โลกหมุนเร็ว / เพ็ญศรี เผ่าเหลืองทอง/The Prince ของมาเคียเวลลี (2)

โลกหมุนเร็ว / เพ็ญศรี เผ่าเหลืองทอง [email protected]

 

The Prince ของมาเคียเวลลี (2)

 

ในบทที่ว่าด้วย “ความเอาใจใส่ด้านการทหารของผู้ครองนคร” มาเคียเวลลีบอกว่า เมื่อใดก็ตามที่ผู้ครองนครได้ขึ้นสู่อำนาจ เขาควรจะมุ่งความสนใจไปที่การทำสงครามแต่อย่างเดียว

เพราะนั่นเป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้รักษาอำนาจไว้ได้ ไม่ว่าผู้ครองนครนั้นจะขึ้นสู่อำนาจตามสายโลหิตหรือว่าเขาจะมาจากพื้นเพที่ต่ำต้อยมาก่อนก็ตาม

เขาตั้งข้อสังเกตว่า เมื่อใดก็ตามที่ผู้ครองนครมัวเมาในการเสพสุข เขาก็จะต้องเสียเมือง

ในประวัติศาสตร์ไทยสมัยกรุงศรีอยุธยา เราได้รับการบอกเล่าว่า เมื่อพระเจ้าเอกทัศน์ไม่สนใจเรื่องการศึก สนใจแต่ว่าเสียงปืนจะทำให้สนมนางในตกอกตกใจ แสดงถึงการที่พระองค์ไม่สนใจในเรื่องการศึก ไม่ช้าไม่นานกรุงศรีอยุธยาก็ตกเป็นของพม่า

มาเคียเวลลียังตั้งข้อสังเกตว่า ถ้าหากผู้ครองนครไม่สนใจการรบแล้วปล่อยให้ทหารคู่ใจรบพุ่งอยู่แต่ลำพัง เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง

ในที่สุดแล้วทั้งผู้ครองนครและทหารคู่ใจก็จะไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้ เพราะเจ้าผู้ครองนครจะได้รับการดูหมิ่น ไร้เกียรติ และไม่สามารถไว้วางใจทหารคู่ใจได้

ดังนั้น เจ้าผู้ครองนครจึงไม่ควรละเลยการฝึกปรือการศึกสงคราม ไม่แม้แต่ในยามสงบ โดยที่เขาสามารถทำควบคู่ไปพร้อมกันทั้งการทำศึกและร่ำเรียนวิชาความรู้เรื่องการศึก

 

ในเรื่องการฝึกปรือ ผู้ครองนครต้องหมั่นฝึกทหารให้พร้อมรบและมีวินัย ผู้ครองนครควรออกป่าล่าเหยื่อ เพื่อให้ร่างกายแข็งแกร่งพร้อมเสมอ และยังเป็นการทำความคุ้นเคยกับภูมิประเทศ ตรงไหนเป็นที่สูง ที่ราบ ทางออกไปสู่ช่องแคบต่างๆ ทางเดินของสายน้ำ นี่ย่อมทำให้เขารู้จักพื้นที่อย่างทะลุปรุโปร่ง และรู้วิธีป้องกันจุดอ่อนต่างๆ

นักการเมืองในยุคปัจจุบันออกไปคลุกคลีกับประชาชน อย่างแรก ก็เพื่อรับรู้ความคิดของประชาชน อย่างที่สอง ก็คือเรียนรู้ว่าประชาชนเกาะกุมกันอยู่เป็นกลุ่มเป็นเหล่าแบบไหน

หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่ใครๆ ว่าเป็นละอ่อนในทางการเมือง เมื่อตัดสินใจลงมาเล่นการเมืองอย่างเต็มตัวแล้ว ก็ขะมักเขม้นออกไปพบปะประชาชนตามภาคต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ

ในยุคของมาเคียเวลลี การรู้จักภูมิประเทศของตนเป็นอย่างดีคือคุณสมบัติสำคัญของจอมทัพ เราจะเห็นอยู่เสมอว่าผู้นำทัพคือผู้ที่รู้ภูมิประทศเป็นอย่างดี และเป็นผู้วางแผนตั้งรับหรือโจมตีข้าศึก

ขณะที่การค้นหาทีมฟุตบอลเยาวชนกำลังดำเนินไปในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน การทำความคุ้นเคยกับภูมิประเทศเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง

 

มาเคียเวลลีสรรเสริญผู้ครองนครคนหนึ่งที่ชื่อ ฟิโลโพเมน ที่ครองเมืองเอเคียน ผู้ครองนครคนนี้คิดแต่เรื่องการทำศึกสงครามทุกลมหายใจ เขามักจะชวนเพื่อนออกไปนอกเมืองและมักจะถามเพื่อนว่า “ถ้าหากศัตรูอยู่บนเขานั้น และเราต้องตั้งทัพอยู่ที่นี่ ใครจะเป็นฝ่ายได้เปรียบ” และ “เราจะเดินทัพเข้าไปหาข้าศึกอย่างเป็นระเบียบได้อย่างไร” “และถ้าหากเราจะถอย เราจะถอยแบบไหน”

ฟิโลโพเมนจะผลัดกันกับเพื่อนแสดงความคิดเห็น

ดังนั้น ไม่ว่าฟิโลโพเมนจะออกรบกี่ครั้งก็ไม่เคยเผชิญกับสถานการณ์ที่เขาไม่มีทางออก

นั่นเป็นการซ้อมทำสงครามด้วยการจำลองสถานการณ์หลายรูปแบบ

สำหรับในส่วนของการศึกษาหาความรู้ มาเคียเวลลีบอกว่าผู้ครองนครก็ควรจะศึกษาประวัติศาสตร์ และนำบุคคลเด่นในประวัติศาสตร์มาไตร่ตรอง ดูว่าในยามสงครามบุคคลนั้นทำอย่างไร

