ช่อง 3 แจง ข่าวเลิกจ้างพนง.ล๊อตใหญ่ไม่จริง! ชี้ปรับอัตราให้เข้ากับสภาพเศรษฐกิจ

วันที่ 3 ธันวาคม 2561 จากกระแสข่าวที่ระบุว่า สถานทีโทรทัศน์ช่องใหญ่แห่งหนึ่ง ซึ่งต่อมาระบุว่าเป็นสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 จะมีการเลิกจ้างพนักงานฝ่ายข่าวมากถึง 80 คน ถูกเผยแพร่บนโลกโซเชียลเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา และสร้างความกังวลให้กับเพื่อนร่วมอาชีพสื่อมวลชนกับทิศทางของสื่อหลายแห่งที่อยู่ในช่วงขาลงนั้น ล่าสุดสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ได้แถลงล่าสุดต่อกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า

ตามที่มีการรายงานข่าวเกี่ยวกับการเลิกจ้างพนักงาน ของไทยทีวีสีช่อง 3 มาก่อนหน้านี้ ไทยทีวีสีช่อง 3 ขอเรียนแจ้งข้อเท็จจริง เนื่องจากกระแสข่าวดังกล่าวมีความคลาดเคลื่อนในเนื้อหาที่นำเสนอ ดังนี้

1. ในช่วงที่ผ่านมาไทยทีวีสีช่อง 3 ได้ดำเนินการปรับโครงสร้างองค์กรให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยพิจารณาถึงจำนวนพนักงานและการตอบแทนพนักงานหลังเกษียณอายุ เนื่องจากไทยทีวีสีช่อง 3 มีจำนวนพนักงานจำนวนหนึ่งที่อายุเกินกว่า 60 ปี ดังนั้นโครงการเกษียณอายุ จึงถือเป็นทางเลือกให้กับพนักงานกลุ่มนี้ ซึ่งจำนวนผลตอบแทนที่มอบให้ในโครงการเกษียณก็สูงกว่าสิ่งที่กฏหมายแรงงานได้กำหนดไว้ พร้อมทั้งยังมีการมอบประกันสุขภาพให้พนักงานที่เข้าโครงการต่อไป เพื่อให้พนักงานยังสามารถมีประกันสุขภาพดูแลตนเองต่อไปแม้จะเกษียณอายุไปแล้ว

2. กรณีที่พนักงานรับเงินตามโครงสร้างการเกษียณแล้ว แต่บริษัทยังเล็งเห็นศักยภาพว่ายังสามารถปฏิบัติภารกิจในตำแหน่งงานนั้นได้ต่อไปอย่างเต็มที่ พนักงานผู้นั้นก็จะได้รับการว่าจ้างต่อไปตามความเหมาะสม

3. ตามที่มีกระแสข่าวออกมาว่า ทางไทยทีวีสีช่อง 3 มีการปลดพนักงานกว่า 80 คนนั้นคลาดเคลื่อนจากความเป็นความจริง เพราะขณะนี้บริษัทยังอยู่ในการพิจารณาอัตรากำลังที่เหมาะสมกับสภาวะเศรษฐกิจของทีวีดิจิตอล ซึ่งยังไม่ได้มีเป้าหมายหรือตัวเลขที่ชัดเจนแต่อย่างใด

4. อีกทั้งกรณีที่มีการเสนอข่าวว่า มีการปลดพนักงานอายุระหว่าง 40-55 ปีนั้นก็ไม่เป็นความจริง เพราะที่จริงแล้วพนักงานในวัยนี้ถือเป็นกำลังสำคัญต่อการผลิตผลงานคุณภาพของไทยทีวีสีช่อง 3

ไทยทีวีสีช่อง 3 ตระหนักถึงความสำคัญของบุคลากรอยู่เสมอ เพราะพวกเขาเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรและผลิตผลงานคุณภาพเพื่อผู้ชม สำหรับโครงการนี้ก็เป็นสิ่งที่เราทำเพื่อปรับองค์กรให้เข้ากับสภาวะตลาด และเพื่อให้พนักงานได้มีโอกาสเลือกแผนในการดำเนินชีวิตของเขาต่อไป

จึงใคร่ขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริงให้กับท่านสื่อมวลชนตามนี้

ขอขอบพระคุณ

ไทยทีวีสีช่อง 3