เมื่อวานนี้ (12 ธันวาคม 2561) น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล ในฐานะรองโฆษกพรรคไทยรักษาชาติ กล่าวถึงกรณีที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกคำสั่งคสช.โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 44 ยกเลิกให้ข้าราชการบางตำแหน่งไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินว่า สืบเนื่องจากวานนี้ที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ออกคำสั่ง คสช. ที่ 21/2561 ใช้มาตรา 44 ยกเลิกให้ข้าราชการบางตำแหน่งไม่ต้องยื่นและเปิดเผยบัญชีทรัพย์สิน-หนี้สิน โดยแก้ไขคำนิยามของคำว่า ผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง ตามมาตรา 4 ของพ.ร.บ.ปปช. เดิม และกำหนดคำนิยามขึ้นมาใหม่ ซึ่งผู้ที่ได้รับประโยชน์จากการออกคำสั่งยกเลิกนี้ คือบรรดานายกสภาและกรรมการสภามหาวิทยาลัย บอร์ดกองทุนต่างๆ และกรรมการยุทธศาสตร์ชาติทั้งหลาย จากที่ก่อนหน้านี้ บุคคลเหล่านี้ถูกกำหนดให้ต้องแสดงบัญชีทรัพย์สิน-หนี้สินด้วย ส่งผลให้ได้แห่กันลาออกจากตำแหน่งเพราะอาจจะหวาดกลัวต่อการแจกแจงบัญชีของตนเอง จนทำให้การบริหารงานในแต่ละองค์กรมีปัญหา

“ก่อนหน้านี้ พลเอกประยุทธ์ฯ ได้ยืนยันต่อสื่อมวลชนว่า จะยังไม่ใช้อำนาจของตนตามมาตรา 44 เพื่อแก้ปัญหาเรื่องการยื่นบัญชีทรัพย์สิน-หนี้สิน แต่จะขอให้ปปช. นำเรื่องนี้ไปทบทวนดูก่อนว่าจะทำอย่างไรเพื่อแก้ปัญหาได้ ไม่น่าเชื่อว่าในเวลาไม่ถึง 10 วัน ท่านสามารถหาทางออกว่าจะทำอย่างไรไม่ให้คนแห่กันลาออกได้ ด้วยการกลับคำพูด และออกมาตรา 44 มาเพื่อแก้ไขคำนิยามและตัดบางตำแหน่งออกให้ไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน-หนี้สิน ทั้งที่จริงๆ แล้ว บรรดาบุคคลที่รีบชิงลาออกก่อน คือบุคคลที่ทางปปช. จะต้องรีบตรวจสอบในข้อพิรุธว่าเหตุใดจึงรีบลาออกจากตำแหน่งไม่ยอมแสดงความบริสุทธิ์โดยการแสดงบัญชีทรัพย์สิน-หนี้สินของตน เพราะปปช.เป็นองค์กรที่ตั้งขึ้นมาเพื่อปราบปรามคอรัปชั่น และคสช.ก็โฆษณาตัวเองมาตลอดว่าจะเดินหน้าปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่น แต่กลับแก้ปัญหาด้วยวิธีนี้ เสมือนเป็นการรักษาผลประโยชน์ของพวกพ้องมากกว่าผลประโยชน์ของประเทศชาติ ซึ่งบุคคลท่ีได้รับการยกเว้นในการยื่นบัญชีทรัพย์สินส่วนใหญ่เป็นบุคคลท่ีใกล้กับ รัฐบาล คสช. เกือบทั้งสิ้น” น.ส.ขัตติยา กล่าว