แมลงวันในไร่ส้ม/ กรณี ‘คลิปส่วนตัว’ โหมโรง ‘เลือกตั้ง’ และคำถามถึง ‘สื่อ’

แมลงวันในไร่ส้ม

กรณี ‘คลิปส่วนตัว’

โหมโรง ‘เลือกตั้ง’

และคำถามถึง ‘สื่อ’

สื่อต่างๆ เสนอข่าวคลิปส่วนตัว “วัฒนา เมืองสุข-ณัฏฐา มหัทธนา” เริ่มจากคลิปและภาพบุคคลไม่ระบุชื่อ ก่อนที่ทั้งคู่จะออกมาให้สัมภาษณ์ตอบโต้

ทั้งสองคนยังเป็นโสด แม้จะเคยมีครอบครัว แต่หย่าร้างไปแล้ว ทำให้ไม่มีข้อหาเรื่องการกระทำผิดศีลธรรม

วัฒนา เมืองสุข

แต่การที่ทั้งสองคนมีทัศนะตรงข้ามกับผู้มีอำนาจและแสดงออกอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประเด็นทางการเมืองเด่นชัดขึ้นมา

ในการวิพากษ์วิจารณ์ มีการระบุพาดพิงว่า อาจเป็นงานไอโอ หรืออินฟอร์เมชั่น โอเปอเรชั่น ของทางราชการ

พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.และเลขาธิการ คสช. ออกมาชี้แจงปฏิเสธถึง 2 ครั้งติดต่อกัน 2 วัน คือวันที่ 21 และ 22 ธันวาคม

สำหรับการชี้แจงในวันที่ 22 ธันวาคม พล.อ.อภิรัชต์ระบุเป็นข้อๆ ว่า

  1. กองทัพบกเป็นหน่วยงานด้านความมั่นคง และมีความเป็นมืออาชีพ และไม่เคยใช้คนหรือเครื่องมือนอกเหนืองานด้านความมั่นคงและผิดจรรยาบรรณโดยเด็ดขาด
  2. คำว่า IO หรือ Information Operation หรือการต่อต้านงานด้านการข่าว และการต่อต้านการข่าวกรองทางทหาร จะปฏิบัติต่อกลุ่มคนหรือองค์กรที่ต่อต้านระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และกลุ่มที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติเท่านั้น
  3. ทบ.เข้าใจและเห็นใจต่อผู้เสียหายจากการใช้ Social Media ทุกคน และขอให้สังคมให้ความเป็นธรรม และใช้วิจารณญาณกับสิ่งที่เกิดขึ้น
  4. ปรากฏการณ์ใส่ร้ายป้ายสีก่อนการเลือกตั้ง เป็นเรื่องที่ไม่ปกติของสังคมไทยมาทุกยุคสมัย และ
  5. ทบ.ได้มีประสบการณ์ในวิกฤตการเมืองที่เกิดขึ้นมาทุกสมัย และทุกครั้งที่เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ทบ.มักจะตกเป็นจำเลยของสังคม โดยที่กลุ่มเห็นต่างมิได้มองถึงสาเหตุหรือต้นเหตุแห่งความวุ่นวายที่เกิดขึ้น โดยขอนำอมตวาจาของท่าน ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช อดีตนายกรัฐมนตรีว่า “รัฐธรรมนูญไม่ใช่ปัญหา คณะปฏิวัติเป็นเพียงปลายเหตุ คนโกงต่างหาก คือต้นเหตุ”

ต่อมาวันที่ 22 ธันวาคม ช่วงเวลา 18.00 น. โบว์ ณัฏฐา ได้ไลฟ์ทางเฟซบุ๊กเป็นเวลา 1 ชั่วโมง มีรายละเอียดบางตอนดังนี้