ศึกษาดูว่าเขาชนะศึกเพราะอะไรและเขาแพ้ศึกเพราะอะไร เสร็จแล้วก็พยายามทำตามอย่างแรกและหลีกเลี่ยงอย่างหลัง

มาเคียเวลลียกตัวอย่างว่า พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ก็ตามอย่างอะคีลีส ต่อมาซีซาร์ก็เลียนแบบอเล็กซานเดอร์ ส่วนซิพิโอเลียนแบบไซร์

 

บทหนึ่งที่น่าสนใจใน The Prince คือบทที่ว่าด้วยความโหดร้าย จะเป็นผู้ครองนครที่มีคนเกรงกลัวหรือมีคนรักดีกว่ากัน

มาเคียเวลลีบอกว่า ผู้ครองนครน่าจะปรารถนาให้ตนเองเป็นที่รักมากกว่าเป็นที่เกรงกลัว แต่อย่างไรก็ตาม ก็จะต้องระวังที่จะไม่ใจดีพร่ำเพรื่อ

นึกถึงนายกฯ ของเราที่ชื่อประยุทธ์ จะว่าไปท่านก็เป็นนายกฯ ที่น่ารักทีเดียว แต่ก็เด็ดขาดในหลายเรื่อง

ที่ว่าผู้ครองนครไม่ควรใจดีพร่ำเพรื่อ มาเคียเวลลียกตัวอย่างซีซาร์ บอร์เกีย ซึ่งใครๆ ว่าโหดร้าย แต่ความโหดร้ายนี้ก็ให้คุณ คือทำให้สามารถกู้โรมานญากลับคืนมาได้ ทำให้เมืองกลับคืนสู่ความสงบสุขและเกิดความจงรักภักดี

มาเคียเวลลีมีความเห็นว่าเจ้าผู้ครองนครสามารถแสดงความโหดร้ายได้หากจำเป็นที่จะต้องกู้เมืองกลับคืนมา แต่หลังจากนั้นเขาควรเลือกที่จะวางตัวมีเมตตา แบบนี้ดีกว่าเจ้าผู้ครองนครที่ใจดีเกิน ทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง

ความวุ่นวายคือสิ่งที่ทำลายสถาบันประชาชน ในขณะที่การสั่งประหารคนบางคนมีผลต่อคนไม่กี่คน ในความเป็นจริงแล้วสำหรับเจ้าผู้ครองนครที่ขึ้นสู่อำนาจใหม่ก็ยากที่จะหลีกเลี่ยงไม่ทำการอันโหดร้าย เพราะชาติที่ก่อตั้งขึ้นใหม่มีแต่ภยันตราย

อย่างไรก็ตาม มาเคียเวลลีแนะนำให้เจ้าผู้ครองนครคนใหม่ไม่ด่วนตัดสินใจเชื่อสิ่งใดหรือกระทำสิ่งใด และไตร่ตรองดูให้ดีก่อนที่จะเชื่ออันตรายที่มาจากจินตนาการ ควรเดินอย่างระมัดระวัง ละมุนละม่อม ด้วยมนุษยธรรม และหลีกเลี่ยงความประมาทที่เกิดจากความมั่นใจในตัวเองเกินไป

สำหรับคำถามที่ว่าเจ้าผู้ครองนครควรเลือกอะไรระหว่างการมีคนรักกับคนกลัว คำตอบของมาเคียเวลลีคือ ควรเลือกทั้งคู่ แต่นี่ไม่ใช่เรื่องง่าย เจ้าผู้ครองนครส่วนใหญ่มักเลือกสิ่งที่ง่ายกว่าคือทำให้ประชาชนกลัว เพราะมันให้ความรู้สึกมั่นคงมากกว่า

ถ้าพูดแบบไทยก็คือ ใช้ทั้งพระเดชและพระคุณนั่นเอง

 

สําหรับในการศึกสงคราม เมื่อต้องนำทัพทหารเป็นจำนวนมากมายมหาศาล เจ้าผู้ครองนครจำเป็นจะต้องไม่สนใจคำครหาว่าเป็นคนโหดร้าย เพราะมันช่วยให้กองทัพผนึกเป็นหนึ่งเดียว มาเคียเวลลียกตัวอย่างฮันนิบาลผู้ต้องนำทัพคนหลายเผ่าทำการรบในแผ่นดินต่างชาติ ความโหดร้ายทำให้เขานำทัพได้อย่างไม่มีเงื่อนไข

เรื่องการใช้พระเดชหรือพระคุณแบบไทยๆ ก็เพิ่งมีตัวอย่างให้เห็นจากการเผยแพร่กันในโลกโซเชียล ในกรณีกู้ชีวิตทีมฟุตบอลที่ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน เมื่อมีการส่งรูปท่าน ผบ.ตร. ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับผู้ใต้บังคับบัญชา ได้ใจคนที่พบเห็น และแน่นอนก็ต้องได้ใจลูกน้องด้วย

ส่วนนายตำรวจระดับรองผู้บังคับบัญชากลับใช้อำนาจสั่งการ ต่อมาก็มีการบังคับไม่ให้ถ่ายคลิป คงจะเป็นตัวอย่างของการใช้พระเดชแต่อย่างเดียว ผลที่ออกมาก็อย่างที่เห็นๆ กันอยู่

ในยุคของมาเคียเวลลีไม่มีโลกโซเชียลให้เกิดการแฉพฤติกรรมที่ไม่เป็นที่ชื่นชมกันแบบนาทีต่อนาที แต่ปัจจุบันนี้นี่คืออาวุธที่ผู้ปกครองทุกคนย่อมต้องระวัง