นาวาอากาศตรีศิธา ทิวารี หวังประชาชนเข้าใจ คนเขียนกติกาสุดเอาเปรียบ แสร้งทำเป็นคนกลาง

“ผู้พันปุ่น” อัด “ประยุทธ์” คนเดียวมีเสียงมากกว่าชาวบ้าน 17.5 ล้านคน จวก 250 ส.ว.ปล้นอำนาจเลือกนายกฯ ไปให้ “บิ๊กตู่” ด้าน “โภคิน” จวก แบบนี้ไม่เรียกเอาเปรียบก็ไม่รู้จะใช้คำว่าอะไร

เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม นาวาอากาศตรีศิธา ทิวารี ผู้ประสานคณะกรรมการยุทธศาสตร์การเลือตั้งพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ที่เรากำลังพูดกันว่าโกงเลือกตั้ง เช่น เรื่องแบ่งเขต แต่มีเรื่องหนึ่งที่คนยังพูดกันไม่มาก คือเรื่อง 250 ส.ว.ที่สามารถเข้ามาเลือกนายกฯ ได้ ทั้งนี้ บัตรเลือกตั้ง 1 ใบให้สิทธิประชาชนเลือก ส.ส. เลือกนโยบาย และเลือกนายกฯ แต่คนไทยกำลังถูกตัดสิทธิเหลือแค่การเลือก ส.ส.ในเขตของคุณเพียงอย่างเดียว และ ส.ว.1 คนเท่ากับ ส.ส.1 คน ซึ่งคนไทยได้สิทธิเลือก ส.ส.500 คน หากการเลือกตั้งครั้งนี้มีประชาชนออกมาใช้สิทธิ 35 ล้านคน เป็นบัตรดี 35 ล้านใบ ซึ่ง ส.ส.พึงมีในรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่า 7 หมื่นคะแนนเลือก ส.ส.ได้ 1 คน เท่ากับว่าประชาชนหนึ่งคนมีน้ำหนักในการเลือกนายกฯ ด้วยสัดส่วน 1 ส่วน 7 หมื่นต่อ ส.ส.1 คน ขณะที่ ส.ว.ได้มาด้วย 3 วิธีก็เลือกโดย คสช.ซึ่งก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. เท่ากับว่า พล.อ.ประยุทธ์เพียงคนเดียวสามารถเลือก ส.ว.ได้ถึง 250 คน เท่ากับว่าหนึ่งเสียงของประยุทธ์มีคะแนนเสียงเท่ากับประชาชนประมาณ 17.5 ล้านคน

นาวาอากาศตรีศิธา กล่าวอีกว่า การเลือกตั้งครั้งหน้าจะแบ่งเป็นฝ่ายที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ และฝ่ายที่จะเอาประชาธิปไตยแบบเต็มๆ เกิดคนไทยเลือกฝ่ายประชาธิปไตยแล้วได้ ส.ส.เกิน 250 คน เกินครึ่งหนึ่งของสภาฯ แต่ก็ยังแพ้ ส.ว.250 คนรวมกับคะแนนของพรรคฝ่ายสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์อีก 126 คน เท่ากับว่า ส.ว.ทั้งหมดกำลังมีความเห็นขัดแย้งกับประชาชน เป็นการปล้นอำนาจประชาชนในการเลือกนายกฯ ไปให้ พล.อ.ประยุทธ์ คนเขียนกฎหมายก็เป็นคนที่ คสช.ตั้งขึ้นมา ทำตัวเหมือนกรรมการกลางแต่กลายเป็นแคนดิเดตนายกฯ เสียเอง ที่บอกว่านักชกทั้งสองฝ่ายถ้าไม่มาฟังกติกาก็อย่าชกแล้วกันนั้น จริงๆ แล้วแชมป์ที่มีคะแนนตุนอยู่ 250 คะแนนคือ พล.อ.ประยุทธ์ซึ่งเป็นคนกำหนดกติกา แล้วเป็นคู่ชกเอง ทั้งนี้ พอใกล้เลือกตั้งเชื่อว่าประชาชนจะเข้าใจมากขึ้น ว่ามีการเขียนกติกาเอาเปรียบกันขนาดนี้เลยหรือ แล้วจะเป็นประชาธิปไตยได้อย่างไร อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ใช่การทุจริตเชิงนโยบาย แต่เป็นการทุจริตที่แฝงอยู่ในรัฐธรรมนูญ จึงเป็นที่มาของคำว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ดีไซน์มาเพื่อพวกเรา

ด้านนายโภคิน พลกุล แกนนำพรรคพท. กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์หนึ่งคน มีคนโหวตเลือกนายกฯ ให้แล้ว 250 คนที่ พล.อ.ประยุทธ์ตั้ง คิดเป็น 33.33% ประเด็นต่อมาคือคน 35 ล้านคน มีสิทธิเลือก ส.ส.ได้ 350 คนคิดเป็น 46% ที่จะตั้งนายกฯ เท่ากับว่า พล.อ.ประยุทธ์มี 33.33% ขณะที่ประชาชน 35 ล้านคนมีเสียง 46% ในการตั้งนายกฯ อย่างนี้ไม่ต้องเรียกว่าเอาเปรียบ ไม่รู้ว่าจะใช้คำว่าอะไร

มติชนออนไลน์