ผ่านมา 1 เดือนกับ ทบ. ยุครบพิเศษ ‘บิ๊กเจี๊ยบ’พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. ที่ ‘บิ๊กตู่’พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เลือกมากับมือ แพ็คคู่พร้อม ‘บิ๊กแดง’พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ แม่ทัพภาคที่1

แต่ความแพ็คคู่ ใช่ว่าจะเห็นพ้องไปหมด ‘บิ๊กเจี๊ยบ’ลงตรวจพื้นที่สนามหลวง ปรับแผนการทำงาน ย้ำเป็นการทำงานครั้งประวัติศาสตร์ ทหารมาตั้งกองอำนวยการกันทำงาน ขอให้บันทึกไว้ระบบการทำงานแบบนี้ไว้

และอยากให้มีรองแม่ทัพภาคที่ ทั้ง 3 คน ‘บิ๊กโอ’พล.ต.พงษ์สวัสดิ์ พรรณจิตต์ ‘บิ๊กหนุ่ย’พล.ต.ธรรมนูญ วิถี ‘บิ๊กติ่ง’พล.ต.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ หมุนเวียนกันเข้ามาทำงาน เหมือนกับเรียนรู้งานทั้งระบบ โดยไม่แบ่งเป็นด้าน

หลัง’บิ๊กแดง’แบ่งเป็น 3 ด้าน ให้’บิ๊กโอ’ดูภาพรวม ‘บิ๊กหนุ่ย’ดูแลความปลอดภัย-การจราจร ‘บิ๊กติ่ง’ด้านการอำนวยความสะดวกประชาชน ก่อนหน้านี้

พร้อมให้รองเสธ.ทั้ง 5 สาย ได้ร่วมประชุมกองอำนวยการร่วมฯและชี้แจงที่ประชุม พร้อมตั้งโจทย์ปัญหาที่ว่าจะเกิดขึ้น หาแนวทางแก้ปัญหาในที่ประชุม เพื่อไม่ให้ตนหรือระดับบริหารเป็น’ฮีโร่’เท่านั้น เพราะงานนี้คือประวัติศาสตร์’ทัพบก’

แต่ที่สร้างความเซอร์ไพร์ คือการลงพื้นที่อย่างเงียบๆ ทำให้ได้ใจ “คนทำงาน” ได้ไม่น้อย หลัง’บิ๊กเจี๊ยบ’สวมชุดพลเรือน พร้อมทหารคนสนิท ลงพื้นที่สนามหลวงไม่บอกใคร

ยิ่งกว่า ว.5 เพราะแม้แต่ระดับ’บิ๊กแดง’ยังทราบล่วงหน้าไม่นาน และในกองอำนวยการ่วมฯ ก็ไม่ทราบกำหนดการนี้ หลายซุ้มที่เดินตรวจไม่รู้ว่าเป็น ผบ.ทบ. ด้วยซ้ำ

แต่ภาพถ่ายก็ปรากฏออกมา ที่ซุ้มกรมพลาธิการ ทบ. ที่’บิ๊กเจี๊ยบ’เดินมาให้กำลังใจและขอบคุณกำลังพลที่มาช่วยงาน เพราะกำลังพลจำ ‘บิ๊กเจี๊ยบ’ได้

“มาคณะใหญ่จะกระทบเวลาเจ้าหน้าที่ ผมจะไม่มาคณะใหญ่นัก มาแค่จำเป็น ผมมาที่นี่หลายครั้ง ทางการบ้าง ไม่เป็นทางการบ้าง หรือมาคนเดียว” พล.อ.เฉลิมชัย เผย

ที่สำคัญสิ่งที่’บิ๊กเจี๊ยบ’ ย้ำเสมอ “การยืนระยะ” เป็นคีย์เวิร์ดของงานที่สนามหลวงโดยเบื้องต้น กอร.รส. จะทำงาน 100 วัน การยืนระยะตรงนี้คือการจัดการสิ่งของบริจาค-สนับสนุนต่างๆให้ถึงมือประชาชนต่อเนื่อง และคงมาตรฐานงานได้

อีกงานสำคัญ คือ การปกป้องสถาบัน โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวผ่านโลกไซเบอร์ ภายหลังการเปิดศูนย์ไซเบอร์ ทบ. ก็มีภารกิจในการป้องกันการเผยแพร่ข้อมูลหมิ่นสถาบัน ที่เข้าข่ายประมวลกฎหมายอาญา ม.112 ทั้งในและนอกประเทศ

ผ่านปฏิบัติการข่าว (IO) ทั้งการนำ “ข้อมูลขาว กลบ ข้อมูลดำ”เป็นการนำข้อมูลที่ถูกต้องเผยแพร่ชี้แจง การมอนิเตอร์เว็ปไซด์ เฟซบุ๊ก ยูทูป ไลน์ ที่ใช้เผยแพร่ข้อมูลหมิ่น มีทั้งการส่งสปายนิรนามไปติดตามเพจต่างๆ เพื่อจับตาความเคลื่อนไหว พร้อมมีมาตรการ เพิ่ม “Dislike” ลด “Like” ลดยอด”View” กับสื่อเผยแพร่ข้อความหมิ่น ให้อ่อนกำลังลง

อีกทั้งต้องประสานกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กสทช. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงยุติธรรม ในการดำเนินการทางเทคนิค หรือ บล็อค นั่นเอง พร้อมดำเนินการติดตามจับ ดำเนินคดีทางกฎหมาย

ส่วนกลุ่มที่เคลื่อนไหวอยู่ต่างประเทศก็ประสานผ่านสถานเอกอัครทูตต่างชาติในไทยหรือทูตไทยที่พำนักต่างประเทศ เป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงยุติธรรม

