ขึ้นต้นว่า ช่วงระยะปลายร้อนชนต้นหนาวนี้ ฟ้าแลบ ฟ้าคะนอง ฟ้าผ่า ไม่ค่อยมีเหตุผล อย่างที่เขาเรียกว่า ฝนสั่งฟ้า คนธรรมดาที่อยู่ใต้ฟ้าก็ต้องประสาทกันหน่อย

ก็ปัดโธ่ ชีวิตคนทำหนังสือพิมพ์ชนิดไม่มีขั้นตอนหยั่งพวกผมมันลำบากครับ ขนาดว่ากันตามขั้น เพื่อนไม่ชอบใจ เอะอะก็จับตอนกันอยู่เรื่อย เอาแน่อะไรไม่ได้หรอกครับ ลงแจ้งความประกาศเด็กหายอยู่แหม็บๆ พอเด็กโผล่ออกมา อ้าว หนังสือพิมพ์ถูกปิดไปซะแล้ว เล่นอะไรกันก็ไม่รู้

กำลังนั่งเซ็งๆ หมู่ขัน อารมณ์ดี ซึ่งหมู่นี้ชักจะมีแต่อารมณ์เสียก็เดินมาทุบหลังเข้าอั้กเบ้อเร่อ

“เป็นไงไป ไอ้คุณหนุนยัน ถึงมานั่งทำหน้าทำตาเหมือนถูกคนเอาตีนถีบตะมูกมายังงั้นวะ” แน่ะ! ฟังสำนวนคนอารมณ์ดีเขาทักเพื่อนกันมั่งสิครับ… (ตัดความไปถึงตอนท้ายที่หมู่ขันชวนนายหนุนยันไปเข้าวัด รดน้ำมูกน้ำมนต์ สะเดาะเคราะห์เสียบ้าง…)

เมื่อแจ้งเรื่องเคราะห์กับอาจารย์ “อุ๊ย อาการหนัก” อาจารย์อุทาน “ปล่อยไว้ไม่ได้ไอ้ดาวเคราะห์กุมเป้านี่สำคัญนัก ช่วงนี้ดาวมันทำมุมกุมกันเยอะ ต้องรีบสะเดาะ  ผ่อนหนักให้เป็นเบาก็ยังดี” ว่าแล้วอาจารย์ก็แนะนำว่า “หยั่งงี้ต้องนุ่งขาวห่มขาว เดินหน้าเก้าก้าว หลังเก้าก้าว ขวาเก้าก้าว ซ้ายไม่ต้องไปก้าวมัน แล้วนั่งสนามหญ้าหน้าบ้านตั้งแต่เช้ารับแสงอาทิตย์ เอาพลังงานของเหตุและผลใส่ตัว สะเดาะเคราะห์สักเดือนหนึ่ง จนกว่าดาวเคราะห์จะเลิกกุมเป้า ก็สบายเอง”

เมื่อถูกปฏิเสธ ด้วยเหตุบ้านเป็นห้องแถวริมถนน “ขืนนุ่งขาวห่มขาวริมถนน ถึงคนไม่ว่าผมบ้า หมามันก็ฟัดเอาตายหอง”

อาจารย์มองหน้าผมอย่างเห็นใจ นั่งคิดอยู่นิดหนึ่งแล้วว่า

“เอาหยั่งงี้ก็แล้วกัน ไปรเวตหน่อย หาโลงผีสักโลง เอาชนิดเฟิร์ตส์แฮนด์ หรือเซ็กกันด์แฮนด์ก็ได้ เช้าลงไปนอนแก้เคล็ด 9 นาที เย็นลงนอนแก้เคล็ด 9 นาที สักเดือน เคล็ด เอ๊ย เคราะห์ก็หาย”

ผมก้มลงกราบอาจารย์

หมู่ขันมองหน้าผม ทำหน้าตาเป็นเชิงว่า เอาสักทีสิวะ ไอ้โง่ เคราะห์ไม่ดีแล้วยังเสือกทำหยิ่ง

“แหม ท่านอาจารย์ฮะ เอาไอ้ชนิดที่ปัญญาแก่ๆ กว่านี้หน่อยไม่มีหรือฮะ หยั่งดอกไม้เจ็ดสี แพรเจ็ดศอกอะไรหยั่งงี้”

“บ๊ะ คุณนี่ ช่างไม่มีวัฒนธรรมการสะเดาะเคราะห์ซะมั่งเลย ยุคนี้มันยุคปฏิรูปแล้ว จะมัวสะเดาะเคราะห์ด้วยดอกไม้เจ็ดสีอยู่ได้ยังไง”… “เอาหยั่งงี้ก็แล้วกัน จำคาถานี้ไว้ ท่องก่อนนอน ก่อนทำงาน ก่อนเข้าหาผู้ใหญ่ ก่อนจะทำอะไรก็ท่องไว้ กัมมุนา วัตตีโลโก จำไว้ กัมมุนา วัตตีโลโก กุ๊ก กุ๊ก

“อย่าลืมไอ้สองคำหลังนี้นะโว้ย สำมะคัญมาก กุ๊ก กุ๊ก”

 

ระหว่างที่หนังสือพิมพ์เข็มทิศฉบับประจำวันที่ 19-21 ตุลาคม 2520 อยู่บนแผงจำหน่ายหนังสือพิมพ์ เย็นวันที่ 20 ตุลาคม 2520 พล.ร.อ.สงัด ชลออยู่ เป็นหัวหน้า พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ เป็นเลขาธิการกับคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน รวม 24 คน ประกาศปฏิวัติ ยึดอำนาจรัฐบาลนายธานินทร์ กรัยวิเชียร

พล.ร.อ.สงัด หัวหน้าคณะปฏิวัติแถลงถึงเหตุปฏิวัติเฉพาะด้านเศรษฐกิจว่า เศรษฐกิจของชาติที่ผ่านมาดูเผินๆ นั้นก้าวหน้า แต่โดยข้อเท็จจริงน่าจะก้าวไปดีกว่านี้ ภาวการณ์บางอย่างชะงักและถอยหลัง เช่น เรื่องการลงทุน การชักชวนชาวต่างประเทศมาลงทุนไม่ก้าวหน้า และมีแนวโน้มว่านักลงทุนเหล่านี้ไม่มั่นใจ ถ้ายังปล่อยให้เหตุการณ์เป็นเช่นนี้เรื่อยไปยากจะแก้ไขให้ดีขึ้นในโอกาสข้างหน้า

หนังสือพิมพ์เข็มทิศนำคำแถลงของหัวหน้าคณะปฏิวัติลงพิมพ์เป็นตัวพิมพ์ดีดหน้า 12 และลงพิมพ์คำสั่งคณะปฏิวัติในหน้า 3 รวม 7 ฉบับ โดยฉบับที่ 4 แจ้งเรื่องคณะปฏิวัติเข้ายึดอำนาจการปกครองประเทศไว้แล้วอย่างเด็ดขาด ตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม 2520 เมื่อเวลา 18 นาฬิกา

ฉบับที่ 6 เรื่องการฝึกอบรมลูกเสือชาวบ้านให้ดำเนินการต่อไปได้ และฉบับที่ 7 ให้ พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นผู้อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ

พล.อ.เสริม ณ นคร ผู้บัญชาการทหารบก เป็นผู้อำนวยการรักษาพระนคร