The White Album กลับมาติดชาร์ต ฉลองครบรอบ 50 ปี

เวลาไหลเรื่อยผ่านไป ปีนี้ 2018 อัลบั้ม The Beatles หรือที่เรียกกันว่า The White Album มีอายุครบ 50 ปีแล้ว

ขณะที่สมาชิกวงเหลืออยู่แค่สอง คือ พอล แม็กคาร์ตนีย์ กับริงโก้ สตาร์ ส่วนจอห์น เลนนอน และจอร์จ แฮร์ริสัน ลาลับไปหลายปีแล้ว

ค่ายเพลงนำเอาอัลบั้มนี้มาออกใหม่เพื่อฉลองวาระอายุครบครึ่งร้อย ออกวางจำหน่ายเมื่อ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทำให้ผลงานชุดนี้ขึ้นสู่อันดับ 6 ในชาร์ตอัลบั้มของบิลบอร์ด ด้วยยอดจำหน่าย 6.3 หมื่นชุด นับถึงวันที่ 15 พฤศจิกายน

อัลบั้มนี้ออกครั้งแรกเมื่อปี 1968 และเข้าอันดับ 1 ในชาร์ต รวมแล้ว 9 สัปดาห์ด้วยกัน เป็น 1 ใน 19 อัลบั้มของเดอะบีตเทิลส์ ที่เข้าอันดับ 1 ในชาร์ต

แต่ไวต์อัลบั้ม ไม่ใช่ผลงานแรกของบีตเทิลส์ที่ได้กลับมาเข้าท็อปเท็นในชาร์ตหลังจากเวลาผ่านไป

Sgt. Pepper”s Lonely Hearts Club Band เป็นผลงานอีกชุดที่กลับมาติดท็อปเท็นในวาระฉลอง 50 ปี เมื่อปี 2017 จากอัลบั้มที่ติดอันดับ 1 ติดต่อกัน 15 สัปดาห์ ในปี 1967 ที่ออกวางจำหน่าย กลับมาเข้าอันดับ 3

สำหรับไวต์อัลบั้ม เป็นผลงานชุดที่ 9 ของบีตเทิลส์ ออกเมื่อ 22 พฤศจิกายน 1968 ด้วยปกสีขาว ไม่มีภาพหรือลวดลายใดๆ นอกจากชื่อของวง เพื่อให้แตกต่างแบบตรงข้ามกับอาร์ตเวิร์กหวือหวาและสีสันสดใสของชุดก่อนหน้านั้นคือ Sgt. Pepper”s Lonely Hearts Club Band

สไตล์ของดนตรีในชุดนี้มีตั้งแต่ บริติชบลูส์, สกา อิทธิพลจากชัค เบอร์รี่ ไปจนถึงคาร์ล ไฮนซ์ สต็อกเฮาเซน (Karlheinz Stockhausen) นักแต่งเพลงและโปรดิวเซอร์หัวก้าวหน้า ที่ส่งอิทธิพลต่อสี่เต่าทองมาตั้งแต่ Sgt. Pepper แล้ว

เพลงในชุดนี้เขียนเนื้อและแต่งขึ้นในห้วงเวลาเดือนมีนาคม-เมษายน. 1968 ระหว่างที่ทางวงกำลังตื่นตัวกับปรัชญาและหลักศาสนาจากอินเดีย และไปเข้าคอร์สวิปัสสนาที่ Rishikesh ประเทศอินเดีย ก่อนกลับมาที่สตูดิโอของอีเอ็มไอที่แอบบี้โรดในลอนดอน ในตอนปลายเดือนพฤษภาคมเพื่อบันทึกเสียง ซึ่งไปเสร็จในกลางเดือนตุลาคม

ในระยะนี้เองที่อุณหภูมิในวงร้อนระอุ มีข้อถกเถียงทั้งแนวคิดในการสร้างสรรค์ การที่จอห์น เลนนอน นำโยโกะ โอโนะ เข้ามา ฝืนกฎของวง ที่จะไม่ให้ภรรยา คู่รักหรือเพื่อนสาวเข้ามาในระหว่างการบันทึกเสียง

