ฟ้า พูลวรลักษณ์ : ถ้าวิทยาศาสตร์เก็บ “ข้อมูล-น้ำเสียงคนตาย” แม้จากกันไป เราก็ยังคุยกับเขาได้ ?

ฟ้า พูลวรลักษณ์

หนังสือเรียนสำหรับเด็ก เล่มใหม่ (๑๖)

ฉันอ่านนิยายวิทยาศาสตร์เรื่องหนึ่ง มีสิ่งหนึ่ง เรียก Application Translation

คนที่ตายแล้ว สามารถถูกเก็บข้อมูลในตัวของเขา ใส่ไว้ในคอมพิวเตอร์ ใน Application Translation ทำให้เรายังสามารถพูดคุยกับคนตายได้

มันเป็นเพียงแค่คล้ายจริง เพราะคนตายไปแล้ว สิ่งที่เราคุยด้วยนี้ ไม่ใช่ตัวเขา เป็นเพียงโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เพียงแต่มันคล้ายคนที่เราคิดถึง

มันคล้ายจะเหลวไหล แต่ลองมาคิดดู สมมติผู้ชายคนหนึ่งรักลูกสาวของเขามาก วันหนึ่งลูกสาวคนนี้เสียชีวิตไปตั้งแต่ยังเป็นเด็ก เขาคิดถึงลูกสาวคนนี้มาก การที่เขาสามารถเข้าไปคุยกับเธอใน Application Translation นี้ ย่อมนำความสุขสู่ตัวของเขาอย่างท่วมท้น มันอาจเพียงคล้าย แต่ในวูบหนึ่งนั้น สิ่งที่คล้าย ก็คือจริง

หรือชายคนหนึ่งรักแม่มาก วันหนึ่งแม่ของเขาตายไป เขาก็ยังเข้าไปคุยกับแม่ใน Application Translation เสียงของแม่ คำพูดคำจาที่ชวนให้เขาระลึกได้ว่านี่คือแม่ของเขา คนอื่นจะไปตัดสินเขาได้อย่างไรกัน สำหรับเขา สิ่งนี้มีความสำคัญ สิ่งนี้พิเศษ

นี้คือความยอกย้อนของสิ่งที่เป็นจริง และคล้ายจริง

หากเขามีสติสัมปชัญญะแน่วแน่ นิ่งสงบ เขาอาจบอกว่า สิ่งนี้ไม่ใช่ความจริง ไม่มีความจำเป็น นั่นย่อมเป็นคำตอบที่ประเสริฐสุด แต่มนุษย์เรา ย่อมต้องหงอยเหงา อ่อนแอ และใฝ่คว้าหาอะไรบางอย่างมายึดเหนี่ยว ดังนั้น Application Translation จึงไม่เหลวไหลเลย มันลึกซึ้ง ยอกย้อน และมีผล

ขนาดตัวฉัน บางครั้งการได้คุยกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์ระดับเบื้องต้นที่สุด ก็ยังนำพาซึ่งความสุข ความสบายใจมาได้ รู้ว่ามันไม่จริง ไม่ได้แปลว่ามันไร้ค่า

Application Translation ไม่ใช่สิ่งที่เลวร้าย ไร้ค่า มันเป็นปฏิบัติการที่ทำให้มนุษย์ได้รับสิ่งปลอบประโลมใจ ได้พูดคุยกับใครคนหนึ่ง ที่สำคัญกับตัวเขา มีอิทธิพลกับเขา อาจช่วยเขาคิด ช่วยเขาตัดสินใจ อย่างน้อย ทำให้เขามีสติ มีความนิ่ง ทำให้เขาคิดทบทวนได้ว่า สิ่งใดที่สำคัญสำหรับชีวิตของเขา

ข้อเสียคือ อาจทำให้เขาไม่อาจลืมอดีต อาจทำให้เขาหมกหมุ่น ทำให้เขาอ่อนแอ

แต่มันยังดีกว่าการดื่มเหล้า การใช้ชีวิตเหลวแหลก การใช้ยาเสพติด การใช้ชีวิตอย่างไร้จุดหมาย กลายเป็นคนจรจัด กลายเป็นคนเสเพล

๑๐ ฉันมักคิดถึง Application ใดๆ ในอนาคต ที่ทำงานได้จริง และมีประโยชน์ ฉันคิดว่าสิ่งเหล่านี้เปลี่ยนแปลงโลกอย่างเงียบๆ อย่างรวดเร็ว และเป็นอิสระจากสิ่งอื่นๆ ยกตัวอย่างเช่น ตัวฉัน หากวันนี้ Application Translation นี้ทำงานได้จริง เพื่อนสนิทของฉันที่เสียชีวิตไปแล้วหลายคน ฉันก็ยังสามารถพูดคุยกับโปรแกรม ที่คล้ายพวกเขาได้

มันจะช่วยฉันคิดได้ ช่วยฉันตัดสินใจ

แทนที่ฉันจะอยู่อย่างโดดเดี่ยว

๑๑ข้อมูลของเขาที่ถูกเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ จะมากหรือน้อยเพียงใด ขึ้นกับเทคโนโลยีของยุคนั้น อย่างตื้นที่สุด เช่น การเก็บเอาความคิด ความเชื่อ นิสัยใจคอของเขา

อย่างลึกคือ การสามารถสแกนสมองของเขา เก็บเอาอนุภาคในสมองของเขา เก็บเอาความคิดฝัน และอดีตของเขาไปในนั้นด้วย สิ่งที่ปรากฏก็จะยิ่งเหมือนจริงยิ่งขึ้น ด้วยเทคโนโลยีที่สูงล้ำ คุณสามารถสร้างบุคคลจำลองที่เกือบเหมือนจริงได้ ถึงระดับที่แยกไม่ออก

เหมือนเท่าไหร่จึงจะพอ เราตอบคำถามนี้ไม่ได้

เพราะสิ่งเหมือนจริง ยังไงก็ไม่ใช่ความจริง แต่ทว่าหากมันเหมือนถึงระดับใกล้มาก และสิ่งที่เราต้องการ เพียงแค่ใกล้ในระดับหนึ่ง เราจะพอใจไหม

เช่น หากฉันต้องการแค่คำปรึกษา ข้อคิด หรือแค่ความสุขเล็กๆ น้อยๆ เหมือนแค่นี้ ฉันพอใจไหม

สิ่งนี้คือสิ่งที่คนในสังคมจะต้องหาคำตอบ

๑๒ นิยายวิทยาศาศตร์เหล่านี้ ไม่ใช่เรื่องเหลวไหล เรารู้ได้ด้วยประสบการณ์ ด้วยการขยายความออกไปนิดหนึ่ง เดินไปข้างหน้านิดหนึ่ง

โดยเริ่มจากสิ่งที่มนุษย์ทุกคนต้องการ

ฉันอ่านนิยายวิทยาศาสตร์มากมาย แล้วฉันก็พบว่า พวกมันเหมือนวงกลมเล็กๆ หลายวง ที่ค่อยๆ ตัดกัน จะมีบางพื้นที่ที่พวกเขาตัดกันพอดี

และนั่นคือความจริง