ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 25 - 31 พฤษภาคม 2561 |
---|---|
คอลัมน์ | ต่างประเทศ |
เผยแพร่ |
นับเป็นงานใหญ่แห่งปีจริงๆ สำหรับพิธีเสกสมรสระหว่างเจ้าชายแฮร์รี รัชทายาทลำดับที่ 6 แห่งราชวงศ์อังกฤษ กับเมแกน มาร์เคิล พระคู่หมั้น
ในงานที่จัดขึ้นอย่างสมพระเกียรติเมื่อวันเสาร์ที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา ที่มีทั้งชาวอังกฤษและผู้คนจากทั่วโลกคอยชมพิธีดังกล่าวอย่างใจจดใจจ่อ
ท่ามกลางพิธีเสกสมรสที่ดูยิ่งใหญ่แต่เรียบง่ายจนหลายคนพากันชื่นชม รวมไปถึงการแสดงออกซึ่งความรักระหว่างคู่บ่าว-สาว ที่แสดงออกมาให้เห็นได้อย่างชัดเจนระหว่างการประกอบพิธีเสกสมรส
หากแต่เรื่องหนึ่งที่มีการพูดถึงกันอย่างมาก คือการที่ราชวงศ์อังกฤษยอมผ่อนปรนขนบธรรมเนียมหลายสิ่งที่มีมาแต่โบราณอย่างที่ไม่ค่อยปรากฏให้เห็น
เรื่องแรกคือเรื่องเจ้าสาว คือ “เมแกน มาร์เคิล” ซึ่งเป็นดาราสาวที่เคยผ่านการแต่งงานมาและหย่ามาแล้ว
ซึ่งจริงๆ แล้ว การที่เชื้อพระวงศ์ระดับสูงจะมีสัมพันธ์กับผู้ที่เคยผ่านการหย่าร้างมาแล้ว ถือเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยปรากฏให้เห็นบ่อยนัก
หากแต่ว่า เรื่องเช่นนี้ไม่ใช่ว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในราชวงศ์อังกฤษ เพราะเมื่อครั้งปี ค.ศ.1936 สมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8 ต้อง “สละราชสมบัติ” เนื่องจากขออภิเษกสมรสกับวอลลิส ซิมป์สัน แม่ม่ายชาวอเมริกัน ที่ผ่านการหย่าร้างมาแล้วถึง 2 ครั้ง
หลังจากนั้นยังมีเจ้าหญิงมาร์กาเร็ต ที่ถูกบังคับให้ตัดใจจาก “ปีเตอร์ ทาวน์เซนด์” คนรักที่เป็นหัวหน้าราชองครักษ์ ซึ่งเคยผ่านการหย่าร้างมาแล้วเช่นกัน
ผ่านไปอีกครึ่งศตวรรษ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฎราชกุมารแห่งราชวงศ์อังกฤษ ทรงเข้าพิธีอภิเษกสมรสเป็นครั้งที่ 2 กับคามิลล่า ปาร์กเกอร์ โบว์ลส์ สาวม่ายที่เป็นคนสนิทของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์มานาน ซึ่งมีขึ้นได้เนื่องจากการปรับเปลี่ยนกฎของเชิร์ชออฟอิงแลนด์
หากแต่การอภิเษกสมรสดังกล่าวก็ยังเต็มไปด้วยความไม่เห็นด้วยของผู้คนจำนวนมาก
หากแต่สำหรับเมแกนกับเจ้าชายแฮร์รี หาใช่ไม่ เพราะเมแกนได้รับการต้อนรับอย่างเต็มที่จากราชวงศ์อังกฤษ แม้จะเคยผ่านการหย่าร้างมาแล้วก็ตาม
สิ่งที่ต่างไปจากประเพณีเดิมของราชวงศ์อังกฤษ คือเรื่องของการจุมพิตระหว่างเจ้าชายแฮร์รีและเมแกนหลังเสร็จพิธีเสกสมรส ไม่ได้เกิดขึ้นที่ระเบียงมุขของพระราชวังบักกิงแฮม เหมือนกับคู่อื่นๆ
ซึ่งการจุมพิตของคู่บ่าว-สาวใหม่ของเชื้อพระวงศ์อังกฤษ ที่ระเบียงมุขของพระราชวังบักกิงแฮม เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 1982 สมัยที่เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์อภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงไดอาน่า
หลังจากนั้น ก็คู่ของเจ้าชายแอนดรูว์ กับซาราห์ เฟอร์กูสัน และเจ้าชายวิลเลียม กับเคท มิดเดิลตัน
