‘ดีแทค’ ฟ้องศาลปกครอง ขอเพิกถอน มติกสทช. หวั่นลูกค้าได้รับผลกระทบ

วันที่ 6 กันยายน 2561 บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค ยื่นฟ้องเพิกถอนคำสั่งของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ต่อศาลปกครองกลาง เพื่อขอให้ลูกค้า ดีแทค ได้รับสิทธิเข้าสู่มาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการตามประกาศ กสทช. เรื่อง มาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการเป็นการชั่วคราวกรณีสิ้นสุดการอนุญาตสัมปทาน หรือสัญญาการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ บนคลื่น 850 เมกะเฮิรตซ์ จนกว่า กสทช. จะนำไปจัดสรรประมูลตามความเหมาะสมต่อไป

จากการที่คลื่นความถี่ดีแทคกำลังจะสิ้นสุดสัมปทาน 27 ปีที่ให้บริการ และดีแทคมีหนังสือถึง กสทช. เรียกร้องให้ทบทวนมติเรื่องมาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการชั่วคราวในกรณีสิ้นสุดการอนุญาตสัมปทานหลายครั้ง โดย กสทช. ยังไม่ได้มีมติใดๆ ขณะที่เหลืออีกเพียง 9 วันก่อนสิ้นสุดสัมปทาน ดีแทค จึงต้องยื่นฟ้องเพิกถอนคำสั่งของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ต่อศาลปกครองกลางเพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งกำหนดมาตรการหรือวิธีการคุ้มครองเพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราว เพื่อสิทธิประโยชน์ของลูกค้าดีแทคในการใช้งานคลื่น 850 เมกะเฮิรตซ์

นายราจีฟ บาวา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มกิจการองค์กรและพัฒนาธุรกิจ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค เปิดเผยว่า ดีแทคได้พิจารณาถึงสถานการณ์และแนวทาง กสทช. ในขณะนี้ โดยเชื่อว่า ยังไม่สามารถมีข้อสรุปได้ แม้ว่า จะมีการกำหนดในประกาศของ กสทช. และตัวอย่างที่ผ่านมากับผู้ประกอบการรายอื่น ดังนั้น เพื่อให้ลูกค้าดีแทคได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมในการคุ้มครองชั่วคราว เราจึงต้องดำเนินการด้านกฎหมายเพื่อลูกค้าของเรา

นายราจีฟ กล่าวว่า ดีแทคมีลูกค้าในระบบสัมปทานกับ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT จำนวน 90,000 ราย โดยมีลูกค้าดีแทคไตรเน็ต หรือ ดีทีเอ็น อีกเป็นจำนวนมากที่ใช้บริการข้ามโครงข่ายภายในประเทศ (Domestic Roaming) บนคลื่น 850 เมกะเฮิรตซ์ ทั่วประเทศ ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบการใช้งานของลูกค้า ซึ่งถือว่า ทั้ง กสทช. ดีแทค และ CAT มีหน้าที่ในการดูแลคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งถือเป็นความรับผิดชอบในการที่จะต้องให้บริการตามประกาศ กสทช. อีกด้วย

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ดีแทค และ CAT ได้ร่วมยื่นแผนคุ้มครองลูกค้ากรณีสิ้นสุดการอนุญาตสัมปทาน ต่อ กสทช. เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2561 เพื่อปฏิบัติตามประกาศ กสทช. เรื่องมาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการเป็นการชั่วคราวในกรณีสิ้นสุดการอนุญาตสัมปทาน หรือสัญญาการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ภายใต้สัญญาให้บริการเดิม เพื่อให้ลูกค้าดีแทคที่ยังอยู่ในระบบสัมปทานเดิม ซิมไม่ดับและมั่นใจในการใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ กสทช. ได้เคยอนุมัติการเยียวยาแก่ผู้ให้บริการรายอื่นที่เป็นคู่แข่งของ ดีแทค เป็นระยะเวลา 9 เดือน และ 26 เดือน แต่กรณีดีแทคกำลังจะหมดสัมปทานคลื่น 850 เมกะเฮิรตซ์ กสทช. ได้มีเงื่อนไขในการอนุมัติการคุ้มครองถ้าดีแทคเข้าประมูลคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์

“ที่ผ่านมา ไม่เคยเกิดเงื่อนไขและสถานการณ์ที่จะปฏิเสธการคุ้มครองผู้ใช้งานมือถือ สำหรับลูกค้าดีแทคได้ใช้งานคลื่น 850 เมกะเฮิรตซ์ แต่การนำคลื่นมาประมูลเป็นคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ ซึ่งไม่ใช่คลื่น 850 เมกะเฮิรตซ์ ในทางปฏิบัติต้องใช้เวลาประมาณ 24 เดือนเพื่อการเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่จำนวนมากกว่าหมื่นแห่ง อย่างไรก็ตาม ไม่มีผู้ประกอบการรายใดสนใจเข้าประมูลคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ ที่จัดขึ้นเนื่องด้วยเงื่อนไขการประมูลที่กำหนดขึ้นเป็นเรื่องที่ปฎิบัติไม่ได้” นายราจีฟ กล่าว

นายราจีฟ กล่าวว่า ถ้าศาลมีคำสั่งคุ้มครองสิทธิการใช้งานของลูกค้าดีแทคบนคลื่น 850 เมกะเฮิรตซ์ รายได้จากการให้บริการที่เกิดขึ้นในช่วงการคุ้มครองจะถูกนำส่งให้รัฐหลังหักค่าใช้จ่าย ซึ่งทำให้รัฐไม่เสียผลประโยชน์ใดๆ แต่ถ้าทิ้งคลื่นไม่ใช้งานจะนำความเสียหายมาสู่ทั้งรัฐและผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ การคุ้มครองการใช้งานชั่วคราวจึงเกิดประโยชน์สูงสุดกับทุกฝ่าย

ดีแทคจะดำเนินการแจ้งลูกค้าในรายที่ได้รับผลกระทบจากกรณีที่ไม่ได้รับการคุ้มครองคลื่นความถี่จาก กสทช. โดยดีแทคกำลังเร่งขยายพื้นที่การให้บริการทั้งคลื่น 2100 เมกะเฮิรตซ์ และ คลื่น 2300 เมกะเฮิรตซ์ ของทีโอที อย่างต่อเนื่อง และมีการพัฒนาสัญญาณเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว