ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 21 - 27 ธันวาคม 2561 |
---|---|
คอลัมน์ | วิถีแห่งอำนาจ |
ผู้เขียน | เสถียร จันทิมาธร |
เผยแพร่ |
วิถีแห่งอำนาจ เอี้ยก่วย/เสถียร จันทิมาธร
เตรียมมอบของขวัญสำคัญ (170)
วันที่ 24 เดือน 10 มาถึง ก่อให้เกิดความรู้สึก 2 ความรู้สึกซึ่งขัดแย้ง สวนทางกันอย่างสิ้นเชิง 1 เป็นความรู้สึกรอคอย คาดหวัง อันมาจากก๊วยเซียง เจ้าของงานวันเกิด
1 เป็นความรู้สึกที่มิอาจคาดหมายอะไรได้ของอึ้งย้ง ผู้มารดา
มาถึงบัดนี้นางรู้แล้วว่า ที่ธิดาคนเล็กของนางรอคอยเป็นเอี้ยก่วย และบรรดาเรื่องเหนือความคาดหมายอันเกิดขึ้นเรื่องแล้วเรื่องเล่าน่าจะมาจากเอี้ยก่วยอย่างเป็นด้านหลัก ความกังวลอย่างมีนัยสำคัญอยู่ที่เจตนาแท้จริงของเอี้ยก่วยเป็นเช่นไร
เป็นความหวังดีหรือว่าประสงค์ร้าย
ดังนั้น เมื่อวันที่ 24 เดือน 10 มาถึง อึ้งย้งจึงลอบไปหมอบร่างซ่อนตัวอยู่หลังภูเขาจำลองคอยติดตามการเคลื่อนไหวของก๊วยเซียง ธิดาคนเล็กด้วยความระทึกในดวงหทัย
“วันเกิดของทุกปี มารดาจะบอกให้เราตั้งจิตอธิษฐาน”
เป็นคำกล่าวจากปากของก๊วยเซียง “นึกความหวัง 3 ประการ ตอนนี้ไร้ผู้คน เราจะขอบอกต่อเทพยดาฟ้าดิน”
อึ้งย้งความจริงคิดออกไปสนทนากับธิดา แต่พอได้ยินคำพูดหลายประโยคนี้ เท้าซ้ายที่ก้าวออกไปจึงชักกลับ ครุ่นคิดขึ้น “เราแม้เป็นมารดานาง ปรกติยังคาดเดาความคิดอ่านของนางไม่ออก ตอนนี้จะได้รับฟังความหวัง 3 ประการของนางดู”
ความหวังประการแรกของเรา ขอให้บิดา มารดานำกำลังทั้งหมดสมทบกับเหล่านักสู้ผู้กล้าขับไล่ทหารมองโกลที่มารุกรานล่าถอยหมดสิ้น ช่วยให้ชาวเมืองเซียงหยางอยู่เย็นเป็นสุข
ความหวังประการสองของเรา
ขอให้บิดา-มารดามีสุขภาพพลานามัยสมบูรณ์ อายุยั่งยืนเป็นร้อยปี ขอให้บิดา มารดาสมมาดปรารถนาทุกเรื่องราว
ความหวังประการสามของเรา
ขอให้ชาวยุทธ์เจ้าอินทรี เอี้ยก่วยกับฮูหยินของเขา เซียวเล้งนึ่ง อยู่ร่วมกัน ครองรักอย่างมีความสุข
ยามนั้นพลันได้ยินเสียงสวบเบาๆ คนผู้หนึ่งกระโดดลงจากกำแพงตึก คนผู้นี้ศีรษะใหญ่โต รูปร่างต่ำเตี้ย สารรูปประหลาดพิกล น่าขบขันนัก
ก๊วยเซียงพอพบเห็นกระโดดปราดขึ้น
ปีศาจหัวโตเดินเข้าเก๋งดอกรักเร่ น้อมกายคารวะ ท่าทางเคารพนบนอบยิ่ง “ชาวยุทธ์เจ้าอินทรีบอกว่า เขาต้องจัดเตรียมของขวัญวันเกิดให้แก่โกวเนี้ย 3 สิ่ง ดังนั้น วันนี้มาสายบ้าง ของขวัญ 3 สิ่งนี้ สิ่งแรกจัดเตรียมไว้แล้ว สิ่งที่ 2 ชาวยุทธ์เจ้าอินทรีนำพี่น้องทั้งหลายไปดำเนินการ ตอนนี้คาดว่าคงใกล้สำเร็จแล้ว
สำหรับของขวัญสิ่งที่ 3 ชาวยุทธ์เจ้าอินทรีบอกว่า ต้องส่งมอบต่อโกวเนี้ยในงานชุมนุมของพรรคกระยาจกกลางสนามประลองยุทธ์ด้วยตัวเอง ดังนั้น ขอเชิญท่านไปยังสนามประลองยุทธ์ คาดว่าใกล้ได้เวลาแล้ว”
นี่ย่อมเป็นวินาทีอันระทึกใจอย่างยิ่ง
เมื่อก๊วยเซียงตกลงรับคำ ปีศาจหัวโตผิวปากเป็นเสียงดังหลายครา ที่นอกกำแพงปรากฏเงาดำทะมื่นกลุ่มใหญ่โหมหอบเข้ามา
กลับเป็น “อินทรี” วิเศษ
ก๊วยเซียงพอเห็นอินทรีวิเศษก็โถมเข้าไปหมายโอบรอบคอคล้ายกับพบพานเพื่อนเก่าที่จากกันมานาน อินทรีวิเศษกลับถอยไป 2 ก้าว ยืนหยัดอย่างทระนง เอียงคอชำเลืองมอง
“ท่านช่างเขื่องโขนัก ไม่สนใจข้าพเจ้าหรือข้าพเจ้าพานจะให้ท่านสนใจ”
กล่าวพลางกระโดดขึ้นยกมือโอบคออินทรีวิเศษ ครั้งนี้อินทรีวิเศษไม่หลบเลี่ยงอีก เอียงหัวเล็กน้อยคล้ายกับบิดาเข้มงวดพบพานธิดาทั้งซุกซนทั้งน่ารัก สุดท้ายกลับอับจนปัญญา
“พี่อินทรี พวกเราไปด้วยกันเถอะ ข้าพเจ้าจะเลี้ยงอาหารท่าน ท่านดื่มสุราหรือไม่”
2 คน 1 อินทรีรุดไปยังสนามประลองยุทธ์ ก๊วยเซียงชักนำปีศาจหัวโตและอินทรีวิเศษถึงข้างเวที เลือกพื้นที่ว่างแห่งหนึ่งทรุดลง
ศิษย์พรรคกระยาจกต่างเข้ามาต้อนรับขับสู้
จากการเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิดของอึ้งย้งมายังสนามประลองยุทธ์ เพียงแต่ฟังจากปากของปีศาจหัวโต ทุกอย่างล้วนเป็นเอี้ยก่วยจัดวางเอาไว้ทั้งสิ้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งของขวัญชิ้นที่ 3
ในความครุ่นคิดของอึ้งย้ง “เอี้ยก่วยประกาศว่าจะมายังสนามประลองยุทธ์ ก่อนหน้านี้เตรียมการอย่างรอบคอบ รอสักครู่คงต้องอาละวาดเป็นการใหญ่”
เป็นเช่นนั้นจริงละหรือ