แต่ด้วยความที่พิธีเสกสมรสของเจ้าชายแฮร์รีกับเมแกน จัดขึ้นที่โบสถ์เซนต์จอร์จ ในพระราชวังวินด์เซอร์ ไม่ได้จัดในกรุงลอนดอน จึงไม่มีระเบียงมุข
แต่ก็ไม่สามารถหยุดยั้ง “จุมพิต” แห่งความรักของคนทั้งคู่ได้
ภาพแห่งความประทับใจของการจุมพิตจึงเกิดขึ้นที่หน้าประตูพระราชวังวินด์เซอร์นั่นเอง
ขณะที่โดยธรรมเนียมปฏิบัติแล้ว ในคืนก่อนหน้าเข้าพิธีเสกสมรส คู่บ่าว-สาวของเชื้อพระวงศ์อังกฤษจะต้องอยู่แยกกันภายในบริเวณพระราชวัง
อย่างเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ประทับที่พระราชวังบักกิงแฮม
ส่วนเจ้าหญิงไดอาน่า ประทับที่พระตำหนักแคลเรนซ์ ซึ่งอยู่ใกล้กัน
แต่คู่ของเจ้าชายวิลเลียมนั้น เคทพักอยู่ที่โรงแรมเดอะกอริง ส่วนเจ้าชายวิลเลียม ประทับที่พระตำหนักแคลเรนซ์
อย่างไรก็ตาม สำหรับคู่ของเจ้าชายแฮร์รี ดูจะแตกต่างโดยสิ้นเชิง เพราะเจ้าชายแฮร์รีประทับที่โรงแรมโคเวิร์ธ พาร์ก ส่วนเมแกนพักที่โรงแรมคลิฟเดน เฮาส์
ส่วนเค้กในพิธีเสกสมรสตามธรรมเนียมของราชวงศ์อังกฤษ เค้กแต่งงานส่วนใหญ่จะต้องเป็นเค้กหลายชั้น ที่เป็นเค้กผลไม้ เคลือบด้วยมาร์ซิแพน และโรยไอซิ่งอย่างหนา หากแต่งานเสกสมรสครั้งนี้ เจ้าชายแฮร์รีและเมแกนเลือกเค้กเลมอนและดอกเอลเดอร์ ที่เคลือบด้วยบัตเตอร์ครีมและดอกไม้สด
เพื่อต้องการที่จะรื่นเริงไปกับรสชาติประจำฤดูกาล
และที่ดูเป็นเรื่องดราม่าในช่วงสุดท้ายก่อนพิธีเสกสมรส คืองานนี้ไม่มีพ่อเจ้าสาวพาเจ้าสาวเข้าพิธีในโบสถ์
เนื่องจากนายโธมัส มาร์เคิล บิดาของฝ่ายเจ้าสาวต้องเข้ารับการผ่าตัดหัวใจ จึงกลายเป็นเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ พระบิดาของเจ้าชายแฮร์รีที่ทรงพาเจ้าสาวเข้าสู่พิธีในโบสถ์แทน
งานครั้งนี้ยังถือว่าเป็นงานที่มีดารามาร่วมมากที่สุดด้วย เหตุเพราะเมแกนเป็นดารานั่นเอง จึงได้ชวนเพื่อนๆ นักแสดงมาร่วมงานด้วย สำหรับบรายด์เมดและเพจบอยนั้น ก็ไม่ได้มีแต่เด็กๆ ที่มาจากฝั่งเชื้อพระวงศ์เหมือนที่ผ่านๆ มา เพราะมีเด็กๆ จากฝั่งเจ้าสาวรวมอยู่ด้วย
พิธีเสกสมรสครั้งนี้ ยังเป็นพิธีที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติอย่างมาก เริ่มตั้งแต่บาทหลวงไมเคิล เคอร์รี่ อาร์กบิชอพศาสนจักรเอปิสโคปาลเชิร์ชของสหรัฐอเมริกา ที่กล่าวสุนทรพจน์ในโบสถ์ ที่กล่าวถึงเรื่องพลังแห่งความรัก และกล่าวเปิดด้วยคำกล่าวของมาร์ติน ลูเธอร์คิง จูเนียร์
และยังมีนักร้องประสานเสียงที่เป็นนักร้องผิวสีด้วย
สุดท้าย คือการที่เจ้าชายแฮร์รีกลายเป็นเชื้อพระวงศ์พระองค์แรกในรอบ 125 ปี ที่สามารถไว้เคราในพิธีเสกสมรสได้ โดยได้รับพระอนุญาตจากสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ให้เจ้าชายแฮร์รีสามารถไว้เคราได้แม้อยู่ในชุดเครื่องแบบทหาร
ขณะเข้าพิธีเสกสมรส และพระองค์ยังทรงเลือกที่จะสวมแหวนแต่งงาน ซึ่งต่างจากเชื้อพระวงศ์พระองค์อื่นๆ ที่เลือกจะไม่สวมแหวนแต่งงาน
แต่ไม่ว่าจะมีอะไรที่ผิดแปลกไปจากประเพณีดั้งเดิมที่เคยทำ ที่สุดแล้ว พิธีเสกสมรสระหว่างเจ้าชายแฮร์รีกับเมแกน ก็ผ่านไปได้อย่างงดงาม
และน่าประทับใจอย่างยิ่ง