ปัญหาต่างๆ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทีมงานเบื่อหน่าย ถอนตัวออกไป ไม่ว่าจะเป็น จอร์จ มาร์ติน โปรดิวเซอร์ ริงโก้ สตาร์ เอง ก็ออกจากวงในช่วงสั้นๆ ในเดือนสิงหาคม

ทั้งหมดนี้สะสมและนำไปสู่การแตกวงในปี 1970

ท่ามกลางปัญหาสารพัด และออกมาขายในเวลา 18 เดือนหลังความสำเร็จของ Sgt. Pepper”s Lonely Hearts Club Band ทำให้ความคาดหวังสูง

แต่ผลงานชุดนี้ไม่ทำให้ผิดหวัง เข้าอันดับ 1 ในชาร์ตอังกฤษตอนปลายปี 1968 และอยู่ในอันดับนี้ 7 สัปดาห์ติดต่อกัน ตกลงไปอันดับที่สองในห้วงปีใหม่ 1969 และกลับมาอันดับหนึ่งใหม่ เป็นสัปดาห์ที่แปดและเป็นสัปดาห์สุดท้าย แต่ก็ยังค้างอยู่ในอันดับบนๆ ของตาราง

แม้กระทั่งผลงานชุดต่อมาของเดอะบีตเทิลส์ คือ Yellow Submarine ออกวางจำหน่าย และเข้าอันดับ 3 ในชาร์ต

รวมแล้ว อัลบั้มนี้อยู่ในชาร์ตอังกฤษ 22 สัปดาห์ ห่างจาก 149 สัปดาห์ของ Sgt. Pepper อยู่มาก แต่ก็มีความยิ่งใหญ่ในตัวเอง ในสหรัฐ แคปปิตอลเร็กคอร์ดส์ ขายผลงานชุดนี้ให้กับร้านมากกว่า 3.3 ล้านชุด ในสี่วันแรกที่ออกจำหน่าย ประเดิมด้วยอันดับ 11 ในชาร์ต ก่อนโดดขึ้นอันดับ 2 และ 1 ในสัปดาห์ที่สาม ยึดหัวชาร์ตเป็นเวลา 9 สัปดาห์

รวมแล้วอยู่ในชาร์ตอัลบั้มของสหรัฐอเมริกาหรือบิลบอร์ด 155 สัปดาห์ด้วยกัน ขายไปมากกว่า 9.5 ล้านชุด ในสหรัฐ

สมาคมผู้ประกอบกิจการเพลงของสหรัฐอเมริกาหรือ The Recording Industry Association of America. – RIAA รับรองไวต์อัลบั้มเป็นผลงานขายได้มากที่สุดด้วยจำนวน 19 แพตทินัม

ไวต์อัลบั้มเป็นแผ่นคู่ กลายเป็นบทเพลงอมตะไปแล้วทั้งสิ้น อาทิ Back in the U.S.S.R., Ob-La-Di, Ob-La-Da, The Continuing Story of Bungalow Bill ผลงานเลนนอนกับโยโกะ โดยโยโกะร้องแบ๊กอัพด้วย, While My Guitar Gently Weeps ผลงานจอร์จ แฮร์ริสัน ที่เอริก แคลปตัน รับเชิญมาเล่นกีตาร์

Happiness Is a Warm Gun, Blackbird, Don”t Pass Me By ผลงานของริงโก้ สตาร์, I Will, Julia, Yer Blues, Mother Nature”s Son, Helter Skelter, Honey Pie ฯลฯ

การกลับมาของ The White Album ยืนยันว่าดนตรีดีๆ ไม่ตายง่ายๆ และกลับมาให้ความบันเทิงแก่คนรุ่นหลังๆ ได้เสมอๆ