อุรุดา โควินท์ / ความทรงจำ : จานของตาต๊อก

ตาเป็นชายเชื้อสายจีนร่างสูงใหญ่ เป็นชาวราชบุรีผู้ย้ายถิ่นฐานมาเชียงราย เมื่อครั้งที่เชียงรายยังเป็นเมืองเล็กซึ่งล้อมรอบด้วยป่าไม้

ฉันเคยถามแม่-ทำไมตามาอยู่เชียงราย ตามีญาติพี่น้อง มีครอบครัวใหญ่อยู่ราชบุรี มีสวนหลายไร่ไว้ทำกิน

“ตาหนีมาทำงานกับฝรั่ง” แม่ตอบสั้นๆ แล้วหัวเราะ

แม่คงไม่รู้รายละเอียดเกี่ยวกับการย้ายถิ่นของตา แต่ “ทำงานกับฝรั่ง” ทำให้ฉันรู้ว่าตาย้ายมาเชียงรายในช่วงที่เชียงรายสร้างเมือง ทำถนน ทำโรงพยาบาล

ฉันจินตนาการต่อ-จากข้าวของของตา อาทิ ปืนสารพัดแบบ และหนังสัตว์ ตาต้องเข้าป่าบ่อย ดังนั้น คำว่าทำงานกับฝรั่ง น่าจะหมายถึงการทำไม้

 

โควินท์ นามสกุลที่ฉันใช้ เป็นนามสกุลของตา ตาแต่งงานสามครั้ง มีเมียสามคน แต่มีลูกเพียงคนเดียว คือแม่ของฉัน

ตาบอกแม่ว่า ถ้าแม่มีลูกชาย ขอให้ใช้นามสกุลตา ตาก็เหมือนชายชาวจีนทั่วไป อยากมีลูกชายหรือหลานชายไว้สืบสกุล ให้บังเอิญอีกนั่นล่ะ ที่ทั้งฉันและน้องสาวเป็นเพศหญิง เราจึงใช้นามสกุลของพ่อตั้งแต่เกิด

วันที่แม่บอกให้ฉันเปลี่ยนนามสกุลเป็นโควินท์ ใจหนึ่ง ฉันห่วงความรู้สึกพ่อ แต่อีกใจ ฉันคิดถึงตา ตาคงดีใจที่เราได้ใช้โควินท์ไปอีกระยะ… จนกว่าจะแต่งงาน

ตอนฉันเป็นวัยรุ่น กฎหมายยังไม่ยืดหยุ่นให้เพศหญิง เมื่อแต่งงาน นามสกุลของเราจะถูกเปลี่ยนโดยอัตโนมัติ เราต้องทำบัตรประชาชนใหม่ เปลี่ยนคำนำหน้า และใช้นามสกุลของคู่สมรส

ฉันไม่นึกฝัน โควินท์จะติดอยู่กับฉันจนวันนี้ นามสกุลซึ่งเมื่อต่อหลังชื่อของฉัน มันดูเหมาะเจาะกว่านามสกุลไหน ทั้งเป็นนามสกุลที่ทำให้หลายคนเข้าใจผิด คิดว่าฉันมีเชื้อสายทางอินเดีย

ความจริงก็คือ โควินท์มาจากแซ่โค้ว

 

โควินท์เป็นส่วนหนึ่งของตัวฉัน เป็นนามสกุลซึ่งฉันจะใช้ตลอดชีวิต ในที่สุด ตาต๊อกก็มีผู้สืบนามสกุล เพียงแต่เป็นหญิง ไม่ใช่ชาย

ฉันชอบคิดเล่นๆ ถ้าตายังอยู่ ตาจะเป็นคุณตาแบบไหน

ตาจะเล่น fb มั้ย

ตาจะรู้สึกอย่างไรกับความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจของหลาน

ตาจะภาคภูมิใจกับโควินท์ของตามากขึ้นมั้ย

ตาเป็นพ่อเลี้ยง มีความเป็นป๋าพันเปอร์เซ็นต์ ฉันออกจะแน่ใจ ตาต๊อกต้องซื้อหนังสือของหลานสาวอย่างน้อย 500 เล่ม (เอาไปแจก หรือไม่ก็ตั้งไว้ดูเล่น เพราะบนหน้าปกมีนามสกุลตา)

คิดแล้วก็ขำ ช่างยากเย็นที่จะบอก ว่าตาคิดอย่างไร เป็นเช่นไร ทั้งที่ชีวิตตาน่าสนใจมาก เมื่อมองผ่านสายตานักเขียน

“รู้แต่ว่าตาชอบเต้าหู้ทรงเครื่องจานนี้แน่” ฉันชี้จานโปรดของตา

“รู้จักตาตัวเองน้อยมากเลย” เขาบอก ตักเต้าหู้ชิม “อร่อยมาก”

