E-DUANG : อาการ นะจังงัง “คสช.” รวยกระจุก จนกระจาย

ไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มีความภูมิใจเป็นอย่างสูงในตัวเลขจีดีพีที่ทะยานไปยังหลักร้อยละ 4

เท่ากับเป็นรูปธรรมรองรับกับความสำเร็จ

จึงไม่ว่าเสียงจากกระทรวงการคลัง จึงไม่ว่าเสียงจากสภาพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ จะประสานกันยืนยันต่อคำว่า เศรษฐกิจฟื้นแล้ว

แต่พลันที่ประสบเข้ากับบทสรุปในอีกด้านที่ว่า เป็นเส้นทางความสำเร็จในแบบ

“รวยกระจุก จนกระจาย”

ไม่ว่านักการตลาดสำนักฟิลิป คอตเลอร์ ไม่ว่านักการเมืองจากสำนักศศินทร์ล้วนงันชะงัก

เกิดอาการ”นะจังงัง”กันโดยถ้วนหน้า

 

ต้องยอมรับว่าภายในรัฐบาล ภายในคสช. “นักการตลาด”ได้เข้าไปมีบทบาทอย่างสำคัญ

ล้วนระดับ “ดุษฎีบัณฑิต”กันทั้งสิ้น

โดยเฉพาะนับแต่สามารถกดดัน ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ให้พ้นไปจากครม.เมื่อเดือนสิงหาคม 2558

เท่ากับเป็นการก้าวเข้าสู่ยุคแห่ง “ประชารัฐ”

จากสโลแกน “ประชารัฐ” ก็ตามมาด้วยโครงการ”ไทยนิยม”ยั่งยืน อันถือได้ว่าเป็นไม้เด็ดที่จะเสริมความแข็งแกร่งให้กับ”ประ ชารัฐ”

ไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุ วรรณ จึงตื่นเต้นไปกับตัวเลขจีดีพี

โดยเฉพาะเมื่อทะลุเข้าสู่หลักร้อยละ 4

กระนั้น เมื่อบังเกิดบทสรุปว่าเป็นการทะลุด้วยการขาดดุลงบ ประมาณ มากกว่า 2 ล้านล้านบาท  ก็หนักหนาสาหัสอยู่แล้ว

ยิ่งมาเจอ”รวยกระจุก จนกระจาย”ยิ่งเจ็บปวด

 

ไม่มีประโยคใดที่จะสรุปความล้มเหลวในการกระจายรายได้และลดความเหลื่อมล้ำได้มากยิ่งกว่าคำว่า

“รวยกระจุก จนกระจาย”

เท่ากับว่าการหว่านเงินลงไปในตลาดมากกว่า 2 ล้านล้านบาทแทบไม่ได้ตกถึงมือ”ประชาชน”ในความเป็นจริง

เท่ากับสะท้อนว่า”ประชารัฐ”สร้างความมั่งคั่งให้กับที่ใ