สิ่งที่เกิดขึ้นมีความรู้สึกเหมือนโบว์เข้าห้องน้ำ ไปทำธุระส่วนตัวแล้วถูกแอบติดตั้งกล้องไว้ ในระดับ hd ด้วย แล้วนำคลิปไปเผยแพร่และเป็นข่าวไปทั่วประเทศ เท่านั้นไม่พอ มีบุคคลหลายประเภทเข้ามาคอมเมนต์ทั้งทับถมซ้ำเติม

มีคนพยายามโทรศัพท์มาสอบถาม คนสนใจมากคือเรื่องชีวิตส่วนตัว สถานภาพครอบครัว เราทั้งสองก็ได้ชี้แจงค่อนข้างชัดเจนแล้ว แต่ละครอบครัวมีอดีต แต่สิ่งที่ดำรงอยู่คือลูกและความรับผิดชอบลูก สำหรับโบว์ เราแยกทางกันด้วยดี 6 ปีแล้ว แต่ยังช่วยกันเลี้ยงลูกอยู่ ไม่มีอะไรน่าห่วง และเขาก็มีครอบครัวของเขาที่ต้องดูแล ที่โบว์ห่วงคือความปลอดภัยของลูกมากกว่า

ประเด็นต่อมา ใครเป็นคนทำสิ่งที่เกิดขึ้น วิถีชีวิตของโบว์ ปกติก็มีคนติดตาม เป็นคนมียศ วนเวียนไปที่บ้าน ถ่ายรูปแล้วออกไป ก็เป็นแบบนี้ แต่ถ้าใกล้ช่วงกิจกรรมใหญ่จะมาถี่มากแทบทุกวัน บางวันโบว์ขับรถออกจากหมู่บ้าน รปภ.ก็มาบอกว่ามีคนขับรถตาม บางทีโบว์ขับไปส่งลูก ก็มีคนขับตามไป แต่โบว์ไม่ได้กังวลกับการที่มีคนติดตามเพราะเรื่องนี้เกิดขึ้นจนเคยชิน เพียงแต่ไม่เคยคิดว่าจะมีการใช้วิธีสกปรกขนาดนี้

เราสองคนเวลาไปทานข้าวก็ทานที่ร้านอาหารปกติ คลิปที่เห็นที่ลงจากรถ ก็เป็นการเดินเข้าร้านอาหาร นั่งในสถานที่ที่เป็นสาธารณะ ไม่ได้ปิดบัง ก็เป็นเรื่องปกติ

กลับมาถึงคำถามที่ว่า ศัตรูของเราคือใคร น่าจะชัดเจนว่าการเคลื่อนไหวของโบว์มีใครเสียประโยชน์หรือเป็นการสร้างปัญหาให้ใคร ใครจะมีทรัพยากร กำลังคนมาก ถึงขนาดที่จะติดตามโบว์ได้ทุกหนทุกแห่ง

ณัฏฐา มหัทธนา

ในคลิปโบว์สะพายกระเป๋าซึ่งเป็นใบที่ไม่ได้ใช้นานแล้ว โบว์จึงรู้ว่าเขาเก็บคลิปนี้ไว้นานมากแล้ว และรอจังหวะที่จะปล่อยออกมาซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกับที่พรรคการเมืองเริ่มทำกิจกรรมใหญ่ จังหวะเดียวกับที่เรารณรงค์เกี่ยวกับการเลือกตั้ง

กระทั่งมาถึงระดับที่เราสร้างภาพกิจกรรมทางการเมืองที่ชัดเจน เป็นจังหวะที่เกิดงานเลี้ยงของพรรคการเมืองใหม่ มีข่าวใหญ่เกิดขึ้น คลิปนี้จึงถูกปล่อยออกมา และเห็นได้ว่าในภาพที่เป็นภาพนิ่งที่ถูกปล่อยออกมาล็อตหนึ่ง ทุกภาพมีโลโก้ใหญ่มากของพรรคการเมืองหนึ่ง เจตนาจึงชัดเจนว่าการปล่อยคลิปนี้ต้องการอะไร ไม่ได้เพียงทำลายหรือทำร้ายคนสองคน แต่ได้ทำลายสิ่งที่เชื่อมโยงเราด้วย

