เสียงเปรยอันมาจากกกต.ที่ว่า “กลุ่มสามมิตรยังไม่จดทะเบียนเป็นพรรคการเมือง การเดินสายจะขัดกับคำสั่งคสช.หรือไม่”

สร้างความตื่นเต้นเป็นอย่างสูง

ไม่เพียงเพราะมีเสียงสวนจาก”กลุ่มสามมิตร”อย่างทันทีทันควันว่า

“ถ้ากกต.ยุบจริงวันนี้ พรุ่งนี้ก็จะตั้ง”กลุ่มมหามิตร”ขึ้นมาใหม่ได้ ไม่มีกฎหมายที่จะลงโทษคนที่มารวมกัน 200-300 คนแล้วพูดคุยในเรื่องที่สร้างสรรค์ สร้างความรักความสามัคคี”

หากแต่ยังทำให้ พรรคและกลุ่มการเมืองทั้งหลายต่างรอคอยและติดตามด้วยความระทึกในดวงหทัยเป็นอย่างสูง

ชะตากรรมของ”กลุ่มสามมิตร”จะเป็นอย่างไร

 

กระนั้น หากประเมินอย่างเปรียบเทียบระหว่าง 1 กกต.ที่กำลังรอวันนับถอยหลัง กับ 1 กลุ่มสามมิตรที่เหมือนกับดวงตะวันยามเช้า

น้ำหนักการต่อรองจะอยู่ที่ “กลุ่มสามมิตร”มากกว่า

เหตุผลไม่เพียงเพราะว่า การเคลื่อนไหวของ”กลุ่มสามมิตร”จะได้รับไฟเขียวผ่านตลอด

ไม่ว่าจะกลางรีสอร์ทดังจังหวัดเลย ไม่ว่าจะเป็นคลับเฮาส์ สนามกอล์ฟดัง จังหวัดปทุมธานี กระทั่งล่าสุดนัดมวลชนเกือบ 500 มาประชุมทีบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น

ก็ไม่เคยปรากฏเจ้าหน้าที่ไม่ว่าทหาร ไม่ว่าตำรวจหรือฝ่ายปกครองไปเยี่ยมกรายเลยสักครั้ง

แถมมี “ข่าวลือ”ว่าบางกรณีมีคนในเครื่องแบบ”นำร่อง”ให้ด้วย

และนับวันการเดินสายของ “กลุ่มสามมิตร”ก็มีลักษณะสัญจรแทบไม่แตกต่างไปจาก “ครม.สัญจร”ที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เลย

เพียงแต่ “สามมิตรสัญจร”นำโดย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน และหรือ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เท่านั้น

 

การเดินสายพบประชาชนของ”กลุ่มสามมิตร”จึงได้รับการเฝ้ามองด้วยความตื่นเต้นอย่างเป็นพิเศษ

เมื่อเทียบกับการไม่ยอมให้พรรคการเมือง”ขยับ”

จึงเห็นเด่นชัดว่าการติดล็อกจากประกาศคสช.ฉบับที่ 57/2557 หรือคำสั่งหัวหน้าคสช.ฉบับที่ 3/2558 หมายถึงคนอื่น

เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับ”กลุ่มสามมิตร”และ”สามมิตรสัญจร”