‘อนาคตใหม่’ ชี้วัฒนธรรมการศึกษาต้องเปลี่ยน ต้องสร้างบทบาทครู-นักเรียนบนความเท่าเทียม

เมื่อวานนี้ (10 ธันวาคม 2561 น.ส.กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ร่วมกิจกรรม “70 ปี UDHR เปิดอนาคตที่ยิ่งใหญ่ ด้วยหนังสือเล่มเล็ก” จัดโดย แอมเนสตี้ ประเทศไทย เนื่องในโอกาสครบรอบ 70 ปีของการรับรองปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (The Universal Declaration of Human Rights) ที่ประเทศไทยเป็นหนึ่งในสี่สิบแปดประเทศแรกที่ลงคะแนนเสียงร่วมรับรองปฏิญญาฉบับนี้ โดยร่วมเสวนาในหัวข้อ “70 ปี UDHR กับการสิทธิมนุษยชนศึกษาในไทย”

น.ส.กุลธิดา กล่าวถึงสิทธิมนุษยชนการศึกษาในประเทศไทยว่า สังคมไทยได้สร้างให้ห้องเรียนและครูผู้สอนเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่แตะต้องไม่ได้ ทำให้เด็กไม่กล้าคิด ไม่กล้าพูด ซึ่งความสัมพันธ์ของครูกับนักเรียนตั้งอยู่บนความไม่เท่าเทียมมาโดยตลอด ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว ครูมีหน้าที่อำนวยการหรือกำกับการแสดง ส่วนนักเรียนคือผู้แสดง นักเรียนควรมีสิทธิ์พูดมากกว่าครู ครูควรทำหน้าที่เป็นผู้ฟังและชี้แนะมากกว่าการออกคำสั่ง หรือชี้นำ

“การเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมเดิมๆ นี้ต้องเริ่มต้นจากทุกภาคส่วนในสังคม ต้องร่วมกันตั้งคำถามว่า ครูควรมีลักษณะอย่างไร เริ่มต้นตั้งแต่การคัดเลือกเข้าศึกษาในวิชาชีพครู ส่วนการเปลี่ยนแปลงครูที่อยู่ในระบบแล้ว ควรมีการสร้างเครือข่ายเพื่อฝึกให้เป็นครูรุ่นใหม่ ที่มองว่านักเรียนกับครูคือคนเหมือนกัน ครูทำหน้าที่สอนคน สื่อสารกับคนไม่ใช่สอนหนังสือ มองเห็นคุณค่าของนักเรียน ให้ความสำคัญกับการแลกเปลี่ยนหาทางออกร่วมกันระหว่างครูกับนักเรียน ไม่ใช่การออกคำสั่ง ซึ่งต้องเริ่มปฏิบัติสิ่งเหล่านี้ให้เป็นเป็นโรคติดต่อจนกลายเป็นเรื่องปกติในสังคม ทั้งนี้ คาดหวังว่าหลักสิทธิมนุษยชนจะถูกนำไปปฏิบัติกับทุกระดับในสังคม ไม่ใช่เพียงหลักสูตรให้ท่องจำ” น.ส.กุลธิดา กล่าว