สื่อมวลชนจำนวนมากโทร.มาหาโบว์ ที่โทร.มาด้วยความจริงใจก็ขอบคุณ แต่เท่าที่เห็นสื่อมวลชนหลายสำนักไม่ตระหนักว่าสิ่งนี้คืออาชญากรรม แต่กลับสนับสนุนให้การก่ออาชญากรรมครั้งนี้บรรลุผลด้วยการใช้ภาพ ต่อให้คุณเบลอก็ตาม

นั่นคือสิ่งที่อาชญากรต้องการ นั่นคือสิ่งที่อำนาจนั้นต้องการจากเรื่องนี้ นั่นคือให้สื่อเอาภาพมาใช้เพื่อเบี่ยงเบนประเด็นและทำลายศัตรู และสื่อก็ตอบสนองเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ตาม

สื่อทีวีบางสำนักได้มาขอสัมภาษณ์โดยให้พาไปที่จุดเกิดเหตุ เพื่อจะขอสัมภาษณ์คนบริเวณนั้นว่ามีทหารมาติดตามจริงหรือไม่ ซึ่งขอโทษเถอะ ทหารคงไม่ใช้รถฮัมวี่มาติดตามโบว์หรอก

โบว์บอกเลยว่าอารมณ์และความรู้สึกของโบว์เป็นเรื่องเล็กที่สุด แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือ อยากให้สื่อทุกสำนักรู้เท่าทันอาชญากร และไม่ตกเป็นส่วนหนึ่งของอาชญากรรมนั้น โบว์บังเอิญไปเห็นสำนักข่าวหนึ่ง ที่มีพิธีกรคู่ นำรูปจากคลิปไปใช้ ทีมงานเบลอ แล้วพิธีกรคนหนึ่งก็พูดว่าทำไมไปเบลอเยอะขนาดนั้น เหมือนตำหนิทีมงาน

เอาจริงๆ ถึงจะเบลอก็มีความผิด ในแง่ส่งเสริมเจตนารมณ์ที่ต้องการเบี่ยงเบนประเด็นสาธารณะ อาทิ การโกงการเลือกตั้ง การทุจริต อยากเรียกร้องสื่อมวลชนและอยากให้สื่อตั้งหลักให้ดี

และประเด็นสุดท้าย ขอให้ทุกคนตั้งหลักและมีสมาธิ โบว์อยากชวนตั้งคำถามและคิดตามกันว่าใครเป็นคนเสียประโยชน์ และใครได้ประโยชน์จากเรื่องที่เกิดขึ้นกับเราสองคน

 

และในเช้าวันที่ 24 ธันวาคม โบว์ ณัฏฐา ได้ออกรายการทางวอยซ์ทีวี และยืนยันว่าจะฟ้องร้อง

โดยให้เหตุผลด้วยว่า ได้รับข้อมูลจากองค์กรสิทธิมนุษยชนที่ใหญ่ที่สุดในโลกองค์กรหนึ่งว่า

“ถ้าโบว์ฟ้องเขาจะเอากรณีนี้ไปทำงานเพื่อสิทธิมนุษยชนต่อได้ เพื่อรายงานเรื่องการละเมิดสิทธินักปกป้องสิทธิและอื่นๆ ต่อได้อีกมาก และจะเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ จึงเป็นจุดเปลี่ยน แม้จะไม่ได้ผู้บงการ หรือคว้าน้ำเหลว แต่ก็ยังมีประโยชน์กับวงการ”

เช่นเดียวกับวัฒนา เมืองสุข ที่ออกมาโพสต์ข้อความว่าลูกสาวก็สนับสนุนให้ฟ้อง

น่าสนใจว่า หลังจากนี้ ความจริงจะปรากฏออกมาอย่างไร หรือไม่