ขอแสดงความนับถือ/ฉบับประจำวันที่ 25-31 พฤษภาคม 2561

ขอแสดงความนับถือ

 

มิได้เป็นยุทธวิธีลึกซึ้ง

แบบ มึงมากูมุด มึงหยุดกูแหย่ มึงแย่กูตี มึงหนีกูตาม

เพียงแต่ “แดดการเมือง” มันร้อน

ก็ชวนหลบเข้าร่มไม้เย็นๆ เท่านั้น

จะไปยืนท้าแดดอยู่ทำไม

พลิกไปที่ “หน้า 80-81” โดยพลัน

จะพบเรื่องเย็นๆ

“แม่คุยกับลูก” โดย “แกมกาญจน์ ศุภวรรณ”

เธอเป็นใคร นักอ่านหลายคนรู้จัก ส่วนที่ไม่รู้

ต้องให้ “ธงทอง จันทรางศุ” เป็นผู้เฉลย

 

“…เมื่อประมาณสามสิบปีมาแล้ว

แม่ของผม

สุคนธ์ จันทรางศุ

มีอาชีพเป็นนักเขียนมาก่อน โดยใช้นามปากกาว่า ‘แกมกาญจน์ ศุภวรรณ’

แต่ได้เลิกเขียนหนังสือไปพักหนึ่งแล้ว เมื่อมีอายุเกือบครบ 60 ปี

ประกอบกับเวลานั้น แม่มีความสนใจในเรื่องของการปฏิบัติธรรม

และอ่านหนังสือเกี่ยวกับธรรมะของครูบาอาจารย์และผู้หลักผู้ใหญ่หลายท่าน

ผมได้ขอให้แม่เขียนหนังสือเกี่ยวกับความทรงจำในอดีต ประสมกับข้อคิดสอนใจที่แม่ได้จากการปฏิบัติธรรม

เพื่อฝากเป็นข้อเตือนใจสำหรับลูกและเพื่อนลูกทั้งหลาย ที่ไปมาหาสู่กับครอบครัวของเราอย่างสนิทสนมด้วย

แม่ก็เห็นด้วย และทยอยเขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้นโดยมีข้อแม้ว่า เพื่อให้เรื่องน่าอ่าน หรือลดแรงกระทบกระทั่งบางอย่างบางประการ ที่อาจเกิดขึ้นได้

แม่จะแก้ไขเพิ่มเติมข้อเท็จจริงบางส่วนเฉพาะเท่าที่จำเป็น

แต่เมื่อผมอ่านดูแล้ว ก็พบว่าการแก้ไขเพิ่มเติมเช่นว่านั้นมีน้อยมากเพียงหนึ่งหรือสองจุดเท่านั้น

และไม่ได้เป็นการเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญของเรื่องไปเลยแม้แต่น้อย

หนังสือเล่มนี้ จึงอาจกล่าวได้ว่าอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงในชีวิตของครอบครัวเราโดยแท้

และผู้อ่านจะเห็นได้ว่าผมและน้องชายที่มีอยู่คนเดียว เติบโตขึ้นมาท่ามกลางบรรยากาศของครอบครัวที่เป็นเช่นไร

พ่อและแม่ได้อบรมสั่งสอนเรามาอย่างไรบ้าง

รวมไปถึงเรื่องราวในอดีตว่าพ่อแม่ของเราเติบโตมาอย่างไรด้วย”

 

“…หลังจากแม่เขียนหนังสือเล่มนี้เสร็จได้เคยมีการพิมพ์รวมเล่มเพื่อเผยแพร่มาแล้วครั้งหนึ่ง

โดยใช้ชื่อ ‘แม่คุยกับลูก หน่า ยุ้ย ลูกรัก’

แต่มาถึงบัดนี้ หนังสือเล่มดังกล่าวกลายเป็นหนังสือหายากไปเสียแล้ว แม้ในบ้านของเราเองก็มีหนังสือเล่มนี้หลงเหลืออยู่สองสามฉบับเท่านั้น

วันที่ 26 เมษายน 2561 ยุ้ย หรือธารทอง จันทรางศุ น้องชายของผม มีอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์

ซึ่งตามธรรมเนียมไทยถือว่าเป็นการเปลี่ยนจากวัยกลางคนเข้าสู่ฐานะเป็นผู้อาวุโสเต็มที่

ยุ้ยกำหนดจะมีการบำเพ็ญกุศลตามประเพณีที่วัดโสมนัสวิหาร ซึ่งเป็นวัดของครอบครัวข้างฝ่ายแม่

ผมได้อาสาจะพิมพ์หนังสือสักเล่ม เป็นหนังสือที่ระลึกช่วยงานดังกล่าว

เมื่อมาตรึกตรองด้วยตัวเอง และปรึกษากับยุ้ยแล้ว

เราสองคนพี่น้องเห็นพ้องกันว่าหนังสือเล่มนี้ แม่ตั้งใจเขียนให้ลูกสองคนอ่าน

การนำมาอ่านและเผยแพร่ซ้ำอีกครั้งหนึ่งในงานแซยิดของยุ้ยปีนี้

ย่อมเป็นสิริมงคล และถ้าพ่อแม่ได้รู้ ท่านทั้งสองคนคงมีความพึงพอใจเป็นแน่

ด้วยความคิดอย่างนี้เอง หนังสือเล่มนี้จึงได้มาอยู่ในมือของท่านทั้งหลายแล้วในบัดนี้…”

 

อนึ่ง ปัจจุบัน นางสุคนธ์ จันทรางศุ ถึงแก่กรรมไปแล้ว

มีพระราชทานเพลิงศพ ณ เมรุวัดมกุฏกษัตริยาราม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร

เมื่อวันพุธที่ 30 พฤศจิกายน 2554

หนังสือ “แม่คุยกับลูก” ฉบับพิมพ์ใหม่ เดือนเมษายน 2561

ธงทอง จันทรางศุ มอบผ่าน “ขรรค์ชัย บุนปาน” เพื่อนำเสนอต่อผู้อ่าน “มติชนสุดสัปดาห์”

ให้ร่มรื่น และเย็นใจ

ในวันที่ “แดดแรง”