“มาร์ค” ลั่น ยอมโง่ ขอซื่อตรงไม่สร้างปชป.หลายแบรนด์ ไม่หวั่นถูกโดดเดี่ยว ขอยืนบนความถูกต้อง

“มาร์ค” ลั่น ยอมโง่ ขอซื่อตรงไม่สร้างปชป.หลายแบรนด์ ไม่หวั่นถูกโดดเดี่ยว เพราะความตรงไปตรงมา-ความถูกต้อง สำคัญกว่า พร้อม หนุน คนรุ่นใหม่มีสิทธิ์ทางการเมืองเท่ากัน

เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวถึงการที่พรรคการเมืองบางพรรคตั้งพรรคสำรองไว้ว่า บางพรรคเหมือนกับกังวลเรื่องการถูกยุบพรรค ก็คิดว่าต้องสำรองเอาไว้ แต่ก็มีการวิจารณ์ว่าทำไมจะต้องกลัวถูกยุบพรรค หรืออาจจะมีคนพยายามวิเคราะห์ระบบเลือกตั้งใหม่ว่าทุกคะแนนเสียงจะถูกคำนวณไปเป็นจำนวน ส.ส. การแยกกันแข่งขัน อาจจะเป็นวิธีที่ทำให้ได้คะแนนเสียงมากกว่า แล้วมารวมกันทีหลัง อาจจะมีปัญหาน้อยกว่าถ้าหากได้คะแนนมากไปกองไว้ที่เดียว ได้ ส.ส. เขตมา แต่ส.ส.บัญชีรายชื่อจะไม่ได้ ซึ่งในส่วนของปชป.ตนพูดเสมอว่าไม่เคยมีแนวคิดที่จะเป็นพรรคที่มีพรรคสาขา หรือเป็นพรรคสาขาให้ใคร เราต้องการเห็นการเมืองที่ตรงไปตรงมา ปชป.ก็จะบอกว่าตัวตนของเราเป็นอย่างไร แล้วให้ประชาชนตัดสินใจว่าจะสนับสนุนเราหรือไม่ ไม่ต้องไปหลบ หลอก มีหลายแบรนด์ หลายอะไรต่างๆ ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วเป็นกลุ่มเดียวกัน เราไม่ทำ

เมื่อถามว่า ปชป.ไม่ทำถือเป็นการสวนกระแสเกรงว่าจะโดดเดี่ยวหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่เป็นปัญหา เพราะปชป.คิดว่าความถูกต้อง ตรงไปตรงมาสำคัญกว่า และเราหวังว่าประชาชนจะเห็นคุณค่าตรงนี้ เมื่อถามย้ำว่า อาจจะมีกระแสมาว่า เป็นเพราะเขาไม่อยากถูกโดดเดี่ยว ก็เลยอยากไปร่วมกับพรรคอื่น จึงอาจไปเลือกพรรคอื่นดีกว่า นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้าอยากจะทำการเมืองเพื่อหวังแค่มีอำนาจ แต่ไม่มีความชัดเจนว่าคุณจะเอาอำนาจไปทำอะไร แต่แค่อยากเป็นรัฐบาล คุณแค่อยากมีตำแหน่ง ตนคิดว่าถ้าปชป.เป็นอย่างนี้คงไม่อยู่มาถึงวันนี้ เพราะประชาธิปัตย์เชื่อว่า การจะไปเป็นรัฐบาลต้องสามารถผลักดันแนวคิดอุดมการณ์ของเราได้ ถ้าไปเป็นเพื่อเหตุผลอื่น ก็ไม่ควรจะไปเป็น

“ส่วนการทำหน้าที่ฝ่ายค้านก็ต้องทำได้ แม้ผมจะไม่ได้ต้องการให้ปชป.ไปเป็นฝ่ายค้าน แต่ผมก็ไม่ต้องการให้ปชป.ไปเป็นรัฐบาลโดยละทิ้งอุดมการณ์ หรือโดยไม่สนใจว่าไปเป็นรัฐบาลแล้วทำให้ประชาชนอย่างที่เราพูดไว้ได้จริงหรือไม่ มีคนบอกว่าปชป.ไม่ฉลาด ไม่รู้จักพลิกแพลงเพราะไม่ทำพรรคสาขา เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดทางการเมือง ผมยอมโง่แต่ซื่อตรง ดีกว่าเป็นคนเจ้าเล่ห์ที่ซ่อนกลโกง หมดเวลาสำหรับการเมืองฉ้อฉลแล้วครับ” หัวหน้าปชป. กล่าว

นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่จะเข้ามาเลือกตั้งว่าจะทำให้มาเลือกพรรคเก่าแก่ อย่างปชป.ได้อย่างไร ว่า การเปลี่ยนแปลงของสังคมเกิดขึ้นจากการที่มีคนรุ่นใหม่เข้ามามีส่วนร่วม ก็จะมีมุมมองใหม่ๆ แนวคิดใหม่ๆ ทัศนคติใหม่ๆ เราหวังว่าพลังตรงนี้จะมีส่วนช่วยในเปลี่ยนแปลงการเมืองให้มันดีขึ้น ส่วนเรื่องคนรุ่นใหม่กับพรรคเก่า ตนคิดว่าอย่านับกันที่อายุ ไม่ว่าจะคน หรือจะพรรค แต่เรามาดูดีกว่าว่าคนหรือพรรคคนนั้น หยุดเรียนรู้สิ่งใหม่ๆหรือไม่ ถ้าเอาความใหม่แค่เพียงว่า เพิ่งมา ไม่มีประสบการณ์ แล้วก็รู้ว่าเป็นธรรมชาติของการพูดว่า ของเก่าน่าเบื่อ แต่ไม่ได้มีความคิดใหม่ ไม่ได้มีการพัฒนาก็ไม่ได้มีอะไรใหม่จริง แต่ถ้าเป็นคนเดิม หรือเป็นพรรคเดิม แต่เขาไม่หยุดในการที่จะพัฒนาตนเอง ไม่หยุดที่จะเรียนรู้ ไม่หยุดที่จะแสวงหาสิ่งใหม่ๆ ดึงคนใหม่ๆ เข้ามา ตนมองว่า ก็สามารถที่จะนำเสนอและสร้างสิ่งใหม่ๆ ได้ ซึ่งสมาชิกรุ่นใหม่ในพรรคที่ไม่ได้เป็นทายาทนักการเมือง ตนยืนยันว่าทุกคนมีสิทธิ์ทางการเมืองเท่ากันทุกภาคทุกคน