อีกทั้งการพูดคุยของรัฐบาลกับผู้บริหาร”ไลน์ – ยูทูป – กูเกิล” ที่พร้อมให้ความร่วมมือไทยในการติดตามข้อความหมิ่น ม.112 แต่ให้ทางการไทยต้องทำเอกสารชี้แจงเป็นกรณีๆไปเพื่อบล็อค และเตรียมคุยกับ “เฟซบุ๊ก” อีกด้วย จะเป็นการช่วยเสริมให้ฝ่ายมอนิเตอร์ทำงานง่ายขึ้น

อีกภารกิจที่ต้องสานต่อคืองาน คสช. ปูทางไปสู่การเลือกตั้ง เบื้องต้นคาดการณ์ไว้ที่ต้นปี61เพื่อให้เสร็จพระราชพิธีต่างๆอันสำคัญของประเทศออกไปก่อน

การเลือก’บิ๊กเจี๊ยบ’ขึ้นเป็นผบ.ทบ. และเกษียณปี61ก็เพื่อสานต่อภารกิจสำคัญของคสช.ให้ถึงเลือกตั้งตามโรดแมปและช่วงเปลี่ยนผ่านอันสำคัญนี้ หากเกษียณปี60งานก็จะไม่ต่อเนื่อง

แต่ก็มีการส่งสัญญาณภายในทบ.มาก่อนหน้านี้ ‘บิ๊กเจี๊ยบ’ จะเป็น ผบ.ทบ. เพียงปีเดียวและย้ายข้ามไปเป็น ผบ.สส. หรือจะเป็นสัญญาใจกับนายกฯ เปิดทางให้ ‘บิ๊กเข้’พล.อ.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ ผู้ช่วยผบ.ทบ. น้องรักนายกฯ ขึ้นเป็นผบ.ทบ.คนต่อไป

การขึ้นมาของ พล.อ.เฉลิมชัย ปรากฏการณ์ รบพิเศษผงาด แต่ก็รายล้อมด้วยบูรพาพยัคฆ์-วงศ์เทวัญ ก็ยากจะขยับตัวเองหรือขยายฐานเครือข่าย’รบพิเศษ’ตามสูตรอำนาจ ที่ต้องทำ

แต่บุคคลิก’บิ๊กเจี๊ยบ’ที่ยึดหลักสายบังคับบัญชา ไม่ก้าวก่ายอำนาจตัดสินใจข้ามลำดับ เห็นได้จากโผผู้พัน ที่ให้แม่ทัพภาคจัดกันเอง

เห็นได้ชัดในตำแหน่ง ผบ.กองพันทหารราบ มทบ.11 โยก ‘ผู้พันต้อย’พ.อ.อนุชา คุณสิงห์ สายตรง’บิ๊กหมู’พล.อ.ธีรชัย นาควานิช อดีตผบ.ทบ. โยกไปเป็น เสธ.ร.2 รอ. ออกกรุง กลับค่ายบูรพาพยัคฆ์ ให้’เสธ.กัง’พ.อ.ณัฎฐพงศ์ อัศวินวงศ์ รองผบ.กรมทหาราบที่111 เป็น ผบ.พัน.ร. มทบ.11 แทน

โดย พ.อ.ณัฎฐพงศ์ เป็นนายทหารสายตรง ‘บิ๊กแดง’พล.ท.อภิรัชต์ ซึ่ง ตำแหน่ง ผบ.พัน.ร. มทบ.11 ส่วนใหญ่จะเป็นคนของ ผบ.ทบ. เป็นหน่วยที่พร้อมสนองภารกิจได้ทันที ทั้งกำลังพลและยุทโธปกรณ์ต่างๆ

อีกทั้งด้วยบุคลิกส่วนตัวที่เป็นคนใจเย็น ลุ่มลึกในการตอบคำถาม ตัดสินใจเฉียบขาด และเป็นคนเรียบง่าย จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะได้ใจคนในกองทัพ

เพราะรอบข้าง’บิ๊กเจี๊ยบ’ล้วนเป็นนายทหารสายบูรพาพยัคฆ์-วงศ์เทวัญ แต่เป็นคนที่นายกฯเลือกมาแล้วกับมือ ก็ต้องนำกองทัพในช่วงเปลี่ยนผ่าน

อีกทั้งเป็นนายทหารสายบ้านสี่เสาเทเวศร์ รบพิเศษรุ่นน้อง ‘บิ๊กแอ๊ด’พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี และได้ตามออกงานกับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ขณะเป็น ปธ.องคมนตรี เช่นกัน

ในห้วงเวลานี้เอง พล.อ.เปรม ในฐานะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ก็ไม่ได้ออกงานใดมา 1 เดือนแล้ว นับจากทำพิธีเปิดโครงการสานใจไทยสู่ใจใต้ เมื่อวันที่12ต.ค.ที่ผ่านมา

ด้านนายธานินทร์ กรัยวิเชียร ปฏิบัติหน้าที่ปธ.องคมนตรี ชั่วคราว ยังคงปฏิบัติหน้าที่นำการประชุมที่ทำเนียบองคมนตรีตามปกติ ไม่ได้มีความเคลื่อนไหวพิเศษอะไรเช่นกัน

ด้วยความสุขุม ลุ่มลึก และเป็นคนประนีประนอม ของ ‘บิ๊กเจี๊ยบ’ สไตล์รบพิเศษ “พลังเงียบ เฉียบขาด” เหมาะกับห้วงสถานการณ์อันสำคัญนี้

สมคำร่ำลือกับที่ ‘บิ๊กตู่’ เลือกมาเอง !!