นอกจากอาหารจานนี้ ก็ไม่มีอะไรที่แจ่มชัดชนิดจับต้องได้ ตาจากไปตั้งแต่ฉันยังเป็นเด็ก ฉันมักเห็นตานั่งอยู่ตรงนั้น หน้าบ้าน ในบ้าน หรือที่โต๊ะอาหาร พร้อมกับรอยยิ้มจางๆ และไม้เท้า ตาพูดน้อย ไม่บ่น ไม่เคยดุ เมื่อเห็นฉัน ตาจะส่งขนมให้ ขนมที่อยู่ใกล้มือตาที่สุด

“แล้วทำเป็นได้ไงอ่ะ จานนี้” เขาถาม

“แม่ทำบ่อย ทำทุกครั้งที่เราไปกินข้าวกับตาที่บ้าน”

 

ใช้เต้าหู้อ่อน หั่นเป็นชิ้นใหญ่หน่อย ทอดให้ด้านนอกเหลืองสวย ใส่เต้าหู้ลงกระทะตอนน้ำมันร้อน ทอดทีละด้าน พอเป็นสีทองก็ตักขึ้นมาพักไว้ในกระชอน

ตัวน้ำราดทรงเครื่อง ประกอบด้วย มะเขือเทศหั่นชิ้นเล็กๆ หอมหัวใหญ่หั่นชิ้นเล็กๆ หมูสับหรือกุ้งสับ และพริกหนุ่มหั่นชิ้นเล็กๆ เวลาแม่ทำ แม่มักเน้นหมู แต่ฉันชอบใช้มะเขือเทศกับหอมใหญ่มากสักหน่อย หอมหัวใหญ่ผัดช่วยชูรสให้ทุกจาน ส่วนความเปรี้ยวนุ่มนวลของมะเขือเทศก็ช่วยให้อาหารหลากรสขึ้น กินได้มากขึ้น บ่อยขึ้น

ตั้งกระทะ ใช้น้ำมันนิดหน่อย พอน้ำมันร้อน ใส่หมูสับพร้อมกระเทียมสับ ผัดไฟกลางให้หมูสุก แล้วใส่หอมหัวใหญ่ ผัดให้หอมหัวใหญ่ใส จึงถึงคราวของมะเขือเทศและพริก เร่งไฟขึ้นสักนิด ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว เกลือ และน้ำตาล เยาะน้ำมันงาให้หอม รอผักทุกอย่างสุก ค่อยเติมน้ำลงไปหน่อย ครั้นเดือด จึงหยอดน้ำละลายแป้งข้าวโพดสักสองช้อนโต๊ะ

แม่ชอบใช้แป้งมัน แต่ฉันชอบแป้งข้าวโพด แป้งมันทำให้เหนียว แต่แป้งข้าวโพดช่วยให้อาหารดูข้นขึ้น

แป้งสุกก็ปิดเตา ตักน้ำปรุงทรงเครื่องราดลงบนเต้าหู้ ราดตอนที่ร้อนจัด แล้วโรยต้นหอมหั่นกับพริกไทยขาว

เคล็ดลับก็คือ น้ำราดต้องเยอะ มากพอจะกินกับเต้าหู้จืดๆ มันเป็นอาหารที่ฉันชอบตักกินเปล่าๆ กินไป จินตนาการถึงตาไป

 

“ถ้าตาอยู่นานกว่านี้ จะมีเรื่องให้เขียนมากขึ้นมั้ยนะ” เขาเปรย

ฉันถามตัวเองบ่อยครั้ง เพราะไม่แน่ใจเอาเสียเลย ถ้าตามีอายุอีก 10 ปี เราจะคุยกันมากขึ้นมั้ย ฉันตอบไม่ได้จริงๆ

ตักเต้าหู้เข้าปากอีกคำ บอกเขา “แค่นี้ก็ดีแล้วล่ะ ดีเกินพอ”

ตาอยู่ในตัวฉัน มันคือเรื่องราวมากมายที่หล่อหล่อมฉันขึ้นมา ในบ้านของตา อาณาจักรเล็กๆ ของตา

ตาติดอยู่ในการงานของฉันพร้อมกับนามสกุล ซึ่งฉันไม่ทันได้ถาม-ตาโอเคมั้ย ถ้ามันอยู่บนปกหนังสือ

ไม่ถาม แต่ฉันมั่นใจ-ตาจะส่งยิ้มภาคภูมิใจมาให้ ตาอาจงง ว่าหลานมีชีวิตอย่างไร อยู่บ้านทั้งวัน เดี๋ยวก็ทำกับข้าว เดี๋ยวก็ไปวิ่ง เอาเงินจากไหนมาใช้

นั่นเป็นหน้าที่ของฉัน ที่จะทำให้ตาสบายใจ…ก็แค่ส่งนิตยสารให้ตาดู และอ่านให้ฟัง

นี่คือเรื่องเล่าของหลานนะตา เรื่องที่มาจากตา แถมมีเต้าหู้ทรงเครื่อง จานโปรดของตาด้วย